9 มี.ค. 2023 เวลา 20:32 • ความคิดเห็น
ในยุคเอโดะนั้น มีไดเมียวหลายตระกูลที่ครองอำนาจและมีขุมกำลังเป็นของตัวเอง ตำแหน่งที่สูงที่สุดในผู้นำก็คือ โชกุน ถ้าเทียบกับยุคนี้ก็คือ นายกรัฐมนตรี ส่วนไดเมียวตระกูลต่างๆก็น่าจะเทียบได้กับผู้ว่าราชการ เดิมทีทุกตระกูลอยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิ แต่โทกุกาว่า อิเอยาสุ ได้ริดรอนอำนาจของจักรพรรดิลง แล้วปกครองบ้านเมืองด้วยตนเอง ในตำแหน่งโชกุน แต่ไดเมียวที่มีขุมกำลังเป็นของตัวเอง ก็มิได้ยินยอมอยู่ใต้อำนาจ จึงเกิดการต่อสู้กับไดเมียวตระกูลต่างๆเช่น โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ กับโอดะ โนบุนากะ และตระกูล อุเอสึงิ
ในยุคนี้มิได้มีแค่การต่อสู้ของซามูไรเพียงอย่างเดียว แต่มีการต่อสู้กันในด้านข่าวสาร ซึ่งมีทั้งข่าวกรองและข่าวลวง และมีการทำงานลับด้วยมือสังหารที่เรียกว่า " นินจา " หรือนักฆ่าแห่งโลกมืด( สายลับและนักฆ่า ) ในทุกสงครามย่อมมีการสูญเสียและในกลียุคย่อมก่อเกิดวีรบุรุษ ในบรรดาวีรบุรุษทั้งหลายนั้น มาเอดะ เคจิโร่ โทชิมัตสึ ( ในการ์ตูน เรียกว่า มาเอดะ เคจิ ) คาบุกิโมโนจอมอหังการผู้มีร่างกายสูงใหญ่และม้ายักษ์มัตสึคาเสะ พร้อมทวนขนาดใหญ ( มาเอดะ เคจิ เป็นหลานชายของ มาเอดะ โทชิอิเอะ ขุนพลของ โอดะ โนบุนากะ )
1
แต่มาเอดะ เคจิ และ มาเอดะ โทชิอิเอะ ไม่ถูกกัน มาเอดะ เคจิ จึงออกจากตระกูลไป และได้พบกับ นาโอเอะ คาเนสึงุ ซึ่งเป็นขุนพลของตระกูล อุเอสึงิ จึงได้ช่วยตระกูล อุเอสึงิ รบกับทัพของ โมงามิ โยชิอากิ ด้วยยอดนักรบ 8 นาย จนทำให้ทัพของ โมงามิ ล่าถอยไม่เป็นขบวน จึงได้รับขนานนามว่า เป็นยอดนักรบที่เก่งที่สุดในยุคนั้น / เรื่องของสงครามนั้นไม่ว่าจะเป็นยุคเอโดะ หรือยุคสมัยใด ต้นเหตุของสงครามก็คือการชิงอำนาจและความเป็นใหญ่ ในปัจจุบันนี้ก็เช่นกัน สงครามมีทุกแห่งมีในทุกรูปแบบ เพียงเพราะความต้องการอำนาจของคนไม่กี่คน
ว่ากันว่า ซามูไร เป็นนักรบที่อยู่ในที่แจ้ง ส่วนนินจานั้น เป็นสายลับและนักฆ่าแห่งโลกมืด ดาบของซามูไรนั้นมีความคมกริบ สามารถตัดคอคนได้ในพริบตา ดังนั้นเวลาซามูไรเข้าพบไดเมียวหรือท่านผู้นำตระกูล ต้องถอดดาบยาวเอาไว้ ให้พกเฉพาะดาบสั้นเท่านั้น ส่วนดาบของนินจานั้น เป็นดาบขนาดเล็กที่ใช้ต่อสู้ในที่แคบ จึงไม่ต้องการความยาวและความใหญ่เหมือนดาบของซามูไร แต่ดาบของนินจาก็อันตรายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าดาบของซามูไร และนินจาก็เป็นที่หวั่นเกรงของผู้นำตระกูลทั้งหลายด้วย เพราะนินจามักจะถูกใข้ให้ลอบสังหารเหล่าผู้นำตระกูล
1
จริงๆแล้วมาเอดะ เคจิ เป็นบุตรของ ทาคิกาว่า คาสึมาสะ ซามูไรชั้นสูงแห่งโอวาริ ส่วนแม่ของมาเอดะ เคจิ นั่นเป็น " นินจา " จึงไม่ได้รับการยอมรับจากตระกูลทาคิกาว่า แต่ในเวลาต่อมา มาเอดะ โทชิฮิสะ ( พ่อเลี้ยง ของมาเอดะ เคจิ ได้ขอแม่ของ มาเอดะ เคจิ แต่งงานทั้งๆที่รู้ว่านางกำลังตั้งท้อง ) ภายหลัง มาเอดะ เคจิ ถูกส่งกลับตระกูล ทาคิกาว่า ในฐานะบุตรบุญธรรมของทาคิกาว่า คาสึมาสะ และด้วยเหตุที่ มาเอดะ เคจิ มิได้เป็นบุตรโดยสายเลือดของมาเอดะ โทชิฮิสะ จึงอาจจะเป็นเหตุให้มาเอดะ โทชิอิเอะ ไม่พอใจมาเอดะ เคจิก็เป็นได้
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ถูกนำมาทำเป็นการ์ตูนครับ เคยอ่านตอนสมัยเป็นนักเรียน จำได้ไม่เคยลืมเลย จากนั้นก็เลยค้นหาข้อมูลจริงมาศึกษาดูอีกทีครับ เป็นมหาสงครามสามก๊กของญี่ปุ่นที่ยิ่งใหญ่และยาวนานมากครับ ในปัจจุบัน แม้ว่าโลกจะเจริญก้าวหน้าไปมากแล้ว และดูเหมือนว่า " ซามูไรและนินจา " จะหายไปจากสังคมญี่ปุ่น แต่ในความเป็นจริง ซามูไรและนินจา( ที่ไม่ใช่หมู่บ้านนินจาท่องเที่ยว ) ก็ยังคงอยู่ พวกเขายังคงใช้ชีวิตปะปนอยู่กับประชาชนทั่วไป ในรูปแบบของบอดี้การ์ด ที่คอยพิทักษ์ปกป้องเจ้านายของตนอย่างเงีนบๆ ^_^
อยากกล่าวถึงที่มาของนินจานักฆ่าแห่งโลกมืดสักเล็กน้อย ว่าทำไมวิชาของนินจาจึงเป็นที่หวั่นเกรงของเหล่าไดเมียวทั้งหลาย วิชานินจานั้นเกิดจากการที่มีชาวนาจำนวนมากไม่พอใจชนชั้นผู้ปกครองและได้ทำการต่อสู้กับเหล่าซามูไร แต่สู้ซามูไรที่มีดาบอันคมกริบไม่ได้ ในขณะที่กำลังจะพ่ายแพ้นั้น ได้มีพระจากวัดเส้าหลินเดินทางผ่านมาพอดีิ หลวงพี่แห่งวัดเส้าหลินจึงถ่ายทอดสุดยอดวรยุทธของวัดเส้าหลินให้กับนักรบชาวนา และก่อตั้งเป็นกลุ่มนักรบแห่งโลกมืดขึ้นมา กลายเป็นนักฆ่าที่เหล่าไดเมียวและซามูไรทั้งหลายหวาดกลัว ^_^
ในยุคสามก๊กแห่งญี่ปุ่นนี้ นินจาอิงะ ซึ่งนำโดย ฮัตโตริ ฮันโซ หรือในการ์ตูนเรียกว่า นินจาฮาโตริ นั้นได้ทำงานให้กับ โตกุกาว่า อิเอยาสุ จนกระทั่งโตกุกาว่าสามารถรวมแผ่นดินสำเร็จ ส่วนนินจาโคงะ ซึ่งเป็นคู่แข่งของนินจาอิงะนั่น มีบางส่วนทำงานให้ฝ่ายตรงข้าม ในขณะที่บางส่วนทำงานให้กับโตกุกาว่า อืเอยาสุ เช่นเดียวกับนินจาอิงะ กล่าวถึงความน่ากลัวของนินจาแล้ว จะขอกล่าวถึงความน่ากลัวของดาบคาตานะบ้าง ดาบคาตานะนั้นมีสำนักตีดาบสองสำนักที่โด่งดังมาก ในเรื่องของความคมและความแข็งแกร่งของดาบคือมาซามูเนะและมุรามาสะ
ว่ากันว่าดาบของมุรามาสะนั้น เมื่อปักลงไปในลำธารมีใบไม้ไหลผ่านมา เมื่อใบไม้ได้สัมผัสกับคมดาบของมุรามาสะ ใบไม้ก็ขาดเป็นสองท่อนทันที มุรามาสะภาคภูมิใจมากที่ดาบของตนมีความคมกริบ ส่วนมาซามูเนะนั้นก็ได้ปักดาบลงไปที่กลางแม่น้ำเข่นกัน แต่ใบไม้ที่ไหลผ่านมานั้นมิได้สัมผัสกับคมของดาบของมุรามาสะเลยแม้แต่น้อย ว่ากันว่าเกิดจากรังสีการฆ่าฟันของดาบที่เปล่งออกมาจากตัวดาบนั้นมหาศาลมาก แม้กระทั่งใบไม้ยังรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของดาบเล่มนั้น ด้วยเหตุนี้ดาบที่ทั้งสองเป็นคนตี จึงเป็นที่หวาดกลัวของเหล่าไดเมียวทั้งหลาย
โฆษณา