Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สารพันบันเทิงจีน
•
ติดตาม
31 มี.ค. 2023 เวลา 18:18 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ทางรัก ทางฝัน ของฉันและเธอ รักแรก..รักเดียว
เรื่องนี้รอดูอย่างใจจดจ่อ เพราะถานซงอวิ้นกับจิ่งป๋อหรัน
เห็นตัวอย่าง เห็นชื่อเจ้าของบทประพันธ์ ( โมเป่าเฟยเป่า -ผู้เขียนเรื่องทุกชาติภพกระดูกงดงาม) คาดว่าดราม่าน้ำตาท่วมแน่ ๆ ปรากฏว่าผิดคาด ความดราม่า มีเฉพาะช่วงตัดตัวอย่างมาให้ดูเท่านั้น
ที่เหลือคือซีรีส์รักโรแมนติก ที่ทำให้คนดู ดูไป ยิ้มแก้มแตกกันไป อยากสิงถานซงอวิ้นกันไป
เนื้อเรื่องมีแค่เส้นทางความรักของคนสองคน ที่เป็นรักแรกของกันและกัน มีเหตุต้องเลิกรากันไป จน 10 ปีต่อมา กลับมาพบกันอีกครั้ง รักกันอีกครั้ง ไปจนถึงการแต่งงานและมีลูก
ไม่มีความลับอะไร ไม่มีพลิกไปพลิกมา หรือดราม่าหนักหน่วงอะไรทั้งสิ้น อุปสรรคความรักมีบ้าง แต่แทบไม่มีผลอะไรกับคนทั้งคู่ พูดกันแค่คำสองคำก็เข้าใจกันแล้ว
ส่วนการดำเนินเรื่องก็เนิบนาบ เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ แบบไม่รีบไปไหนอีกต่างหาก เน้นทางเดินชีวิตของชายหญิงคู่หนึ่งอย่างละเอียดยิบ ชนิดคุ้มค่าตัวสุด ๆ เพราะแทบจะเล่นกันอยู่สองคน ดาราสมทบนับสิบคนได้แอร์ไทม์รวมกันประมาณ 10 %
ได้ข่าวว่าเรตติ้งที่จีนตอนเปิดตัวดีงามอยู่ไม่น้อย แต่หลังจากนั้นก็ลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนค่อนข้างชอบเรื่องนี้ อาจไม่ได้มากสุด ๆ แต่ก็ชอบ (ฮา)
อย่างที่เคยเขียนถึงเสมอว่า การชอบหรือไม่ชอบ ซีรีส์หรือหนัง เรื่องใดเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องเฉพาะตัว ซีรีส์ที่คนอื่นว่าสนุก ไม่จำเป็นว่าเราต้องสนุกด้วย ในทางกลับกัน เรื่องที่คนอื่นไม่ชอบ เราอาจชอบมากก็ได้
บทเล่าสภาพของครอบครัวของทั้งลู่เฉินและกุยเสี่ยวค่อนข้างละเอียด เพื่อให้คนดูเข้าใจโดยไม่มีคำถามว่า...
