18 มี.ค. 2023 เวลา 09:00 • ประวัติศาสตร์

ศตวรรษแห่งความอัปยศของจีน ก่อนจะเป็นพญามังกร ตอนที่ 2/2

ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากจีนพ่ายแพ้ในสงครามฝิ่น
จีนก็ต้านทานอำนาจของชาติตะวันตกอื่นๆ ไม่อยู่
มีฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี อิตาลี ออโตมัน สหรัฐ ญี่ปุ่น รัสเซีย เข้ามาแบ่งเค้กในจีน โดยเลือกเซี่ยงไฮ้ที่เรียกว่า เขตเช่า แบ่งออกเป็น สิบๆส่วน
มาถึงสมัยซูสีไทเฮา ลูกสะใภ้จักรพรรดิเต้ากวง ก็พยายามปลุกระดมให้คนจีนต่อสู้กับฝรั่ง เรียกว่า “กบฏนักมวย” แต่ก็สู้ไม่ได้ เพราะมีกังฟู แต่สู้ปืนไม่ได้
จนตอนหลัง ซูสีไทเฮา ก็ต้องเฉไฉไปว่า กบฏนักมวย ทำกันเอง
แต่ก็ยังต้องเสียค่าปฏิกรรมสงครามในการก่อความวุ่นวายให้ 11 ชาติ เป็นเงิน 69 ล้านปอนด์ เรียกว่าแทบหมดตัว
จนปี 1911 จักรพรรดิปูยี สละราชบัลลังก์ ตอนพระชันษา 6 ขวบ
จีนเปลี่ยนผ่านจากจักรพรรดิสู่สาธารณรัฐ
มีหยวนซื่อไข่เป็นประธานาธิบดี
หลังจากนั้นพยายามสถาปนาตัวเองเป็นฮ่องเต้ แต่ตอนหลังก็เสียชีวิต
มีดร.ซุนยัตเซ็นขึ้นมา ถือว่าเป็นบิดาของจีนรุ่นใหม่ ขึ้นมามีอำนาจ
ตอนนั้นจีนเริ่มสนิทกับโซเวียต ซึ่งอยากให้จีนเป็นคอมมิวนิสต์
เพราะปี 1911 ที่จีนสิ้นสุดระบบจักรพรรดิ อีกไม่กี่ปีก็มีการล้มราชวงศ์โรมานอฟ
ช่วงนั้นจากรัสเซีย เป็นสหภาพโซเวียต ก็คิดว่า จะเป็นคอมมิวนิสต์รัฐเดียวบนโลก
ถ้าอย่างนั้นจะมีเพื่อนต้องเป็นประเทศใหญ่เลยเลือกจีน ที่อยู่บนทางแยกว่าจะเลือกทิศทางการเมืองแบบไหนดี
ขณะที่นานาประเทศ ที่เข้ามาในจีน ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะมาปฏิรูปจีน
คิดแค่ว่าจะมากอบโกยผลประโยชน์
ตอนนั้น​รัสเซียเลยให้คำแนะนำ ดร.ซุนยัตเซ็น ว่าควรมีมือขวาเป็นทหาร นั่นก็คือ เจียงไคเชก เป็นนักเรียนนายร้อยที่ญี่ปุ่น
ตอนนั้นจี นซึ่งใหญ่มาก 8 ล้านกว่าตารางกิโลเมตร (ประเทศไทยพื้นที่ 5 แสนกว่า)
ดร.ซุนยัตเซ็น กุมอำนาจที่นานกิง แต่ขุนศึกตามที่ต่างๆ ก็ประกาศอำนาจในพื้นที่เขตอำนาจตัวเอง ยุคนั้นเรียกว่า ยุคขุนศึก (Warload Era)
ดร.ซุนยัตเซ็น เลยคุยกับเจียงไคเช็ก ว่าต้องเอาชนะขุนศึกเหล่านี้ เพื่อผนึกจีนให้เป็นแผ่นดินเดียว
รัสเซียเลยเสนอกองกำลังให้ เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ดร.ซุนยัตเซ็น เลยค่อยๆผนึกตอนเหนือของจีนได้
ต่อมา ดร.ซุนยัตเซ็นตาย
มือขวาที่ขึ้นมาแทน คือ เจียงไคเช็ก ซึ่งเริ่มไม่ไว้ใจพรรคคอมมิวนิสต์
เจียงไคเช็ก สังหารพรรคคอมมิวนิสต์จีน เลยไปหาพื้นที่ใหม่ ด้วยการเดินทางไกล ที่เรียกว่า Long March (การเดินทางไกลครั้งใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์)
เดินทางไปจนถึงมณฑลที่เหมาเจ๋อตุง ประกาศตัวเป็นผู้นำสมบูรณ์แบบของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ระหว่างทางที่ไป กองทหารจาก 80000 กว่าล้มตายไปกว่าครึ่ง กว่าจะไปถึงฐานที่มั่นใหม่ ซึ่งต้องเป็นจุดที่ไม่มีกองกำลังของพรรคก๊กมินตั๋ง
ฐานที่มั่นนั่นคือ ซานซี
แต่สิ่งที่ได้คือได้ใจประชาชน เพราะที่ไหนที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนไป จะไปขอความร่วมมือ ไม่ได้ไปข่มเหง หรือ รังแกชาวบ้าน
ในช่วงที่กำลังชุลมุน
เกิดเหตุการณ์ ญี่ปุ่นบุกจีน ช่วงที่ญี่ปุ่นกำลังขยายอำนาจ
ตอนนั้นเริ่มมีไอเดียว่าจะไปรัฐจะไปรวมกับพรรคคอมมิวนิสต์มั้ย ปรากฏว่าเจียงไคเช็ก ปฏิเสธ
ตอนนั้นจางเสวียเหลียง ลูกของขุนพลที่เคยแพ้เจียงไคเช็ก
พอเห็นว่าเจียงไคเช็กไปเยี่ยมที่บ้าน เขาจับเจียงไคเช็กเป็นตัวประกันและบอกว่า ถ้าเจียงไคเช็กไม่ยอมจับมือกับพรรคคอมมิวนิสต์ต่อสู้กับญี่ปุ่น เขาจะฆ่าเจียงไคเช็ก
ตอนนั้นมาดามซ่งเหม่ยหลิง ภรรยาเจียงไคเช็ก ต้องไปเจรจา
ทำให้ เจียงไคเช็กยอมจับมือกับเหมาเจ๋อตุง พรรคอมมิวนิสต์จีน เพื่อต้านญี่ปุ่น
แต่ก็สู้ไม่ได้ จนตอนหลังญี่ปุ่นแพ้สงครามโลก เลยถอนทัพออกจากจีน
เจียงไคเช็กกับเหมาเจ๋อตุง ก็กลับมาตีกันอีก
ฝั่งเจียงไคเช็กยิ่งรบ กองทัพยิ่งเล็ก เพราะประชาชนไม่เอาด้วย
สุดท้ายกองทัพเหมาเจ๋อตุงไล่เจียงไคเช็กไปไต้หวันได้
และพรรคคอมมิวนิสต์ก็สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949 หรือ 4 ปีหลังจบสงครามโลกครั้งที่ 2
จีนประกาศ Great Leap Forward หรือ พาจีนสู่มหาอำนาจ
เริ่มปรับประเทศให้มีความทันสมัย เป็นประเทศอุตสาหกรรม
ปัญหาคือ ที่ผ่านมาจีนไม่มีนวัตกรรมสมัยใหม่ ตอนนั้นการเมืองแข็งแกร่ง เท่าเทียม แต่ความเป็นอยู่ไม่ดี
เหมาเจ๋อตุง มองว่า จีนติดกับดักการต่อสู้ทางชนชั้น
ระหว่างชนชั้นที่เป็นสมาชิกพรรคและข้าราชการ กับประชาชนธรรมดา
เลยเกิดการปฏิวัติวัฒนธรรม ซึ่งกินเวลา 10 ปี เต็ม
ตั้งแต่ 1966-1976 เป็นยุคที่ประชาชนจำนวนมากเจ็บปวด
กระทั่งเหมาเจ๋อตุงเสียชีวิต ในปี 1976 การปฏิวัติวัฒนธรรมถึงจบลง
 
 
ที่มา : Global Economic Background EP.7
โฆษณา