เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด
หลังจากที่จีนยกเลิกนโยบาย Zero-Covid ในเดือนธันวาคม เศรษฐกิจก็ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
และการฟื้นตัวนี้เร็วกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ไว้
ดัชนี Caixin China General Manufacturing PMI ซึ่งรวบรวมโดย S&P Global เพิ่มขึ้นจาก 49.2 ในเดือนมกราคมเป็น 51.6 ในเดือนกุมภาพันธ์
การเพิ่มขึ้นครั้งแรกของคำสั่งซื้อใหม่ ทำให้การผลิตเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ซึ่งขยายตัวในอัตราที่ไม่เคยเห็นตั้งแต่เดือนในรอบ 7 เดือน
นอกจากนี้ ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ยังแสดงให้เห็นอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021 อุปสงค์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วยคำสั่งซื้อส่งออกใหม่ที่เพิ่มขึ้นครั้งแรกตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ซึ่งส่งเสริมการพัฒนาของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
นอกจากนี้ การเติบโตของการจ้างงานเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปีครึ่ง
ซึ่งชี้ว่าโรงงานสามารถเพิ่มจำนวนแรงงานได้ทันกับความต้องการและเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัว
การคาดการณ์การผลิตในอนาคตที่วัดได้จากการสำรวจเพิ่มขึ้นอย่างมาก
โดยเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันจนแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี
ในด้านอัตราเงินเฟ้อ ความต้องการวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ที่เห็นได้จากการซื้อโรงงานที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 20 เดือน สร้างแรงกดดันให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 แล้ว
นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นก็เพียงพอที่จะเพิ่มราคาขายเฉลี่ยเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน และเพิ่มราคาเฉลี่ยสำหรับการส่งออกในอัตราที่เร็วที่สุดในเวลาเพียงหนึ่งปี
จากข้อมูลดัชนี PMI ตลาดหุ้นก็ขึ้นมาดีดตัวรับทันที ก่อนที่หุ้นจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกงร่วงลงในวันพฤหัสบดี หลังจากเพิ่มขึ้น 5.1% ในวันพุธ ดัชนี Hang Seng China Enterprises ลดลงมากถึง 1.5% ในการซื้อขายช่วงเช้า
📌 เป้าหมายการเติบโต
เมื่อวันพฤหัสบดี สื่อทางการของจีนเรียกร้องให้มีการกระตุ้นนโยบายเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวที่ยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ โดยจำเป็นต้องมีมาตรการสนับสนุนทางเศรษฐกิจมหภาคมากกว่านี้
และตามบทความใน The Securities Times ซึ่งเผยแพร่โดย People's Daily ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์อย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน นักข่าวของหนังสือพิมพ์ระบุว่า เศรษฐกิจยังคงเผชิญกับความยากลำบากหลายประการ เช่น การขาดอุปสงค์ในประเทศ การปะทุของโควิดที่อาจเกิดขึ้น และผลกระทบที่ล้นทะลักจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก
จากข้อมูลของนักเศรษฐศาสตร์ พบว่า รัฐบาลจีนจะตั้งเป้าหมายการเติบโตสำหรับปีนี้ที่สูงกว่า 5% และอาจสูงถึง 5.5% แต่เศรษฐกิจขยายตัวเพียง 3% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเติบโตที่ช้าที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ทศวรรษ 1970
และจีนยังมีบททดสอบจำนวนมาก เช่น การล็อกดาวน์ และการหยุดชะงักอย่างกว้างขวาง
ซึ่งเป็นจุดเด่นของนโยบาย Covid Zero ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
หลายคนคาดว่านโยบายการเงินและการคลังจะยังคงสนับสนุนการใช้นโยบายแบบผ่อนคลายให้มีการเติบโตในปีนี้ แม้ว่าโอกาสของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่จะอยู่ในระดับต่ำก็ตาม
โดยจีนทุ่มเทให้กับการเพิ่มการเติบโตและความต้องการของผู้บริโภคตั้งแต่การตัดสินใจยกเลิกนโยบาย Covid Zero ซึ่งส่งผลให้ความรุนแรงของการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ประชากรสูงอายุของจีนมีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำกว่าประเทศเศรษฐกิจหลักอื่น ๆ และการฉีดวัคซีนในประเทศมีประสิทธิภาพน้อยกว่า ซึ่งอาจส่งผลให้ไวรัสแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
ซึ่งอาจส่งผลต่อการเติบโตของจีนในอนาคต
ผู้เขียน : ณิศรา วาดี Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