ทำไมลู่เฉินเก็บปากเก็บคำเหลือเกิน ในขณะที่กุ้ยเสี่ยวเติบโตมาราวกับความเพียบพร้อมไปเสียทุกสิ่ง ย่อมร่าเริงสดใส
ทำไมลู่เฉินตัดสินใจแบบนั้น
ทำไมกุยเสี่ยวบอกเลิก
ความรัก จะเป็นรักแรกพบหรือไม่ มันก็เป็นแค่จุดเริ่มต้น แต่จะสามารถใช้ชีวิตด้วยกันได้หรือไม่ มันยังต้องมีเหตุและปัจจัยอีกมากมาย ที่คนทั้งคู่ทั้งควบคุมได้ และควบคุมไม่ได้
ในวัยนั้น ต้องอยู่ห่างไกลกันขนาดนั้น ลู่เฉินซึ่งไม่ค่อยพูดอะไรอยู่แล้ว ก็พูดน้อยลงไปอีก เพราะกำลังต้องต่อสู้กับปัญหาครอบครัวมากมายที่รุมเร้าเข้ามา ส่วนกุยเสี่ยว โลกสีชมพูที่เธอกระโดดโลดเต้นมาตลอดชีวิต เปลี่ยนเป็นสีเทาฉับพลันทันใด เพราะพ่อมีเมียน้อย แถมไม่อาจปรึกษาความในใจกับคนที่ตนไว้ใจที่สุด รักที่สุดได้
สถานการณ์แบบนี้ ความสัมพันธ์จะขาดสะบั้นลงก็ไม่แปลก
เมื่อเป็นซีรีส์รักโรแมนติก แม้ความสัมพันธ์ขาดไป แต่ “ความรัก” ยังอยู่
10 ปีให้หลัง ความรักยังอยู่ ความสัมพันธ์กลับมา แต่ก็ยังต้องเผชิญอุปสรรคที่ติดตัวมาของคนทั้งคู่
เรื่องพื้นหลังครอบครัวที่ต่างกัน ฐานะกุยเสี่ยวที่ดีกว่า เป็นเรื่องเล็กไปเลย เมื่อคิดถึงอาชีพหน่วยสวาทของลู่เฉินที่ ชีวิตครึ่งหนึ่งของเขาเป็นของประเทศชาติ กุยเสี่ยวจะรับได้หรือไม่ที่สามีจะหายไปนาน ๆ โดยไม่รู้ว่าไปไหน ไปทำอะไร อันตรายแค่ไหน และต้องพร้อมที่จะกลายเป็นหม้ายได้ตลอดเวลา
ส่วนลู่เฉิน เมื่ออุทิศชีวิตเพื่อประเทศชาติไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ายกชีวิตส่วนตัวพร้อมทรัพย์สินที่มีทั้งหมดให้กุยเสี่ยวไปเลย ทำอะไรให้ได้ ทำหมด เคยเงียบไม่พูดก็หันมาพูด มาอธิบายมากขึ้น
ถ้าไม่ได้เลิกกันเมื่อ 10 ปีก่อน ถ้าไม่ได้รู้ด้วยตนเองว่า ไม่อาจ “รัก” ใครได้อีก ก็คงไม่กลับมารักกันได้มากเท่านี้
เรื่องนี้บทสนทนาที่ตัวละครคุยกัน โดยเฉพาะช่วงแรก ๆ มันน้อยมาก แต่ภาษาภาพชนะเลิศจริง ๆ
สัมผัสได้ถึงความเสียใจล้ำลึกในใจของทั้งคู่ที่ต้องเลิกกัน
สัมผัสได้ถึงความรักที่หยั่งรากลึก ที่ไม่มีใครคิดจะก้าวออกจากอดีต
เปิดเรื่องมา พระเอกนางเอกเจอหน้ากันโดย(ไม่) บังเอิญ กุยเสี่ยวถามว่า
“ยังจำฉันได้ไหม” แล้วลู่เฉินตอบว่า
“ต่อให้กลายเป็นเถ้าถ่านก็จำเธอได้”
ไม่เจอกันมา 8 ปี ใครเขาตอบแฟนเก่าแบบนี้กันบ้าง คนเขียนบทก็ทุบหัวคนดูตั้งแต่ฉากแรกกันเลย
1
ฉากสารภาพรักของทั้งคู่ในวัยเยาว์ ก็นะ ลู่เฉินถามกุยเสี่ยวเอาดื้อ ๆ ว่า
“ชอบฉันไหม”
เอ่อ พ่อคุณ จะขอให้เขาเป็นแฟน หรือกำลังขู่จะเอาเงินเขา
ตอนจะกลับมาดีกับเขา ก็ถามเขาว่า
“ยังชอบฉันอยู่ไหม”
ช่างเป็นพระเอกที่หน้าด้านอะไรขนาดนี้ 5555
1
ฉากที่ส่วนตัวเห็นแล้วแอบขำ คือตอนที่ลู่เฉิน มาส่งกุยเสี่ยว แล้วก็ยังไม่ยอมกลับ ปืนไปยืนบนรถเพื่อโทรศัพท์คุยต่อ เพราะก็เคยมีโมเม้นต์ ประเภทคนมาส่งไม่ยอมกลับไปง่าย ๆ เหมือนกัน(ฮา)
สิ่งที่ชอบมากเรื่องนี้คือถ่ายภาพสวยมาก โดยเฉพาะช่วงที่ถ่ายกลางหิมะ
เรื่องที่น่าสังเกต คือตัวละครส่วนใหญ่ในเรื่องนี้เรียกว่าเป็นทั้งญาติและเพื่อนกันมาตั้งแต่วัยเด็ก นอกจากช่วยเหลือเกื้อกูลกันทุกเรื่อง แบบไม่มีเงื่อนไข ขนาดเรื่องภายในครอบครัวยังเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยให้ได้
คุณค่าในทางสังคม ที่ผู้คนเขียนบท(รวมถึงทางการจีน) ต้องการสื่อสารก็คือ การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ซึ่งถือเป็นวีรบุรุษ เมื่อเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแทนคนทั้งชาติ ย่อมมีสถานะพิเศษ ครอบครัวจะได้รับการดูแลอย่างดี
แม้จะค่อนข้างชอบ แต่ก็ต้องยอมรับช่วงท้าย ๆ ของเรื่องยืดไปหน่อย tie-in การท่องเที่ยวจีนบ้าง อะไรบ้าง 555 จริง ๆ จบได้ตั้งแต่ตอน 24-25 แล้ว แต่สายฟินคงไม่ติด เพราะได้ยิ้มแก้มแตกกันแทบทุกตอน
นักแสดง
เรื่องนี้ต้องอวยนักแสดงนำทั้งคู่ คือ ถานซงอวิ้น กับ จิ่งป๋อหรัน เล่นดีจริง ๆ ที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครได้น่าประทับใจขนาดนี้ รับส่งกันได้เป็นธรรมชาติมาก
ส่วนตัว เรื่องนี้ชอบจิ่งป๋อหรัน มากกว่านิดนึง เพราะอย่างแรก นาน ๆ จะได้ให้นักแสดงจีน ที่สรีระเป็นผู้ชายจริง ๆ ไม่ได้เอวบางร่างน้อยอ้อนแอ้น แต่ที่สำคัญกว่าคือเขาดีไซน์ลู่เฉินได้โคตรเท่ โคตรหล่อ โคตรมีเสน่ห์เลย โดยเฉพาะวิธีใช้สายตา ที่คอนเฟิร์มว่ามันพูดได้
1
จิ่งป๋อหรันเป็นนักแสดงที่ร้องไห้ได้เจ็บปวดจริง ๆ ชอบมาตั้งแต่เรื่อง Us and Then แล้ว และรับรีแอคกุยเสี่ยวทุกฉาก อย่างฉากหลังผ่าตัดแล้วยังไม่ฟื้น แล้วกุยเสี่ยวที่ใกล้คลอด มาพูดอยู่ข้าง ๆ จริง ๆ เขาต้องไม่รู้สึกอะไรแล้ว แต่น้ำตาไหลทางหางตาเฉยเลย
อีกฉากคือตอนแต่งงาน ตอนที่หันมาพูดกับกุยเสี่ยว น้ำตาซึม มือไม้สั่น เห็นแล้วนึกถึงรายการ Call Me By Fire S2 รายการร้องเพลงของเหล่านักร้องรุ่นเก่ารุ่นใหม่ มีเวทีหนึ่ง จางจื้อหลิน ทำธีมขอ หยวนหย่งอี๋ (ภรรยา) แต่งงาน เหมือนจัดงานแต่งงานครั้งที่สองบนเวที จางจื้อหลินก็เสียงสั่น มือไม้สั่นแบบนี้เลย
ความไม่มีอะไรของบท แต่ถ้านักแสดงเก่ง มันก็สามารถกลายเป็นละครที่คนติดกันงอมแงมได้
ซีรีส์จีน
1 บันทึก
5
2
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
แนะนำซีรีส์
1
5
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย