10 มี.ค. 2023 เวลา 14:00 • ไลฟ์สไตล์

2 ตัวตั้งต้นเพื่อการเปลี่ยนแปลง

บางคนอยากเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น - แต่ไม่รู้วิธีการเริ่มต้น
หรือบางคนลงมือทำแล้วหลายครั้ง - แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
ต้องเข้าใจว่า การเปลี่ยนแปลงเกิดจากการ(ต้อง)ลงมือทำ เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ ทำอย่างซ้ำ ๆ เป็นประจำและสม่ำเสมอ จนกลายเป็นนิสัย การกระทำนั้นๆจะถูกทบต้นกลายเป็นผลลัพธ์ในอนาคต นั่นหมายถึง สิ่งต่างๆในชีวิตจะค่อยๆเข้าที่และลงตัวในเวลาที่ใช่ของมันเอง - โดยที่เราไม่รู้ตัว
1
ระลึกเสมอว่า เป้าหมายเป็นหนึ่ง(ในหลาย)สิ่งบนโลกนี้ที่ไม่มีความสมบูรณ์แบบ ถ้าให้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นเป้าหมาย ในบางครั้ง อาจมีบางอย่างที่ทำให้ออกนอกลู่นอกทางในระหว่างกระบวนการ(ทำ) แต่การที่เราไม่ยอมแพ้และจัดการพาตัวเองกลับเข้าสู่กิจวัตรที่ทำมาอย่างสม่ำเสมอ..ได้เร็ว นั่นคือ ความสมบูรณ์แบบที่เกิดขึ้นในตัวของมันเอง
1
การเปลี่ยนแปลงเริ่มจากการเลี่ยง-ลด-ละ พฤติกรรมหรือนิสัยที่เป็นลบ และ
เพิ่มนิสัยที่เป็นบวกทีละเล็กทีละน้อย ตามจังหวะที่ทำได้
1
ต้องมั่นใจว่า เราได้ทำเป็นประจำและสม่ำเสมอ เพื่อให้เป็นตัวตั้งต้นและสามารถนำไปต่อยอดในมุมอื่นๆของชีวิตได้ มีสองวิธีที่ปฏิบัติได้และเกิดผลจริง ให้เป็นภาษาง่ายๆที่เข้าใจได้ ดังนี้
1. ตัดตัวถ่วง(ความเจริญ)
1
ทุกสิ่งในชีวิตควรมีสมดุลที่เหมาะสมและสอดคล้องกับชีวิตของแต่ละคน ถ้ามีมากหรือน้อยเกินไปก็เป็นเพียงผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ
1
สิ่งที่ไม่ได้มีค่าสำคัญในชีวิต เช่น การพนัน เหล้า บุหรี่ และอื่นๆมากมาย รวมถึงคนที่ไม่ได้มีค่าสำคัญและเป็นพลังงานลบให้กับชีวิต เปรียบเสมือนหมอกควันที่เป็นพิษ (toxic) ต่อร่างกายและจิตใจ บดบังวิสัยทัศน์ทำให้หลงทาง ที่คอยดึงรั้งไม่ให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้า เรียกได้ว่าเป็นตัวถ่วงของชีวิต
1
ให้สังเกตชีวิตประจำวันภายใน 24 ชั่วโมงของตัวเอง ตั้งแต่ชีวิตส่วนตัวจนถึงหน้าที่การงาน ว่าเราใช้เวลาหมดไปกับการ'ทำอะไร' กับ'ใครบ้าง' จะทำให้เห็นว่า เรา(อาจ)เกี่ยวพันกับสิ่งและคนที่เป็นพิษต่อร่างกายและจิตใจ ต่างไม่ได้ให้ค่าและไร้ความหมายต่อชีวิตของเรา
เราจึงต้องค่อยๆเลี่ยง-ลด- ละ สิ่งหรือคนที่เป็นพิษเหล่านั้นออกจากชีวิต เราจะได้มีเวลาในชีวิตเพิ่ม เพื่อสะดวกต่อจัดการกับชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นการสร้างขอบเขตชีวิต (Boundaries) ให้เราทางอ้อมอีกด้วย
1
2. พ่วงความเจริญ(เติบโต)
มองง่ายๆว่า พลังงานชีวิตที่เป็นบวกคือ ยาบำรุงร่างกายและจิตใจที่สำคัญ ที่นำเราไปสู่ความเจริญและเติบโตได้ มีสองสิ่งสำคัญที่เป็นตัวช่วย คือ
1) คนรู้ - ชี้นำและดึงชีวิตให้เจริญ
ผู้เขียนเรียกง่ายๆว่า “คนรู้” เพราะบางคนอาจไม่ได้มีการศึกษา(สูง)หรือจบปริญญาจากโรงเรียนมีชื่อเสียง แต่ประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ว่าจะเรื่องส่วนตัวและ/หรือหน้าที่การงาน เพราะคนเหล่านี้”ไม่เคยหยุดเรียนรู้” จึงมีคลัง "ปัญญา" ที่ช่วยในการเลือกตัดสินใจและตอบรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันอย่างมีสติสัมปชัญญะ ชีวิตจึงเติบโตและก้าวหน้า
1
“คนรู้”จะเป็นแบบอย่างสำคัญที่เราสามารถศึกษาและเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิต - เป็นทางลัดชีวิตให้เรา และเป็นไปได้ว่า คนรู้อาจผ่านประสบการณ์เดียวกันกับที่เรากำลังเผชิญอยู่ ที่เราสามารถนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับชีวิตของตัวเองได้
"คนรู้"จะทำให้รู้สึกได้ถึงแรงสนับสนุนสำคัญที่เราต้องการ รวมถึงจะคอยช่วยชี้แนะและดึงให้เรา”อยู่ในกรอบ”ต่อการเปลี่ยนแปลงนั้นๆจนสำเร็จได้
1
"คนรู้"จะเป็นใครก็ได้ - ใกล้ตัวจนไกลตัว ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวจนถึงหัวหน้าที่ทำงาน หรือแม้กระทั่งคนไกลตัว ไล่ ตง จิ้น หรือ อีลอน มัสก์ ที่ต่างมีอิทธิพลและเป็นแรงบันดาลใจช่วยให้เราเรียนรู้และเติบโตได้อย่างมั่นคง
1
2) ความรู้ - แรงกระตุ้นที่ช่วยขับเคลื่อนชีวิตให้เติบโต
1
ความสำเร็จเกิดขึ้นได้ต้องพึ่งพาการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ ความรู้เกิดจากการศึกษาในโรงเรียนและจากประสบการณ์ในชีวิต เริ่มต้นได้จากการฟังและอ่านให้มาก เพื่อนำพาตัวเองออกจากกรอบความคิดเดิม ๆ ให้ได้
บางคนมองข้ามการเรียนรู้ มองว่าเป็นเรื่องที่เสียเวลาไร้สาระ และเลือกใช้เวลาชีวิตส่วนใหญ่หมดไปกับการทำสิ่งที่ไร้ประโยชน์ - เช่น โซเชียลมีเดีย แทนการเพิ่มความรู้ให้กับตัวเอง
บางคนหยุดเรียนรู้เมื่อจบการศึกษา ความรู้จึงหยุดเพียงแค่ใบวุฒิการศึกษา และใช้ชีวิตอยู่ในกรอบความคิดเดิม ๆ อิสรภาพทางชีวิตจึงย่ำอยู่กับที่ และเกิดความสงสัยว่าทำไมชีวิตไม่ก้าวหน้า
ถ้าไม่(ชอบ)อ่าน อย่างน้อยก็ต้องรู้จักนำประสบการณ์(ล้มเหลว)ที่ผ่านมา - เรียนรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อให้เป็นบทเรียนสำหรับตัวเอง จะได้ไม่พลาดเรื่องเดิม ๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า และยังช่วยให้ชีวิตหลุดออกจากวงจรที่ย่ำ(แย่)อยู่กับที่อีกด้วย
"ความรู้"ที่ได้จากการศึกษาเล่าเรียน และบทเรียนที่ได้จากประสบการณ์ชีวิตต่างมีค่าต่อชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม เพราะความรู้ต่างๆจะแตกสาขาและต่อยอดชีวิตให้เติบโต รวมถึงช่วยให้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเราอีกด้วย
เมื่อชีวิตปราศจากสิ่งและคนที่เป็นพิษ เราก็มีเวลาในชีวิตเพิ่ม จะทำให้เราจดจ่อกับการดูแลตัวเองทั้งทางกายและจิตใจได้เต็มที่ และสามารถดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมีสติและสัมปชัญญะมากขึ้น
1
รวมถึง การมีเวลาในการเรียนรู้เพื่อต่อยอดในชีวิต ทำให้มีความรู้มากขึ้นและจะช่วยให้เรามองและเข้าใจโลกต่างจากที่เคยเป็น
1
และที่สำคัญคือ ช่วยให้เรามี"ปัญญา" ในการเลือกตัดสินใจกับสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น ส่งผลให้เรามีชีวิตที่เติบโตและมีความสุขสงบอย่างที่ต้องการ
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา