17 มี.ค. 2023 เวลา 01:08 • หนังสือ

รีวิวหนังสือ “ฤทธิ์มีดสั้น” Part 1 (ส่วนของลี้คิมฮวง และคุณภาพของหนังสือ)

เล่มที่ 21
“ทุกผู้คนต่างว่า มีดสั้นของท่านพอหลุดจากมือไม่เคยผิดเป้ามาเลย มิทราบเป็นวาจาประโคมเกินความจริงหรือไม่ ?”
“เมื่อกาลก่อนก็มีคนมากหลายที่สงสัยต่อวลีสองประโยคนี้"
"ตอนนี้เล่า ?"
ดวงตาลี้คิมฮวงมีประกายวาวขึ้นวูบหนึ่ง กล่าวช้า ๆ
"ตอนนี้พวกประดานั้นต่างตายหมดสิ้นแล้ว"
“มิว่าผู้ใดในโลก ต่างไม่มีความมั่นใจจะหลบหลีกมีดแรกที่หลุดจากมือมันเลย
“ไม่เคยมีคนสามารถหลบหลีกพ้น”
“ใช่ ! ไม่เคยมีเลยแม้สักผู้เดียว”
ลี้คิมฮวง พระเอกของเรื่องนี้ เคยสอบได้ตำแหน่งถ้ำฮวย จึงมีบางคนเรียกเขาว่า ลี้ถ้ำฮวย บุรษแซ่ลี้นามคิมฮวงผู้นี้ เป็นชายวัยกลางคน ชมชอบการดื่มสุรา มักจะมีขวดสุราแบน ๆ ที่เป็นเงินบริสุทธิ์พกติดตัวเสมอ สามารถดื่มหลายวันหลายคืนโดยไม่หยุดยั้ง ทั้งที่ตนเองไอแทบตลอดเวลา บางครั้งถึงกับไอเป็นเลือด เรียกได้ว่าเหมือนคนขี้โรคที่พร้อมจะตายได้อยู่ทุกเมื่อ
แต่เขากลับมีดวงตาคล้ายดั่งเป็นสีเขียวสดใส เฉกเช่นกับผิวน้ำทะเลในแสงแดดของอาทิตย์ฤดูร้อน มีสายตาเฉียบคม แจ่มใส จมูกโด่งตรงเป็นสัน เป็นคนช่างสังเกต สุขุม ใจเย็น ให้ความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย เป็นที่พึ่งพาอาศัยได้ นี่คือแบบฉบับของบุรุษเพศที่เหล่าดรุณีจำนวนมากเพ้อฝันรำพันหา
ลี้คิมฮวงเข้าใจหลักจิตวิทยารู้เท่าทันนิสัยของคน มีนิสัยเห็นใจผู้อื่น ยึดถือคุณธรรมน้ำมิตร ยึดมั่นในรักเดียว กล่าววาจารวบรัดชัดเจน คิดถึงจิตใจผู้อื่นแต่กลับลืมเลือนตนเอง
บุคลิกเกียจคร้าน งามสง่า เคร่งขรึม และเยือกเย็น ไม่ใช่พระเอกแสนดี ใสซื่อ แต่เป็นคนที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของมนุษย์ บางครั้งมีการพูดจาเหน็บแนมและไม่ไว้หน้าผู้อื่น หากผู้นั้นไม่ให้เกียรติตนเอง จึงทำให้หลายคนผิดใจกับลี้คิมฮวงได้ง่าย และมักจะถูกผู้อื่นเข้าใจผิดอยู่เสมอ การฆ่าคนของลี้คิมฮวงก็ดูเป็นเรื่องปกติหากมันผู้นั้นเป็นคนที่สมควรฆ่าในสายตาของลี้คิมฮวง มีดสั้นในมือของลี้คิมฮวงก็ไม่เคยปราณีใคร ลี้คิมฮวงจึงจัดว่าเป็นพระเอกสีเทาคนหนึ่ง
การคิดถึงแต่อดีตอันแสนเศร้าของลี้คิมฮวงแสดงให้เห็นถึงการยึดติดกับอดีตและไม่สามารถปล่อยวางได้ ทำให้ลี้คิมฮวงทุกข์ระทมมานานถึง 10 ปี เมื่อใดที่เขานึกถึงเรื่องในอดีตแววตาก็มักจะเปลี่ยนเป็นเศร้า
จุดอ่อนที่สุดวนชีวิตลี้คิมฮวง คือ ใจอ่อนเกินไป ลี้คิมฮวงยินยอมให้ผู้อื่นทรยศต่อตนเป็นหมื่นครั้ง ก็ไม่ยินยอมทรยศต่อผู้อื่นสักครา มีบางครั้งแม้รู้แน่ว่าผู้อื่นกำลังหลอกลวง แต่ยังคงถูกหลอกลวงจนได้
หลักการต่อสู้ของลี้คิมฮวง ไม่เน้นใช้พละกำลัง เน้นใช้ปัญญา ดังที่ปรากฏตอนหนึ่งในหนังสือว่า “มีคราหนึ่ง เต้งเลี้ยกสหายของลี้คิมฮวงยืนกรานประลองฝ่ามือกับลี้คิมฮวง แต่ลี้คิมฮวงปฏิเสธหลายครา ลี้คิมฮวงบอกว่า “ตนมิใช่วัวเหตุใดจะใช้พละกำลังต่อสู้เช่นวัว” ลี้คิมฮวงรู้สึกวิชาบู๊เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง แม้ไม่อาจเลิศล้ำจนสูงสุดแต่อย่างน้อยก็ต้องหมดจดสวยงาม แม้ผู้อื่นใช้กำลังป่าเถื่อนเข้าหักหาญกัน นั่นนับเป็นการต่อสู้ที่โง่เขลาดังโคกระบือไม่ผิดเพี้ยน”
มีดของลี้คิมฮวงนั้นถูกตีขึ้นจากเหล็กธรรมดา เบาอย่างยิ่ง เล็กอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้อื่นเห็นลี้คิมฮวงถือมีดอยู่ในมือที่ผอมเรียวและเคยได้ยินคำร่ำลือหรือเคยเห็นฝีมือของลี้คิมฮวงมาก่อน ผู้นั้นมักไม่กล้าลงมือก่อน และลี้คิมฮวงก็มีนิสัยชอบเย้ยหยันท้าทายให้ผู้อื่นลงมือก่อน แต่หากผู้นั้นลงมือเมื่อใดแม้ลี้คิมฮวงลงมือทีหลังก็ต้องพบว่ามีดสั้นไปอยู่ที่คอหอยมันแล้ว
ผู้เขียนบรรยายว่า “ตอนที่เซี่ยวลี้ปวยตอน่าสะพรึงกลัวที่สุด ก็เป็นตอนที่มันยังไม่ถูกซัดออกจากมือ เนื่องเพราะหลังจากซัดออกไปแล้ว ฝ่ายตรงข้ามต้องไม่รู้จักความใดเรียกว่าน่าสะพรึงกลัวอีก คนตายย่อมไม่รู้จักหวาดกลัวแน่นอน”
แต่ใช่ว่าการใช้มีดของลี้คิมฮวงครั้งใดจะต้องมีคนตายไปทุกครั้ง เพียงแต่การลงมือของลี้คิมฮวงทุกครั้งต้องเป็นการมั่นใจว่าจะสำเร็จผล ไม่เสียเปล่า มีบางครั้งที่ลี้คิมฮวงซัดมีดไปแล้วคนที่ถูกมีดกลับไม่ตาย เช่น ตอนที่ลี้คิมฮวงถูกสะกัดจุดอยู่ในรถม้าและใช้ได้เพียงแขนสองข้าง ไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายส่วนอื่นได้
ข้อที่ผมสงสัยคือ การใช้มีดแกะสลักท่อนไม้ในมือเป็นประจำทำให้ลี้คิมฮวงมือนิ่งปามีดได้อย่างแม่นยำ หรือเป็นเพราะการปามีดเป็นประจำทำให้มือนิ่งและส่งผลให้การแกะสลักของลี้คิมฮวงออกมาสวยงามกันแน่ แต่ที่รู้แน่ชัดคือ มีดบินของลี้คิมฮวงอันตรายมาก ๆ และไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ควรเป็นศัตรูกับเขา เพราะนอกจากความรวดเร็วและแม่นยำในการขว้างมีดแล้ววรยุทธในด้านอื่น ๆ ก็ไม่เป็นรอง
ความเทพของลี้คิมฮวงที่ผู้เขียนบรรยาย เช่น “ความปราดเปรียวของโสตประสาท ความคมกล้าของสายตาลี้คิมฮวงกล่าวได้ว่าเป็นเอกในพิภพจบแดน” “ยี่สิบปีมาแล้ว ไม่เคยมีผู้ใดในโลกที่สามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าของลี้คิมฮวง”
“ฝ่ามือนั้นของลี้คิมฮวง ไม่ได้แปรเปลี่ยนเยี่ยงไร เพียงแต่เป็นการลงมือที่เร็วเกินไป เร็วจนผู้คนไม่มีปัญญาไปขบคิดได้”
“ร่างของลี้คิมฮวงถลาออกไปแล้ว แต่เพิ่งถลาได้ก้าวเดียวพลันต้องหดกลับอีกครั้ง การถลาและหดครานี้ นับว่าพลิกแพลงรวดเร็วยิ่งกว่าสายฟ้า โดยผู้อื่นไม่มีทางจะสังเกตออกเป็นเด็ดขาด”
“ในโลกนี้ มีท่าร่างของผู้ใดสามารถเร็วกว่ามีดสั้นเซี่ยวลี้ปวยตอได้”
นอกจากนี้ยังมีตอนที่บ่งบอกว่า ความจำของลี้คิมฮวงดีเยี่ยม เช่น ตอนที่ลี้คิมฮวงกล่าวกับศิษย์คนโตของอีเข่าว่า “ท่านแม้ไม่รู้จักเรา แต่เรารู้จักท่าน…เมื่อสิบปีก่อน เราก็เคยพบท่านมาแล้ว ขอเพียงเป็นคนที่เราเคยพบหน้าสักครั้ง เราก็ไม่มีวันลืมได้เด็ดขาด”
และความเทพยังมีให้เห็นในฉากต่าง ๆ เช่น
1.ตอนที่ง้อยี่กล่าวกับพรรคพวกของตนไม่ให้วู่วามลงมือกับลี้คิมฮวงว่า “เซียวลี้ซิ่งต้อ (มีดเทวดาของลี้น้อย) เลิศล้ำในต่ำใต้ มีดแรกที่ซัดออกจากมือไม่เคยผิดเป้ามาเลย”
2.ตอนที่อั้งไฮยี้หรือเล้งเซี่ยวฮุ้น กล่าวกับลี้คิมฮวงว่า “เราแทงออกไปหนึ่งร้อยเจ็ดกระบี่ แต่ท่านกระทั่งขยับตัวก็ยังไม่เคย”
3.ตอนที่เหมยยี่ซิงแซสนทนาโต้ตอบกับปาเอ็งว่า “คนป่วยของเราผู้นี้เพียงยื่นมือ ชีวิตน้อย ๆ ของมันก็ต้องไปรายงานพญายมแล้ว” “ฮา ฮา…พอยื่นมือก็สามารปลิดชีวิตมัน เป็นวาจาที่พวกเรามิใคร่กล้าเชื่อนัก หรือคนป่วยของท่านจะเป็นเช่นดั่งลี้ถ้ำฮวย มีดสั้นพอซัดไป ไม่เคยผิดเป้าหมายแต่ไหนแต่ไร”
4.ตอนที่คนชุดดำซัดฝ่ามือใส่ลี้คิมฮวง “ลี้คิมฮวงถอยปราดไปดุจเกาทัณฑ์หลุดจากแหล่ง ร่างเอนราบจนแทบขนานกับพื้น มือคล้ายดั่งมิได้เคลื่อนไหวอย่างไร แต่มีดสั้นได้พุ่งออกไปแล้ว ประกายมีดพอวาบ คล้ายเป็นดาวตกกรีดจากท้องฟ้ามืดครึ้ม….ลี้คิมฮวงสะกิดปลายเท้าเล็กน้อย ร่างยืนตรงได้ทันที คล้ายดั่งยืนอย่างปลอดโปร่งเยือกเย็นอยู่ที่นั่นก่อนแล้ว”
5.ตอนที่จูกัวลุ้ยกำลังจะลอบสังหารอาฮุยทางด้านหลัง ลี้คิมฮวงช่วยไว้ ผู้เขียนบรรยายว่า “จูกัวลุ้ยพลันคำรามเสียงก้อง กระโดดสูงกว่าเดิมห้าหกเชียะ กระบี่ปลิวกระเด็นออกไป ปักตรึงอยู่บนเพดานห้อง พู่กระบี่ที่ด้ามยังคงสั่นไหวไม่หยุดยั้ง แต่สองมือของจูกัวลุ้ยกุมคอหอยตัวเองแนบแน่น…ลี้คิมฮวงตอนนี้มิได้แกะสลักท่อนไม้ เนื่องเพราะมีดสั้นที่แกะสลักท่อนไม้มิได้อยู่ในมือแล้ว…ได้ไปอยู่ที่คอหอยมันแล้วแต่ไม่มีผู้ใดแลเห็น”
ตอนนี้ผู้เขียนบรรยายไว้เพียงสั้น ๆ ทำให้ผมตีความไปได้สองทางว่า มีดที่ลี้คิมฮวงซัดออกไปด้วยความเร็วจนไม่มีใครมองตามทันนั้นถูกซัดออกไปเพียงเล่มเดียวคือมีดที่อยู่ในมือซึ่งใช้แกะสลัก แต่ความแรงของมีดทำให้แม้จะกระทบถูกกระบี่ที่อยู่ในมือจูกัวลุ้ยปลิวกระเด็นไปแล้ว ยังไม่สามารถลดความแรงลง แต่กลับพุ่งไปทะลุคอหอยจูกัวลุ้ยได้อีก
หรือตีความไปอีกทางว่าความรวดเร็วของมือลี้คิมฮวงที่นอกจากหยิบมีดออกมาซัดออกไปหนึ่งเล่มก่อนให้ถูกกระบี่ปลิวกระเด็นไปจากนั้นจึงใช้มีดอีกเล่มที่อยู่ในมือซึ่งใช้แกะสลักอยู่แล้วซัดไปที่คอหอยของจูกัวลุ้ยด้วยความเร็วที่ทำให้ดูเหมือนว่ามีดทั้งสองเล่มถูกขว้างออกไปพร้อมกัน
แต่ไม่ว่าจะตีความทางไหนก็รู้สึกทึ่งในความเทพของลี้คิมฮวง การที่มีดบินของลี้คิมฮวงไม่เคยพลาดเป้า อาจจะตีความได้จากที่ผู้เขียนบรรยายไว้ว่า “อาฮุยก็เป็นดั่งเช่นลี้คิมฮวง กระบี่กรีดไปต้องไม่กลับเปล่าแน่นอน” แสดงให้เห็นว่าหากลี้คิมฮวงกับอาฮุยไม่มีความมั่นใจว่าจะลงมือได้สำเร็จทั้งสองคนจะไม่ซัดมีดหรือแทงกระบี่ออกไป ดังนั้น เมื่อลงมือครั้งใดจะต้องหลั่งเลือด
วรยุทธที่เก่งกาจของลี้คิมฮวงไม่ทราบแน่ชัดว่าฝึกมาจากที่ใด เปิดเรื่องมาก็เก่งเทพเลย ไม่ต้องฝึกปรือพัฒนาฝีมืออีก แต่ที่ปรากฏในเรื่องพอจะบอกเล่าความเป็นมาได้บ้างก็คือตอนที่ซุนเล่าซิงแซกล่าวว่า “เซี่ยวลี้ถ้ำฮวยผู้นี้…ในวัยเยาว์ ได้รับการถ่ายทอดสุดยอดวิชาจากอัจฉริยะผู้ปลีกตัวนอกโลกียวิสัยท่านหนึ่ง จนมีวิชาฝีมือน่าแตกตื่นสะท้านโลก”
งานเขียนของโก้วเล้งชิ้นนี้นับว่าเป็นผลงานที่ดีเลิศ ล้ำลึกที่สุด แสดงให้เห็นถึงจิตใจของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง บทสนทนาภายในเรื่องลึกล้ำแต่อ่านแล้วเข้าใจง่าย คล้ายถูกกรั่นกรองออกมาจากมันสมองอันชาญฉลาดของผู้เขียนที่เข้าใจความเป็นมนุษย์และผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากมาย
เคยมีคนกล่าวว่า เรื่องฤทธิ์มีดสั้นนี้ต้องอ่านตอนที่ผ่านชีวิตมาเยอะแล้วถึงจะเข้าใจและอินกับเรื่องราวมากกว่าตอนอ่านในช่วงวัยรุ่น ผมเห็นด้วยเลยครับ
โก้วเล้งเน้นความฉลาดและไหวพริบของตัวละคร ความเก่งกาจของผู้ใช้อาวุธ มิใช่ความดีเลิศของตัวอาวุธ แม้ในตำราอาวุธของแป๊ะเฮี่ยวเซ็ง มีดสั้นของลี้คิมฮวงจะถูกจัดให้อยู่อันดับที่ 3 แต่ผู้เขียนก็พิสูจน์ให้เห็นว่า อันดับไม่ใช่ตัวชี้วัดความเก่งและความเป็นความตายในขณะต่อสู้
แต่เป็นปฏิภาณไหวพริบที่ใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในขณะต่อสู้มากกว่า แม้ลี้คิมฮวงจะเทพขนาดนี้แต่ก็ยังมีพลั้งพลาดได้และถูกผู้อื่นทำร้ายได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้นที่มีเหตุการณ์ไม่สามารถควบคุมได้เกิดขึ้นหรือไม่ด้วย
การถ่ายทอดความคิดของตัวละคร ทำให้เพลิดเพลินกับการอ่านมาก สนุกจนแทบไม่อยากวาง แม้จะไม่มีฉากต่อสู้แบบบู๊ล้างผลาญมากมายแต่สามารถสะกดผู้อ่านได้ด้วยคำพูดของตัวละครที่ใช้สติปัญญาในการพูดคุยประลองปัญญาเฉือนคมกัน และวิธีการเล่าเรื่องของผู้เขียน ถือว่าเป็นอัจฉริยะมาก ๆ
การบรรยายฉาก 18 บวก ในเรื่องนี้บรรยายได้อย่างวาบหวิวมากทำให้จินตนาการไปไกลจนเด็กไม่น่าจะอ่านได้ บางฉากก็บรรยายมาแบบติดเรทหนังอาร์กันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีฉากหัวขาดและรุนแรงอีกมากมายชี้ให้เห็นถึงพัฒนาการของการเล่าเรื่องที่เน้นฉากที่สมจริงยิ่งขึ้น ดาร์กยิ่งขึ้น ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าจะนำมาสร้างเป็นซีรีส์ให้เหมือนนวนิยายคงจะยาก
แต่ก็ยังหวังลึก ๆ ว่าจะมีใครหยิบขึ้นมาทำใหม่ในยุคสมัยนี้สักที เพราะดูมังกรหยกทั้งสามภาค กับกระบี่เย้ยยุทธจักรจนเบื่อแล้ว แต่ผู้กำกับต้องเก่งสามารถถ่ายทอดฉากที่รันทดหดหู่ เดียวดายและว้าเหว่ของลี้คิมฮวงออกมาให้เข้าถึงอารมณ์ได้ ซีรีส์ถึงจะสนุก เพราะฉากต่อสู้อลังการในเรื่องนี้มีน้อยต้องไปเน้นที่อารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ซาวด์ประกอบกับองค์ประกอบมุมมองของภาพ ดึงอารมณ์ของตัวละครออกมาให้ได้มากที่สุด
ฉากที่ลี้คิมฮวงถือมีดในมือก่อนจะซัด จะถ่ายทอดยังไงให้มีบรรยากาศกดดันน่าสะพรึงกลัวเหมือนที่นวนิยายบรรยายไว้ ยิ่งฉากซัดมีดนั้นจะทำออกมายังไงให้รู้ว่าเป็นมีดที่ซัดออกมาจากมือลี้คิมฮวง เพราะมันเร็วจนไม่มีใครสามารถมองทัน ต้องทำให้น่าตื่นเต้นและสนุกให้ได้
น่าจะเป็นเรื่องที่ยากมาก เราจึงเห็นซีรีส์เก่า ๆ ที่ทำฤทธิ์มีดสั้นดัดแปลงออกมาเละ ๆ เช่น ใช้พัดเข้าไปต่อสู้ก่อนซัดมีดบ้าง เพื่อจะเพิ่มฉากต่อสู้ให้ดูมีอะไรขึ้น ตอนซัดมีดก็ทำให้เห็นกันโจ่งแจ้งไม่ได้มีความเร็วที่คนมองตามไม่ทัน แต่ในยุคสมัยนี้หวังอย่างยิ่งว่าจะมีใครหยิบขึ้นมาทำได้ตรงตามบทประพันธ์
ผมเคยอ่านผ่าน ๆ ในช่วงวัยรุ่นก็รู้สึกเพียงว่าลี้คิมฮวงเทพมาก มีดเดียวจอด ไม่ได้รู้สึกอินกับเรื่องราวในนิยายเท่าไหร่ แต่พอมาอ่านในช่วงวัย 30 ขึ้นไปเช่นนี้ ทำให้รู้สึกว่าเป็นนวนิยายที่ควรค่าแก่การถูกยกย่องว่าดีที่สุดจริง ๆ ผมจึงแนะนำให้คนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาจนถึงวัยตั้งแต่ 30 ปี ขึ้นไปอ่านเรื่องนี้จะได้อรรถรสมากขึ้น
ผมซื้อแบบ Box set ชุดนี้มา 3 เล่มในราคา 700 บาท ตอนนั้นเห็นกล่องแล้วชอบมาก ทำออกมาสวยงามน่าเก็บสะสม ประกอบกับได้ยินคำร่ำลือของลี้คิมฮวงมานานเลยต้องซื้อมาไว้ในครอบครอง ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ ปกหนังสือภายในก็ทำออกมาได้สวยงาม
สรุปให้ 5 ดาวเต็ม ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
ผู้เขียน : โก้วเล้ง
ผู้แปล : ว.ณเมืองลุง
สำนักพิมพ์ : สร้างสรรค์บุ๊ค
จำนวนหน้า : 1,267 หน้า (3 เล่มจบ)
ISBN : 9789743415159

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา