8 มี.ค. 2023 เวลา 04:38 • ธุรกิจ

City of London ศูนย์กลางมหาอำนาจการเงินโลก

ย้อนไปสู่ยุคจักรวรรดิอังกฤษ หรือ British Empire
มีพื้นที่ 1 ใน 4 ของโลก และมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก
กระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สูญเสียความเป็นผู้นำของเศรษฐกิจโลก
เพราะการทำสงคราม 2 ครั้ง ทำให้อังกฤษเผชิญกับปัญหาขาดเงินมหาศาล
GDP ของทั้ง British Empire หายไป 25%
จนเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า “Two wars bankrupted”
หรือ ทำสงครามสองครั้งแทบล้มละลาย
จากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมหาอำนาจ เงินปอนด์ มีอิทธิพลเหมือนกับดอลลาร์
แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทุกอย่างเปลี่ยนไป
หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญ คือ 1 อาทิตย์ หลังจากสัมพันธมิตรชนะนาซีเยอรมัน ​
Winston Churchill วีรบุรุษสงครามจากพรรคอนุรักษ์นิยม พ่ายแพ้การเลือกตั้ง ให้กับ Clement Atlee จากพรรคแรงงาน
ซึ่งมีนโยบายปล่อยอาณานิคมเดิมของตัวเองออกไปจาก British Empire
เพราะอังกฤษไม่มีเงินดูแลอาณานิคม และต้องยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ประเทศที่มีเศรษฐกิจอันดับ 1 ของโลก และที่สำคัญยังต้องการเม็ดเงินที่จะฟื้นประเทศ
ซึ่งเงินก้อนที่ใหญ่ที่สุดที่อังกฤษได้ มาจากจากสหรัฐ ที่เรียกว่า Marshall Plan
เงินก้อนนั้น 40% มอบให้อังกฤษ อีก 60% ให้กับ 17 ประเทศในยุโรปนำไปหารกัน
พอจบสงครามโลกครั้งที่ 2 30 ปี อังกฤษมีการเปลี่ยนขั้วการเมืองไปๆ มาๆ
บางช่วงสหภาพแรงงานแข็งแรง ทำให้กิจการของรัฐหลายแห่งขาดทุน
แบรนด์รถยนต์ใหญ่ของอังกฤษ เช่น Rolls-Royce, Bentley,MINI, Land Rover และ Morris Garages ถูกขาดให้กับต่างชาติเกือบหมด
คำถามคืออังกฤษจะหาเงินจากไหน?
คำตอบ คือ อุตสาหกรรมการเงิน
ซึ่งตั้งอยู่ที่ City of London เป็นพื้นที่เล็กๆ ในมหานครลอนดอน
เรียกว่า Square Mile เพราะมีพื้นที่เพียง 112 ตารางไมล์ หรือ 2.9 ตารางเมตร
มีประชากรที่ลงทะเบียนอยู่ในพื้นที่นี้ประมาณ 9,400 คน
แต่มีการจ้างงาน ถึง 5 แสนคน เพราะเป็นศูนย์กลางทางการเงินของอังกฤษ
เหตุผลที่ ต้องเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่เรียกว่า City of London
ต้องย้อนไปใน ค.ศ. 1966 ดยุกแห่งนอร์มังดี ยกทัพจากฝรั่งเศส มาครองอังกฤษ และมาเจอกรุงลอนดอน
ในเวลานั้น พระองค์เห็นว่า ตอนนั้นลอนดอนเริ่มมีพ่อค้า มีกลุ่มช่างฝีมือ ไม่ได้มีแค่ศักดินา เลยมีข้อตกลงว่าพื้นที่ตรงนี้ จะสงวนไว้ให้สำหรับช่างฝีมือและบรรดาพ่อค้า
เลยกลายเป็นพื้นที่ที่มีความพิเศษ เป็นศูนย์กลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆ
ต่อมาถูกพัฒนา จนตอนที่เป็น British Empire พื้นที่ส่วนนี้ ใช้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของทั้งจักรวรรดิ
เพราะช่วงที่อังกฤษกินพื้นที่ 1ใน 4 ของโลก
ทรัพยากรหลากหลายจากทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาล น้ำมัน ทองแดง เพชร ทอง จะส่งมารวมที่นี่
แต่พอจบสงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษตั้งคำถามว่าจะสร้างเศรษฐกิจได้อย่างไร
ในปี 1948 รัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของ Clement Atlee คิดจะหาวิธีดึงดูดทุนจากทั่วโลก เลยสถาปนา Euro-Dollar Market
Euro-Dollar Market คืออะไร
อังกฤษใช้เงินปอนด์ แต่ถ้าใครอยากลงทุนโดยใช้วาณิธนกิจของอังกฤษ
หรือธนาคารเพื่อการลงทุนของอังกฤษ ไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนเงินเป้นสกุลปอนด์
เราสามารถบริหารเงินนั้น ด้วยดอลลาร์
พื้นที่ตรงนี้เลยระดมทุนเม็ดเงินมหาศาลจากทั่วโลกมาได้ เพราะการอำนวยความสะดวกของรัฐบาลอังกฤษ บวกกับการกำกับดูแลที่พยายามทำให้ง่ายขึ้น
เลยมีหลายบริษัทระดับโลก มาตั้งธนาคาร และบริษัท ที่อังกฤษ
ทำให้ City of London ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางมหาอำนาจการเงินโลก นั่นเอง..
ที่มา Wealth History EP.3

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา