18 มี.ค. 2023 เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์

ศตวรรษแห่งความอัปยศของจีน ก่อนจะเป็นพญามังกร ตอนที่ 1/2

ย้อนรอยจุดพลิกผันสำคัญที่ทำให้จีนซึ่งเคยเป็นคนป่วยแห่งเอเชีย ก้าวสู่เศรษฐกิจจีนสมัยใหม่
จากจีนโบราณ มาสู่ ปี 1842 ถือว่าสำคัญ
เพราะเป็นปีที่จีนถูกเปิดหน้ากากเป็นครั้งแรกว่า ไม่ใช่พญามังกรอย่างที่คิด
เป็นแค่ประเทศที่ใหญ่แต่ขนาด แต่ศักยภาพนั้นน้อยมาก
หนึ่งในเหตุการณ์ที่เป็นเครื่องพิสูจน์ คือ ตอนที่จีนแพ้สงครามฝิ่น ต่อจักรวรรดิบริติช(อังกฤษ)
ทั้งที่ อังกฤษ​ซึ่งรวมไอร์แลนด์ด้วย ขนาดเล็กกว่าไทย แต่เอาชนะพญามังกรได้
จากจุดพลิกผันนี้นำไปสู่ “ศตวรรษแห่งความอัปยศของจีน”
 
แล้วทำไม จีนถึงแพ้สงครามฝิ่น?
ย้อนไปก่อนหน้าจะแพ้สงคราม ราชสำนักที่ลอนดอน ตรงกับยุคพระเจ้าจอร์จที่ 3 สั่งให้​สั่งคณะทูตไปดูว่าจักรพรรดิจีน ประเทศที่มีพัฒนาการมากว่า 5,000 ปีเป็นอย่างไร ราชสำนักจีนใหญ่ขนาดไหน
เพราะที่ผ่านมาเคยได้ยินแต่ว่ายิ่งใหญ่ คนพูดภาษาเดียวกัน
โดยหัวหน้าคณะทูตคนแรกที่ไปชื่อว่า George Macartney นำทีมคณะทูตไป
สมัยนั้น เวลาต่างชาติจะติดต่อค้าขายกับจีน จะต้องเข้าไปทางตอนใต้
George Macartney ก็บอกกับข้าหลวงชาวจีนว่า อยากเข้าเฝ้าจักรพรรดิเฉียนหลง จักรพรรดิองค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์ต้าชิง
ข้าหลวงชาวจีนบอกได้ แต่ต้องขึ้นเหนือ ข้ามกำแพงเมืองจีนไป ที่พระราชวังเฉิงเต๋อ เป็นพระราชวังฤดูร้อนใช้ล่าสัตว์
 
ระหว่างเดินทางทาง ประมาณปี 1973 George Macartney ส่งคนไปสเก็ตแผนที่ เพื่อศึกษาว่าภูมิประเทศว่าจีนหน้าตาเป็นอย่างไร
พอเดินทางมาถึง ก่อนจะได้เข้าเฝ้า มีปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับวิธี​ทำความเคารพ
เดิมทูตอังกฤษต้องเคารพด้วยวิธี Kowtow คือ คุกเข่า ศีรษะแตะพื้น
ตอนแรก George Macartney ก็งง ไม่เคยทำความเคารพขนาดนี้
เคยแต่ทำแบบ Genuflex คุกเข่าเดียวต่อหน้ากษัตริย์
เลยเจรจาว่าจะทำความเคารพแบบนี้ เพราะเป็นการเคารพสูงสุดที่ทำให้ประมุชของประเทศเหมือนกัน
ปรากกฏจีนยอม และนั่นการเป็นจุดเริ่มต้นการพบกันครั้งแรกของฮ่องเต้จีนกับคนอังกฤษ
ในครั้งนั้น จีนถามถึงเครื่องบรรณาการ เพราะสมัยก่อนเวลาประเทศราชมาเข้าเฝ้า ต้องนำเครื่องบรรณาการมา
อังกฤษตอบไปแค่ว่า การพบกันครั้งนี้​ ก็คือของขวัญ
จากการพบกันครั้งแรก ผ่านไป 39 ปี อังกฤษเริ่มศึกษาแผนที่ รู้ว่าจีนเป็นอย่างไร บวกกับเริ่มมีการทำการค้าขายกับพ่อค้าอังกฤษ
ซึ่งอังกฤษก็แอบส่งหน่วยสำรวจมาเพื่อศึกษาแผนที่ทางน้ำ ดูเรื่องกระแสน้ำ โขดหิน
ในเวลานั้นอังกฤษมีอำนาจที่อินเดียแล้ว
Robert Clive หรือ Clive of India ที่อยู่ที่บริษัท East of India เริ่มให้ชาวอินเดียปลูกฝิ่นเพื่อจะเอามาขายที่จีน
ตอนนั้นราชสำนักต้าชิง จักรพรรดิเต้ากวง​บอกว่า การเข้ามาของฝิ่นจะมอมเมาคนในชาติ เลยสั่งให้ไปยึด และเผาให้หมด
พ่อค้าอังกฤษโกรธ หนึ่งในแม่ทัพเรืออังกฤษเลยแนะนำให้ทำจดหมายว่า ของที่จีนเผาเป็นสินค้าของ British Empire เพราะต้องการหาโอกาสประกาศสงครามกับจีน
หลังจากไปขออนุญาตควีน หารือในสภา มั่นใจว่ามีโนวฮาวพร้อม จากการเก็บข้อมูล ศึกษาแผนที่ เลยทำสงครามฝิ่น
และในปี 1842 อังกฤษชนะสงครามฝิ่น ทำให้จีนเสียพื้นที่เกาะฮ่องกง
ตอนนั้นจีนคิดว่าอังกฤษโง่ เลือกฮ่องกงแทนกวางตุ้ง
แต่อังกฤษรู้แล้วว่า ฮ่องกงน่าสนใจ เพราะ การที่มีน้ำนิ่ง ทำให้สามารถเอาเรือเข้าฝั่งได้โดยไม่ต้องประสบกับคลื่นลม
นี่คือโนวฮาวที่ชาติตะวันตกมี แต่จีนยังไม่เห็นประโยชน์ของการมีท่าเรือน้ำลึก และน้ำนิ่ง
เพราะถ้าไปดูอาณานิคมอังกฤษ เช่น สิงคโปร์ ซีดนีย์ จะมีลักษณะเดียวกัน คือ คลื่นลมน้อย น้ำลึก เอาเรือใหญ่เข้าท่าได้
เหตุการณ์หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ติดตามต่อในตอนที่ 2
ที่มา : Global Economic Background EP.7
โฆษณา