3 มี.ค. 2023 เวลา 01:20 • นิยาย เรื่องสั้น

นิยายจดหมายจากดวงจันทร์ (ต้า-พาราด็อกซ์) ตอนที่ 7

วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน
13:00 น. ณ ร้านกาแฟทุ่งดอกปุยฝ้าย
5
สวัสดีจ้ะ นี่ดวงจันทร์นะจ๊ะ
ตื่นเต้นตกใจมาก หลังจากอ่านเรื่องที่เธอเล่ามา ฉันก็เพิ่งรู้ว่า ชื่อเราสองคนนั้นอยู่ในอัลบั้มเดียวกัน แม่ฉันก็มีอัลบั้มนี้ เลยลองไปคุ้ยจากกระป๋องใต้เตียงที่แม่เก็บไว้ เอามาอ่านชื่อเพลง ชื่อของฉันอยู่ในอัลบั้ม daydreamer ที่ออกมาในอัลบั้มเดียวกันกับของเธอ
5
เอาเข้าจริง 2 อัลบั้มนี้ บุคลิกคล้ายผู้หญิงกับผู้ชายเหมือนกันนะ
อัลบั้ม daydreamer เหมือนผู้หญิง อารมณ์อ่อนไหวบอบบาง สวยงามและโรแมนติก
ส่วนอัลบั้ม Before Sunrise After Sunset นั้นเหมือนผู้ชาย มีความคึกคะนอง ทำอะไรห่าม ๆ บ้า ๆ มัน ๆ ถ้าคนไม่ได้สนใจมาก จะนึกว่าคนละอัลบั้มกัน (ฉันก็เคยเข้าใจอย่างนั้น)
5
แต่พอเธอบอก มันก็จริงอย่างที่เธอว่า มันคืออัลบั้มที่ 6 นั่นแหละ แต่ไม่รู้เค้าจะทำให้งงไปทำไม ทางฝั่งฉันก็มีเพื่อนที่ติดตามวงนี้อยู่เหมือนกันนะ เขาเล่าว่าพี่ของเขา เก็บสะสมอัลบั้มของวงนี้ เป็นของสะสมแนวหายากและเขาบอกว่าราคาก็สูงด้วย สวนกับราคาตลาดเลย ไม่นึกไม่ฝันว่าพวกเทปคาสเซ็ทของวงนี้ราคาแพงมากจนน่าตกใจ บางม้วนมีมูลค่าเกิน 4,000 บาทแน่ะ!
2
นี่แค่ตลับเทปคาสเซ็ทนะ โดยเฉพาะพวกอัลบั้มใต้ดิน กลายเป็นของสะสมของนักสะสมสายลึก เก็บไว้เพื่อเอามาอวดกัน ข่มกัน กลายเป็นใครมีของพวกนี้ ถือว่าคือสุดยอดนักสะสม ยืดอกภูมิใจได้เลย ก็แปลกดีเหมือนกันนะ มีคนเล่นอะไรแบบนี้ด้วย ฉันก็เพิ่งรู้ ฟังเพื่อนเล่าแล้วสนุกมากเลย ไว้จะไปถามเขาอีก เขาบอกของวงนี้มีราคาสูงทุกชิ้นเลย
3
ส่วนเรื่องที่มาของชื่อฉันนั้น ยังไม่ได้สืบอะไรมากเลย พอดีช่วงนี้พ่อกับแม่ไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่จำได้ว่าสมัยพ่อจีบแม่เป็นยุคที่เขาเรียกว่า "ยุคเด็กอัลเตอร์" น่าจะเป็นยุคประมาณปี 2537 มั้ง ถ้าเป็นฝรั่งก็ต้องเรียกว่ายุค 90 หรือภาษาฝรั่งเขาเรียกว่า “Alternative”
1
ดนตรีแนวทางเลือกใหม่ ทำอะไรที่ไม่เหมือนของเก่า ดนตรีก็จะแปลกออกไป ดิบขึ้น บ้าขึ้น ไม่ตามกฎเกณฑ์ เรียกว่า ปลดแอก สวนกระแสสังคมไปเลย
สมัยนั้นมีวง Moderndog เป็นวงที่ดังมาก พ่อเล่าว่า สมัยพ่อเด็ก ๆ การจะออกอัลบั้มได้แต่ละวงนั้นยากเย็นแสนเข็ญ เพราะต้องอยู่สังกัดค่ายเทป ค่ายใหญ่สมัยนั้นก็ต้องเป็นค่ายแกรมมี่กับ RS ถ้าวงร็อกวงป๊อปดัง ๆ ก็ต้องอยู่แกรมมี่ถึงจะเท่ แต่ถ้าเป็นสายบอยแบนด์เกิร์ลกรุ๊ปก็ต้องเป็น RS
2
แต่การจะได้ออกเทปนั้นต้องเป็นนักดนตรีกลางคืน ต้องมีฝีมือ ต้องเล่นเก่งมาก แมวมองถึงจะมาคัดเอาไปออกอัลบั้ม ถ้าเป็นวงดนตรี ก็ต้องเป็นวงที่เล่นในผับดัง ๆ จนชื่อเสียงไปถึงหูของแมวมอง หรือ Producer วงใน ถ้าไม่ใช่วงดังก็ต้องเป็น ดารา นายแบบ นางแบบ นักแสดงที่หน้าตาดี เอามาปั้น
1
มีนักแต่งเพลงมืออาชีพทำเพลงให้ มีทีมงานโปรดิวเซอร์จับมาเทรนเพื่อเป็นนักร้อง แต่อย่างน้อยก็คือต้องทั้งหน้าตาดีและมีฝีมือเก่งมาก ๆ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางออกเทปได้เลย เป็นเรื่องไกลตัวมาก ไกลเกินฝันของคนทั่วไปจะเอื้อมถึง เรียกว่าใครได้ออกเทปในสมัยนั้น แทบจะแห่กันทั้งหมู่บ้าน วงดนตรีมีจำนวนน้อยมากถ้าเทียบกับสมัยนี้
2
แต่แล้วก็เกิดวงอย่าง วง Moderndog , วง Scrubb ที่เป็นวงของนิสิตมหาวิทยาลัย ออกอัลบั้มกับค่ายเล็ก ๆ แบบอินดี้ ทำเองขายเองแบบจำนวนจำกัด
3
ประกอบกับช่วงกระแสโลกเปลี่ยน มีวงฉีกกฎเกณฑ์อย่างวง Nirvana , Green Day และอีกหลาย ๆ วงที่ออกมาเขย่าวงการเพลง สร้างกระแสให้คนตัวเล็ก ๆ คนธรรมดาทั่วไปได้มีโอกาสสร้างผลงานเพลง
2
เล่นคอนเสิร์ตตะโกนร้องเพลงปลดปล่อยความรู้สึกได้อย่างเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องโชว์ฝีมือความเก่งกาจอะไรมากนัก แค่อยากปลดปล่อยความรู้สึกตรง ๆ ความสนุกสนาน ความเกรี้ยวกราด ออกมาสร้างสีสันให้กันและกัน ทั้งคนร้องเพลงและคนฟังเพลง จึงเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เหมือนทลายกำแพง กฎเกณฑ์ไปอย่างสิ้นเชิง
1
พ่อบอกว่า แต่ก่อนนั้นมือกีตาร์ต้องโชว์โซโล่กีตาร์ยาว ๆ ยาก ๆ ถึงจะเจ๋ง แต่มายุคนี้ เพลงแต่ละเพลงแทบไม่มีโซโล่เลย ฟาดคอร์ดกันดิบ ๆ บางเพลงยียวนกวนประสาท ถึงขั้นโซโล่แค่ดีดโน้ตตัวเดียว ดันสายไปมา หลุด ๆ รั่ว ๆ เพี้ยนเละเทะ เหมือนอยากประชดประชัน เสียดสีพวกนักดนตรีที่โชว์สกิลเทพ
1
เพลงส่วนใหญ่เลยเน้นอารมณ์ บางเพลงก็อัดเสียงมาแบบดิบมาก มีซาวด์รบกวน ฟุ้งเต็มไปหมด แต่ฟังแล้วสนุกสุดมัน แม้แต่คนดูก็ต้องแต่งตัวเพี้ยน ๆ แต่งตัวหลุดโลกออกมาดูคอนเสิร์ต และพร้อมใจกันบ้าบอไปทั้งคนเล่นและแฟนเพลง ยุคนี้จะวงค่ายเล็กแค่ไหน ดังหรือไม่ดังก็ขายดี เพราะแฟนเพลงช่วยกันอุดหนุนซื้ออัลบั้มของแท้ และออกมาดูคอนเสิร์ตกันอย่างสุดเหวี่ยง
3
พ่อบอกว่า ในยุคนั้นวง Moderndog ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์วงการเพลงไทยไปอย่างสิ้นเชิง เป็นวงนำสมัย เป็นขุนพลแม่ทัพใหญ่ ที่ทำให้คนไทยได้รู้จักดนตรีแนวนี้ แนวที่เรียกกันว่า “Alternative”
สมัยนั้น จากวงที่ต้องมีฝีมือจัดจ้าน ที่คนเริ่มเอียนเพลงแบบเดิม ๆ ดนตรีเนี๊ยบ ๆ ใส ๆ เสียงร้องดัง ๆ พอเจอวง Moderndog เข้าไป วัยรุ่นสติกระเจิดกระเจิง ดนตรีอะไรกันนี่ ช่างดิบเถื่อน ซาวด์เร้าใจ
2
เพลงอย่างกับอัดมาจากห้องซ้อม เสียงกีตาร์ก้องอลหม่าน ฟาดงวงฟาดงา ผนวกกับเสียงร้องที่เกรี้ยวกราด แผดกร้าว จากนักร้องโนเนมตัวเล็กนามว่า "ป๊อด" และแล้ววง Moderndog ก็ถึงจุดระเบิด
1
เมื่อได้ออกรายการทไวไลท์โชว์ ของอาต๋อย ไตรภพ ซึ่งพ่อบอกว่าเป็นรายการที่ดังที่สุดในตอนนั้น ลูกเด็กเล็กแดงต้องดู ช่วงเวลาบ่ายแก่ ๆ
เย็นวันนั้น ขณะที่ชาวบ้านชาวช่องกำลังดูทีวีอยู่เพลิน ๆ บทเพลง "บุษบา" ก็กระโจนทะยานออกมากระแทกหู ระเบิดเวทีขยี้ความมัน ด้วยดนตรีและภาพลักษณ์ที่แตกต่าง โดนใจวัยรุ่นจนตั้งตัวแทบไม่ทัน
2
ตามมาด้วยเพลง "ก่อน" เพลงสุดเพราะ ความหมายลึกซึ้ง จนเกิดปรากฏการณ์ความคลั่งไคล้ในดนตรีสไตล์นี้ และนำมาซึ่งวงอื่น ๆ อีกมากมายนับร้อยวง ทะลักออกมาดั่งเขื่อนแตก พ่อของฉันบอกว่ามันคือ "ยุคทอง" ของดนตรีไทยในตอนนั้นเลย
3
ท่อนลิฟท์ Intro เพลงบุษบา กลายเป็นเพลงที่วงดนตรีทุกวงจะต้องเล่น พ่อฉันก็เล่นกีตาร์เพลงนี้ได้ แถมร้องนำด้วยนะ พ่อชอบเล่าถึงเพลงนี้ตลอด บอกเป็นเพลงที่ซ้อมกันบ่อยที่สุด และมือกลองวงพ่อ ก็มักทำฉาบแฉแตกบ่อยที่สุดเพราะเพลงนี้ จนคนคุมห้องซ้อมบ่นเป็นประจำ
2
ยุคนั้นวัยรุ่นจะต้องร้องเพลง"ก่อน" ไว้จีบสาว ถ้าเป็นเพลงฝรั่งที่ต้องซ้อมคู่กับเพลงบุษบา ก็คงหนีไม่พ้นเพลง "Smell Like Teen Spirit" ของวง Nirvana หลังจากปรากฏการณ์ Moderndog แล้ว ก็กลายเป็นเปิดตำนานค่ายเพลง "เบเกอรี่มิวสิค" เฟื่องฟู
2
จากค่ายอินดี้เล็ก ๆ กลายเป็นค่ายที่มีอิทธิพลกับวัยรุ่นสมัยพ่อมากที่สุด มีเพลงเพราะๆ ของบอย โกสิยพงษ์ ตามมาสร้างบรรยากาศให้ยุคนั้นเป็นยุคแห่งความโรแมนติก อินเลิฟ พ่อบอกว่าขนาดก้อนเมฆยังเป็นสีชมพู บทเพลง "รักคุณเข้าแล้ว" ของบอยได้โอบกอดหัวใจคนไทย ให้อุ่นละมุนไปกับความรักทั่วทุกอณู
2
เก็บเพลงรักนี้ ไว้ให้เธอ
เมื่อวันใดที่เจอะเจอ
ฉันก็พร้อมและยินยอม
มอบความรัก.. ทั้งจิตใจ
ชั่วนิรันดร์...
:)
3
พ่อฉันชอบดีดกีตาร์รำลึกบรรยากาศเก่า ๆ เวลาเล่าถึงสมัยพ่อจีบแม่ทีไร ก็จะร้องเพลงนี้ด้วยหน้าตาอินสุด ๆ มือจับกีตาร์ กรีดคอร์ดหนึ่งที หลับตาพริ้ม เชิดหน้า จมูกบานนิด ๆ เลิกคิ้วหน่อย ๆ เก๊กเสียงหล่อน้อย ๆ ร้องเพลงท่อนนี้ให้ฉันฟังเป็นประจำ
2
พ่อบอกจะให้สมบูรณ์แบบต้องมีเพื่อนคนนึง มาดีดนิ้ว ทำเสียงประสาน ร้องนัวเนียไปด้วยกัน จะยิ่งได้อารมณ์สุด ๆ ฉันนึกถึงภาพนั้นทีไรแล้วจะสำลักขำทุกที (คิก ๆ ) พ่อฉันนี่ก็ตลกดีนะ ชอบทำตัวเป็นวัยรุ่นอินเลิฟอยู่เรื่อย
1
เท่าที่ฟังพ่อเล่ามา ก็จะประมาณนี้แหละ ในยุคนั้นนะ ถ้าให้พูดเกี่ยวกับเพลงค่ายเบเกอรี่มิวสิคนี่ พ่อฉันคงร่ายยาวได้ทั้งวัน ก็ระดับสาวกตัวยงนี่นา ฮิ ๆ เดี๋ยวถ้าได้เจอกันอีกที จะรีบถามมาเล่าให้ฟังว่าชื่อฉันมาได้ยังไงแบบละเอียดนะ
1
คิด ๆ ไปเธอก็มีอะไรคล้ายพ่อฉันเหมือนกันนะ เรื่องการเล่นดนตรี เล่นกีตาร์ ยินดีด้วยจ้ะ กับการเริ่มตั้งวงดนตรี ขอให้หาสมาชิกวงได้ครบ ฉันรู้สึกตื่นเต้นไปด้วยเลย ฉันก็ชอบร้องเพลงเหมือนกันนะ แต่ฉันจะหนักไปเรื่องรำมากกว่า เพราะฉันเรียนมาทางด้านรำไทย เน้นนาฏศิลป์เป็นหลัก ก็แบบที่เพื่อนชอบแซวว่าเป็นนางรำนั่นแหละ ฮิ ๆ แปลกไหมจ๊ะ
2
สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครพูดถึงนางรำกันสักเท่าไร มีแต่ไปเรียนเต้นแบบเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีกัน แต่ฉันชอบรำมากเลยนะ ชอบทั้งฟังเพลงสากลปกติ แล้วก็ชอบอะไรที่เป็นไทย ๆ เช่น รำไทยกับทำขนมไทย พวกลูกชุบนี่ฉันทำเก่งมากเลยนะ ถ้ามีโอกาสจะทำให้กิน ฮิ ๆ
1
อ้อ ลืมบอกไปเลย จดหมายครั้งก่อนเธอใช้คำแทนตัวเองว่า "ผม" กับ"คุณ" ฉันอ่านแล้วตลกจัง เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเขาใช้กันหรอก มันดูเป็นทางการมากเลย เอ๊ะ! หรือว่าเธอไม่เคยคุยกับผู้หญิง? (ฮิ ๆ ) มันอ่านแล้วรู้สึกห่างเหินมาก ใช้คำว่า "ฉัน" หรือ "เรา" แทนตัวเองก็ยังดีกว่านะ อันนี้แค่แนะนำ แต่ถ้าอยากแก่เร็วก็ใช้ไปเถอะจ้ะ คุณลุง ฮ่า ๆ ๆ
3
อากาศที่นี่ร้อนสุด ๆ เลย
ด.ญ. ดวงจันทร์ ซุกใจ๋
โปรดติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม
ของพี่ต้า Paradox และ วง Paradox ได้ที่
:)
💌 ส่งจดหมายคุยกันได้ทางอีเมล

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา