20 เม.ย. 2023 เวลา 09:04 • ประวัติศาสตร์

John D. Rockefeller มหาเศรษฐีพันล้าน คนแรกของอเมริกา

อัครมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสหรัฐอเมริกา ที่ชื่อว่า John D. Rockefeller
เขารวยมาจากไหน? ทำธุรกิจอะไร?
ไปหาคำตอบพร้อมกัน..
John D. Rockefeller เกิดในปี 1839 สมัย ร.3 บ้านเรา
เริ่มต้นจากการเป็นเสมียนเล็กๆ ในหลากหลายบริษัท ทำให้เริ่มตระหนักว่า สหรัฐกำลังเริ่มต้นไปสู่การพัฒนาขั้นสูง รูปแบบการใช้พลังงานเริ่มเปลี่ยน จากเดิมที่ใช้ไอน้ำ ไปสู่น้ำมัน
สหรัฐฯ เป็นประเทศแรกๆ บนโลกที่มีค้นพบน้ำมันมหาศาลบนแผ่นดินของประเทศตัวเอง และมีกลั่นน้ำมันไปใช้ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย
หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ปรับเปลี่ยนจากไอน้ำมาเป็นน้ำมัน คือ รถรางและรถไฟ
John D. Rockefeller เริ่มคิดแล้วว่า น้ำมันน่าจะมาช่วยสร้างความมั่งคั่ง
เวลานั้นคนที่จะทำอุสาหกรรมน้ำมันจ ส่วนใหญ่จะลงทุนสำรวจและขุดเจาะน้ำมันดิบ
แต่ John D. Rockefeller ไม่ได้คิดแบบนั้น เขามองว่าในขณะที่คนอื่นเดินทางไปทั่ว เพื่อหาบ่อน้ำมัน แต่โรงกลั่นน้ำมันมีผู้เล่นน้อยราย เขาเลือกที่จะเปิดโรงกลั่นน้ำมัน
โดยตั้งชื่อบริษัทแห่งนี้ว่า Standard Oil
ไอเดียของเขา คือ Standard Oil มีที่เดียวไม่พอ ควรจะมีในหลากหลายพื้นที่ ที่ใดก็ตามที่มีการขุดเจาะและค้นพบน้ำมัน
เพราะฉะนั้น จึงเป็นที่มาของชื่อ Standard Oil ที่ต่อด้วยชื่อพื้นที่ตามหลัง
เช่น Standard Oil New Jersey, Standard Oil New York, Standard Oil
Ohio เป็นต้น
นอกจากทำโรงกลั่นน้ำมันแล้ว Standard Oil ยังลงทุนทำทางรถไฟเพื่อลำเลียงน้ำมันดิบไปสู่โรงกลั่น ทำให้ Standard Oil เป็นผู้ผูกขาดโรงกลั่นน้ำมันในเวลานั้น
John D. Rockefeller อยู่ในตำแหน่งผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทที่ก่อตั้งเองเพียง 27 ปี
ในปี 1987 ตอนที่บริษัทมีอายุแค่ 30 ปี เขาสเต็ปตัวเองลงมาเป็นแค่ผู้ถือหุ้น กินเงินจากผลกำไรที่ผู้บริหารของบริษัท Standard Oil ที่มีอยู่ทั่วประเทศ
หลังจากนั้น 14 ปี รัฐบาลสหรัฐฯที่เฝ้ามอง Standard Oil ด้วยความเป็นห่วง เพราะถึงแม้จะมีผู้ขุดเจาะน้ำมันหลายราย แต่โรงกลั่นกลับมีเจ้าเดียว
ที่สุด ในปี 1911 ศาลสูงสหรัฐฯ มีคำสั่งให้ บริษัท Standard Oil ที่มีอยู่ทั่วประเทศ
แตกตัวแบ่งออกเป็น 34 บริษัทย่อยๆ
John D. Rockefeller ก็ยอม โดยเขาเป็นผู้ถือหุ้นสูงสุด และได้รับเงินปันผลจากทั้ง 34 บริษัท จวบจนบั่นปลายชีวิตในปี 1937
บริษัท Standard Oil ที่แตกออกมาเป็นบริษัทอะไรบ้าง ? เช่น
Standard Oil New Jersey เปลี่ยนเป็น Exxon
Standard Oil New York เปลี่ยนเป็น Mobil
ที่สุดสองบริษัทมาควบรวมกันเป็น ExxonMobil บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของโลก
Standard Oil California เปลี่ยนเป็น Chevron
ในช่วงเวลาดังกล่าว Standard Oil California ไปเจรจากับกษัตริย์ซาอุฯเพื่อขอสัมปทานและขุดเจาะน้ำมันในซาอุฯ ประเทศเกิดใหม่ที่เพิ่งสถาปนาในปี 1932
เศรษฐกิจในซาอุฯ ช่วงแรกๆ ยังไม่ดี เพราะยังไม่ได้มีการค้นพบน้ำมัน
อุตสาหกรรมหลักคือ ส่งออกผลมะเดื่อแห้งกับการทำประมงจากทะเลแดง
รายได้อีกส่วนมาจากนักเดินทางที่มาแสวงบุญ ซึ่งช่วงนั้น เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ ทำให้ชาวมุสลิมที่จะเดินทางไปทำพิธีฮัญจ์ที่มักกะฮ์และมะดีนะห์น้อยลง รายได้ของซาอุฯ ไม่เข้าเป้า
ทำให้พอ Standard Oil California เข้าไป เจรจากับกษัตริย์ซาอุฯ เลยยอมให้ไปสำรวจพื้นที่ประมาณ 900,000 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าประเทศไทยประมาณเท่าครึ่ง
Standard Oil California ใช้เวลาสำรวจ 3-4 ปี จึงพบแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่
จุดนั้นทำให้ Standard Oil California ซึ่งต่อมาเป็น Chevron ควบคุมปริมาณน้ำมันมหาศาลบนโลกนี้
ต่อมา Chevron ตกลงกับรัฐบาลซาอุฯ ตั้งบริษัทใหม่ชื่อว่า Arabian American Oil Company (ARAMCO) หรือที่เรารู้จักในชื่อ Saudi Aramco ซึ่งมี Market Cap ใหญ่ที่สุดในตลาด Wallstreet
ถามว่า John D. Rockefeller รวยขนาดไหน?
ในปี 1913
ความมั่งคั่งของ John D. Rockefeller อยู่ที่ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เทียบเท่า 2-3%ของเศรษฐกิจสหรัฐ
ในปี 1937 ปีที่ตาย
ความมั่งคั่งของ John D. Rockefeller อยู่ที่ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
และทำให้ John D. Rockefeller ได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน คนแรกของอเมริกา
ที่มา : WEALTH HISTORY EP.2

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา