19 มี.ค. 2023 เวลา 02:28 • นิยาย เรื่องสั้น

นิยายจดหมายจากดวงจันทร์ (ต้า-พาราด็อกซ์) ตอนที่ 8

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม
3
16 : 30 น. หาดดงตาล
1
สวัสดีครับ วาฬ นะครับ
1
อ่านจดหมายแล้ว รู้สึกตลกตัวเองที่ใช้คำว่า ผม คงเพราะชินกับการเขียนรายงานส่งคุณครู แต่ก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าจะใช้คำว่าอะไร งั้นเอาเป็นว่า ขอเรียกแทนตัวเองว่า ”ฉัน” กับ “เธอ” แล้วกันนะครับ
3
แต่รู้สึกเขินจังเลย คงเพราะยังไม่ชินกับการคุยกับผู้หญิงนั่นแหละครับ เลยไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แต่ก็ไม่อยากจะเป็นคุณลุง ฮ่า ๆ ๆ เอาตามที่ดวงจันทร์แนะนำก็ได้ครับ
2
เรื่องที่เธอเล่าถึงยุค Alternative นั้นสนุกจัง เสียดายที่พวกเราเกิดไม่ทันกัน แต่ฉันก็มีตลับเทปยุคนั้นอยู่เหมือนกันนะ มีหลายวงเลย ค้นเจอจากห้องพ่อ
2
ฉันว่าเทปพวกนี้ สมัยนั้นต้องดังแน่เลย แต่ที่ฉันมีจะเป็นวงอื่นนะ ไม่ใช่วงจากค่ายเพลงเบเกอรี่ ฉันมีวงพราว กับวง Lollipop เห็นอีกหลายวงแต่อยู่ในถุง มันอยู่ลึกเดี๋ยวต้องไปค้นดูเหมือนกัน เป็นตลับเทปคาสเซ็ท น่าจะเปิดฟังไม่ได้แล้ว เพราะไม่มีเครื่องเล่นเทป
3
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สมัยก่อนเขาฟังเพลงจากเทปคาสเซ็ทกัน พ่อของฉันก็ชอบเล่าเกี่ยวกับการใช้เทปคาสเซ็ทในแบบต่าง ๆ มันตลกมากเลย บางทีพ่อเล่าว่า มีเทปยืดด้วยนะ เวลาเทปยืด เสียงที่ฟังออกมาจะยานคาง เหมือนคนแก่ วิธีแก้อาการเทปยืด ให้เอาไปแช่ตู้เย็น แช่ช่องฟรีซ แล้วเทปจะกลับคืนสภาพเหมือนเดิม เพราะสายสีดำในตลับเทป มีความยืดหยุ่น และไวต่อความร้อน สามารถละลายหรือยืดหดได้
3
อันนี้สมัยก่อนเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับคนฟังเทปมาก บางทีวางไว้หน้ารถ เวลาอารมณ์ดีอยากหยิบเอามาฟัง กลายเป็นเทปยืดยานคางเสียนี่ หรือบางครั้งซื้อมาจากร้านที่วางเทปตากแดดไว้นาน แกะพลาสติกออกมาฟังปุ๊บ เสียงยืดปั๊บ ต้องเอาไปเปลี่ยนให้วุ่นวาย แต่ก็ดูคลาสสิคไปอีกแบบ ปัญหาอีกอย่างที่พ่อฉันชอบเล่าก็คือ การกรอเทป
3
ถ้าเป็นคนฟังตลับเทป จะต้องคอยกรอข้ามเพลง ไม่ได้กดข้ามแทร็กเหมือน CD ทุกวันนี้ ต้องเป็นการฟังไปจนจบทุกเพลง ถ้าอยากจะข้ามเพลงต้องกดปุ่มกรอข้ามไปข้างหน้า หรือย้อนกลับหลัง ต้องรอเวลาให้กรอถึงจุดที่เรากะจังหวะไว้ จะไม่รู้หรอกว่า เริ่มต้นเพลงใหม่ตรงไหน ใช้การกะจังหวะเอาโดยสัญชาตญาณ กะจังหวะให้ตรงกับรอยต่อระหว่างเพลง อันนี้ก็สนุกไปอีกขั้น
3
ยิ่งถ้าพวกนักดนตรีที่ชอบแกะเพลง ยิ่งต้องกรอไปกรอมาวุ่นวายพอสมควร ส่วนใหญ่กรอจนเครื่องกรอพัง เมื่อพังก็ต้องใช้เทคนิคสุดคลาสสิค คือ ใช้ปากกา หรือดินสอ สอดเข้าไปตรงรูของตลับเทปแล้วหมุน เป็นการกรอด้วยมือ เรียกว่าหมุนกันจนมือหงิก หมุนไปหมุนมา กลายเป็นได้อารมณ์ซึมซับบทเพลงที่ลึกซึ้งขึ้น เพราะกว่าจะข้ามเพลงไปได้นั้น ยากเย็นแสนเข็ญ
3
พ่อบอกว่า เคยถึงขั้นผ่าตัดตลับเทปมาแล้ว ก็คือ เวลาเทปยืดหรือยานจนถูกเครื่องเล่นกินเทป ทำให้สายเทปนั้นยับยู่ บางครั้งเกินเยียวยา ฟังแล้วกระตุก พ่อก็จะทำการผ่าตัด แกะสายเทปออกมาแล้วตัดต่อ เอาเนื้อร้ายออก แล้วแปะด้วยเทปใสเชื่อมกัน ต้องไขนอตของตัวตลับเทปก่อน แล้วเปิดฝามันออกมา บางคนทำไม่เป็น ไส้ทะลัก นอตกระเด็นหาย เอากลับใส่เหมือนเดิมไม่ได้ เสียตลับเทปไปเลยก็มี ถือว่าเป็นมุกคลาสสิกมากสำหรับยุคนั้น ใครไม่ลองก็ไม่รู้ พ่อบอกอย่างนั้น
4
แถมยังเอาเทปที่ไม่ใช้แล้วมาอัดทับได้ พ่อชอบเอามาอัดทับเพลงอื่นประจำ เวลาฟังเพลงแล้วไม่เพราะหรือไม่ชอบก็เอาไว้อัดใหม่ เป็นการรีไซเคิลได้อย่างดี แม้กระทั่งปกเทป ใครซื้อไป ก็จะต้องคลี่มาอ่านก่อนเป็นอย่างแรก อ่านไปฟังไปเพลิดเพลินใจ อ่านนู่นอ่านนี่ อ่านขอบคุณ อ่าน thanks ต่าง ๆ เรียกว่าใช้ทุกส่วนจนคุ้ม มันเลยเกิดความรู้สึกผูกพัน เป็นคุณค่าทางจิตใจมากกว่า
3
ฉันไปซ้อมกันที่ห้องซ้อมมาแล้วนะ รวมตัวเพื่อน ๆ ได้แบบไม่ครบวง เอาเท่าที่ใครว่างก็มาลองซ้อมกันดู ปรากฏว่า เละเทะมาก เล่นกันไม่จบเพลงเลยสักเพลง กระป๋องกระแป๋ง ไม่เอาอ่าวเสียเลย ฮ่า ๆ แต่ก็ถือว่าใช้ได้ เป็นการเริ่มต้นที่พอจะมีแววรุ่ง (ริ่ง)
2
ฉันรู้สึกสนุกดี ถึงแม้จะเล่นกันไม่เป็น แต่ได้ปลดปล่อยดีมาก คลายเครียดดี โดยเฉพาะมือกลอง เพื่อน ๆ มันชอบแย่งกันตี ฉันก็ลองตีเหมือนกัน สลับตำแหน่งกันไปเรื่อยเปื่อย จริง ๆ รู้สึกว่า การตีกลองนี่มันสนุกที่สุดเลยมั้ง แต่เล่นยากมาก ต้องแยกประสาทให้ได้ โดยเฉพาะการส่งกลอง ไม่มีใครเล่นได้สักคน พอจะตีกลองส่งจังหวะก็ล่มทุกที หรือไม่ก็คร่อมจังหวะ ตะกุกตะกัก เป๋ปัด
3
นักร้องก็จำเนื้อไม่ได้ ร้องเพี้ยนออกทะเลไปเลย … จริง ไ ไม่ใช่นักร้องหรอก มันก็คือเพื่อนที่ตามมาดูนั่นแหละ โดนยัดเยียดให้ร้องเพลง ไม่เช่นนั้นคงไม่มีใครยอมร้อง ตลกที่สุดก็คือ ดันเอาคนที่ร้องเพลงไม่เป็นมาร้อง แต่ตอนนั้นไม่มีใครสนใจใครแล้ว หลับหูหลับตาใส่อารมณ์กันอย่างเมามัน สนุกมาก ออกมาจากห้องซ้อมได้ยินแต่เสียงวิ้ง ๆ ฉันก็ดันยืนใกล้กลองซะด้วย เลยรับแฉไปเต็ม ๆ เล่นเอาหูอื้อไปเลย ฮ่า ๆ
4
ฉันชอบบรรยากาศของห้องซ้อมนี้มากเลยล่ะ เพราะมันติดทะเล วิวสวยมาก ถ้าไปซ้อมในช่วงเย็น จะเห็นน้ำทะเล กับแสงอาทิตย์ตอนใกล้จะตก ดูระยิบระยับ เป็นประกายกระจายเต็มผืนน้ำ เหมือนเกล็ดเพชรนับล้าน ๆ มองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา ถ้าเล่นเพลงเพราะ ๆ ซึ้ง ๆ ยิ่งได้อารมณ์มากเลย
6
เครื่องดนตรีก็ดี ขนาดพวกฉันเล่นกันไม่ค่อยเป็น ยังรู้สึกว่าเพราะ คงเพราะใช้แอมป์ และลำโพงอย่างดีเลยมั้ง ยี่ห้ออะไรไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาว่ากันว่า แพง ถ้าวงเก่ง ๆ มาเล่น คงฟังเพลินแน่ ๆ ที่ห้องซ้อมก็มีร้านขนมเล็ก ๆ เอาไว้บริการคนมาซ้อมด้วย เอาไว้นั่งรอ บรรยากาศก็ดี เห็นวิวทะเลแล้วก็ได้ยินเสียงดนตรีคลอไปด้วย
3
ฉันนั่งรอได้เป็นชั่วโมงเลย เอาการบ้านมานั่งทำ วาดรูป ฟังวงอื่นเขาเล่นเพราะมาก แต่ช่วงนี้ยังไม่ค่อยมีคนมาซ้อม คงเพราะว่าห้องซ้อมเพิ่งเปิด คงยังไม่มีใครรู้ พวกเรานี่ถือเป็นเจ้าแรก ๆ เลยนะ ได้บัตรสมาชิกฟรีมาด้วย ได้ส่วนลด 50% เลยสำหรับเดือนนี้
3
ได้รู้จักกับเจ้าของห้องซ้อมด้วยนะ ชื่อพี่เต่า พี่เค้าใจดีมากเลย เป็นคนสัตหีบเนี่ยแหละ แต่ไปเรียนต่อและทำงานที่กรุงเทพ พออิ่มตัวก็เลยอยากกลับมาเปิดร้านที่นี่ พี่เต่าบอกว่า แกชอบดนตรีมาก สมัยก่อนก็เล่นดนตรี ตั้งวงเล่นจริงจังเป็นเรื่องเป็นราวด้วยนะ เล่นดนตรีกับเพื่อน ๆ ที่คณะสมัยเรียนมหาวิทยาลัย
3
นอกจากนั้นพี่เต่ายังเป็นนักสะสมเทปเพลงด้วย สะสมหมดทุกอย่าง เทป CD แผ่นเสียง ของที่ระลึกต่าง ๆ แกบอกว่า ชั้นสองของห้องซ้อม กะจะเปิดเป็นร้านขายแผ่นเสียงกับพวกของสะสมที่เกี่ยวกับดนตรี เพราะแกมีเยอะมาก สะสมมาเกือบ 20 ปี มีตั้งแต่แผ่นเสียงรุ่นแรก ๆ ของวงคาราบาว และวงอื่น ๆ อีกเพียบ
2
โดยเฉพาะวงยุค 90 ยุคอัลเตอร์ พี่เต่าชอบชนิดคลั่งไคล้ เพราะโตมากับยุคนี้ พี่เต่าบอกว่า ถ้าพวกฉันมาซ้อมกันอีก จะพาชมชั้นสองที่เป็นคลังแสงของแก แถมบอกว่า จะช่วยแนะนำวิธีการเล่นดนตรีให้ฉันด้วยนะ เจ๋งไปเลยใช่ไหมล่ะ พูดแล้วฮึกเหิม ฮ่า ๆ ๆ สงสัยต้องนัดกันไปซ้อมกันโดยด่วน
2
อ้อ! เกือบลืม ห้องซ้อมชื่อเท่ดีด้วยนะ ชื่อ "Sea Sand Club Band" ฉันชอบชื่อนี้จัง ฟังดูคลาสสิกดี เหมือนวงเก่า ๆ เข้ากับบรรยากาศมาก ๆ อยากให้เธอมาเห็นจัง ฉันว่าเธอต้องชอบ
3
ฉบับนี้เขียนแค่นี้ก่อนนะ ตอนนี้กำลังมีไฟ ขอตัวไปแกะเพลงต่อ ไว้ซ้อมกับเพื่อน ๆ ครับ ฮ่า ๆ
2
ไว้คุยกันใหม่นะครับ
1
ปลาวาฬ
2
โปรดติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม
ของพี่ต้า Paradox และ วง Paradox ได้ที่
:)
💌 ส่งจดหมายคุยกันได้ทางอีเมล

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา