Leonor Will Never Die (2022) – บทเพลงบรรเลงบู๊ของคุณป้าลีโอนอร์
การเลือกหัวข้อมาเล่าในหนัง มักจะมาพร้อมอะไรบางอย่างที่ผู้สร้างหยิบยกมาเพื่อจะพูดคุย สื่อสาร หรือบ่งบอกซึ่งตัวตนของผู้ทำเอง (แม้บางครั้งอาจจะไม่เลยก็ตาม) แต่บางครั้งการทำหนัง "เพื่ออุทิศ" หรือเป็นดั่ง "จดหมายรัก" แด่ภาพยนตร์ ก็เป็นหัวข้อยอดนิยมเพื่อบ่งบอกถึงตัวตนของผู้สร้างอยู่ไม่น้อย
เราจึงมักที่จะเห็นผู้กำกับ ฯ แบบสปีลเบิร์กทำ The Fabelmans หรือสกอร์เซซี่ทำ Hugo แต่สำหรับหนังเล็กจากประเทศฟิลิปปินส์ มาพร้อมเนื้อหาชวนหลุดโลก ที่ว่าด้วยคุณป้ารายนึงที่หลุดเข้าไปในโลกของบทที่เธอเขียน อย่าง Leonor Will Never Die
Leonor Will Never Die เล่าเรื่องของลีโอนอร์ เรเยส อดีตผู้กำกับ ฯ และมือเขียนบทชื่อก้องชาวฟิลิปปินส์ ขณะที่ได้แต่อยู่บ้านอย่างเหงา ๆ พร้อมด้วยลูกชาย รูดี้ ความหลงใหลที่มีต่อหนังบู๊ทางทีวี และความสนใจที่ไปเห็นการประกาศรับซื้อบทหนังทางหนังสือพิมพ์ ทำให้เธอตัดสินใจปัดฝุ่นเอาบทหนังที่เธอเขียนไม่เสร็จอย่าง “อีแร้งแผลงฤทธิ์” เอากลับมาเขียนต่อ
แต่แล้วด้วยขั้นตอนการเขียนที่ทำให้สมองตัน พลันจังหวะผัวเมียบ้านข้าง ๆ ทะเลาะกัน ทีวีรุ่นเก่าที่ทั้งสองโยนมา ประจวบเหมาะกระแทกเข้าศีรษะเธอโดยตรง ส่งเธอเข้าสู่โลกใบนั้นที่เธอกำลังขีดเขียน
ตัวหนังเปิดมาอย่างเรียบง่าย ด้วยวิถีชีวิตของคุณป้าลีโอนอร์ที่ดูธรรมดาทั่วไป หากแต่ความสัมพันธ์ของเธอกับลูกชายอย่าง รูดี้ เริ่มกระท่อนกระแท่น เพราะเธอดูจะหลงใหลอยู่ในโลกที่เคยรุ่งโรจน์ ที่เต็มไปด้วยเสียงของละครบู๊ทางทีวีเสียมากกว่า ด้วยเรื่องราวที่ดูจะเป็นความดราม่าที่แสนดาษดื่น แต่ขณะที่เนื้อเรื่องกำลังดำเนินไป มันก็มาพร้อมกลิ่นอายความหลุดโลกขึ้นทุกขณะ และมาพร้อมกฎเกณฑ์แสนประหลาด แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ๆ
ด้วยความที่ฉากหลังของเรื่องราว คือประเทศฟิลิปปินส์ ที่มีบรรยากาศและกลิ่นอายคล้ายบ้านเรา ทำให้เรารู้สึกคุ้นเคยกับรูปแบบบ้านเมืองหรือแม้กระทั่งผู้คนในเรื่องนั้นได้โดยง่าย แต่เรื่องราวดูแบ่งรับแบ่งสู้กันระหว่างตัวละครอย่าง ลีโอนอร์ คุณป้าวัยดึกที่มีพื้นหลังเป็นนักเขียนบท “ที่เคย” มีชื่อเสียง แต่ก็ดูจะยึดติดและไม่อาจจะปล่อยผ่านไปได้ง่าย ๆ กับอีกฝ่ายคือ รูดี้ ลูกชายของเธอเอง ที่เหมือนความไม่สนใจและผลัดวันประกันพรุ่งของลีโอนอร์ จะทำให้เขาเริ่มเอือมผู้ที่เป็นแม่เข้าไปทุกวัน
การตัดสินใจหวนกลับไปเขียนบทของลีโอนอร์ จึงเป็นเหมือนการหวนกลับไปยังวันวานที่เคยหวานหอม หวนคืนไปสู่เรื่องราวและตัวละครที่เธอขีดเขียน ราวกับว่า ชะตากรรมในเรื่องราวทั้งหมด เธอเป็นผู้ขีดเขียนเองได้ทั้งหมด ต่างจากชีวิตจริง ที่กระทั่งบ้านเธอจะโดนตัดไฟ แต่เธอก็ไม่อาจจะเอาใจไปจ่ายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ..จนกระทั่งเธอได้โดดเข้าสู่โลกใบนั้น ด้วยอุบัติเหตุ
น่าสนใจ ที่ Leonor Will Never Die ไม่ได้มาพร้อมงานสร้างที่เนียนกริ๊บ หรือท่าทีการกำกับที่หรูเลิศ หรือการแสดงที่โดดเด่นจนต้องตบเข่าฉาด หากแต่ด้วยท่าทีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ เพราะมันค่อย ๆ เผยให้เห็นภูมิหลังของตัวละครทีละเล็กละน้อย ทั้งฝั่ง ลีโอนอร์ ที่เธอไม่อาจจะหลุดพ้นจากความรู้สึกผิดในอดีต และวันที่เคยรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ กับจังหวะการเล่าเรื่องที่ตัดสลับระหว่างโลกจริงและโลกในบทของลีโอนอร์ได้อย่างหลุดโลก แต่ก็สะท้อนถึงตัวตนของเธอได้ดีอย่างคาดไม่ถึง
การยั่วล้อขนบหนังแอ็คชั่นทางทีวีเกรดบี เต็มไปด้วย บทพูดที่ดูละค้อนละคร การจัดวางเหตุการณ์แบบไม่มีที่มาที่ไป การใส่องค์ประกอบแบบนึกจะใส่ก็ใส่ อย่างเช่น ฉากบู๊แทบทุกตอน การให้ตัวร้ายเผยไต๋แผนการ หรือการใส่ไก่เข้ามาซะเฉย ๆ ก็เป็นจังหวะเรื่องราวที่สร้างเสียงหัวเราะชวนยิ้มได้ง่าย ๆ
แต่กระนั้นเอง ด้วยองค์ประกอบเหล่านั้น มันดันสะท้อนก้องถึงคุณค่าของภาพยนตร์ที่ชวนพาเรา “หลุด” ไปจากโลกแห่งความจริงได้อย่างชาญฉลาด ในโลกที่เต็มไปด้วยความคุกรุ่นของบรรยากาศที่ไม่น่าพิศมัย แต่โลกของภาพยนตร์ ก็ยังเป็นสิ่งที่ช่วยจรรโลงและชะล้างจิตใจให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ หรือไม่ ก็ยังสะท้อนถึงผู้คนในแง่ใดแง่นึง ในแบบที่เราคาดไม่ถึง
หากเปรียบกรณีของ ลีโอนอร์ ในหนัง “อีแร้งแผลงฤทธิ์” ที่เธอยังเขียนไม่เสร็จ มันคือการย้อนกลับไปไถ่บาปจากความรู้สึกผิดที่เธอมี การย้อนกลับไปสู่ต้นตอ ของการซ่อมรอยแผลใจที่เธอไม่เคยปิดมันลงได้เสียที เพราะครั้นจะใช้ชีวิตธรรมดาเดินหน้าต่อไป “มัน” ก็หวนมาลอยหน้าลอยตา ราวกับเป็นวิญญาณของความผิดหวังที่เธอไม่มีวันมองข้ามได้
ครั้นจะนึกว่า หนังจะเป็นเพียงการซ่อมรอยแผลใจของป้าลายคราม แต่หนังก็ซ้อนทับเราอีกครั้งในตอนจบ เพราะไม่เพียงแต่หนังจะสะท้อนถึงคุณค่าของหนังในหนัง แต่มันกลับ “ซ้อนหนังในหนัง” เข้าไปอีกขั้น หากเรื่องราวของป้าลีโอนอร์คือการเปิดใจของตัวป้าลีโอนอร์
ช่วงเวลา 10 นาทีสุดท้าย ก็เป็นการเปิดใจจากตัวผู้กำกับ ฯ มาร์ติก้า รามิเรซ เอสโคบาร์ อย่างตรงไปตรงมา ถึงความหมายของเรื่องราวที่เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์เฉพาะตัว และสิ่งต่าง ๆ ที่คาดเดาไม่ได้ หากแต่มันอบอวลไปด้วยความจริงใจ และบ่งบอกถึงตัวตนที่สร้างสรรค์และกล้าหาญได้อย่างยิ่งยวด
และมันยิ่งยกระดับ คุณค่าและความหมายของ Leonor Will Never Die ให้ ป้าลีโอนอร์ กลายเป็นหนึ่งในตัวละครของโลกภาพยนตร์ที่จะเป็นอมตะ และสถิตอยู่อย่างนิจนิรันดร์ และเธอจะไม่มีวันตายอย่างแน่นอน
สรุปแล้ว Leonor Will Never Die คือหนังตลกดราม่าสัญชาติฟิลิปปินส์ ที่มาพร้อมองค์ประกอบกลิ่นอายหนังบู๊ทางทีวี ที่เต็มไปด้วยความคัลท์ชวนขำป่วน และบรรยากาศที่หลุดโลกเหนือความคาดหมาย หากแต่มันสะท้อนก้องถึงคุณค่าของภาพยนตร์ ที่พาเราหลีกเร้นออกจากความจริงไปสู่เรื่องราวการผจญภัยที่ชวนจรรโลงและสร้างรอยยิ้ม แถมยังสะท้อนถึงตัวตนของผู้กำกับ ฯ ที่แสนจะจริงใจ เป็นความสนุกที่สร้างสรรค์และกล้าหาญอยู่ไม่น้อย
4.5 / 5
Leonor Will Never Die (2022)
Written & Directed by Martika Ramirez Escobar
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
