18 เม.ย. 2023 เวลา 05:00 • ความคิดเห็น
ชีวิตที่เราตื่นขึ้นมา ..ตื่นขึ้นมาปุ๊บ ..อารมณ์นึกคิดขึ้น ก็เข้ามา ..นึกต้องไปทำเรื่องนั่นเรื่องนี้ ออกจากบ้านไปทำงาน ไปเจอะเจอคนนั้นคนนี้ มีกิริยาท่าทางกายวาจาใจ บ้างครั้ง ก็มีเรื่องนั้นเรื่องนี้ เสียหาย ..เรื่องอารมณ์ที่เกิดขึ้น หงุดหงิด ไม่ได้ดังใ๗ คนนี้ติ ..กลัวคนนี้นคนี้ จะติเตียน กลัวไม่มีคนชม ..มันล้วนเปีอารมณ์ เป็นเหมือนสีดำ ..ที่เห็นหลับตานอน มันล้วนเป็นสีดำกดทับ ตกลงมาในกาย เลือดที่หล่อเลี้ยงกายก็เป็นสีดำสีม่วง..ไม่ใช่สีแดง..สดใส
..พอเลือดลมมันเป็นสีดำสีม่วงมากเข้าๆ กายก็หนัก หายใจก็ไม่ลึก ไม่เคยสังเกตดูลมหายใจที่บ่งบอกชีวิตจะเป็นจะตายเมื่อไหร่ ก็ไปปล่อยตัวทำงานไปเรื่อยๆ ..ลมเข้าออกในกาย มันก็ล้วนเป็นอารมณ์ .ทั้งสิ้น หน้าดำหน้าแดง ..หายใจอึดอัด ..ไม่สบายตัว ..คนเราพอเนื้อตัวมันไม่สบาย ..หงุดหงิด ..นั่งที่ไหน ก็หงุดหงิดรำคาญ ผลาญเบื่อหน่าย ..ที่แท้ก็อารมณ์ของตัวเองนั่นแหละ สะสมแต่กรรม ..แล้วจะพักกายพักจิตอย่างไรดีน่ะ ล้มตัวลงนอน ก็มีมีแต่สีดำปกคลุมกาย .. แล้วจะแก้ไขอย่างไรดี ..ให้สีดำๆมันออกไปจากเรือนกายเสียบ้าง
มีน้องคนหนึ่ง เพิ่งไลน์มาบอกว่า ..เลือดดำกับเลือดแดง เข้าใจได้ดีเลยครับพี่..
เรื่องการสวดมนต์ เราเอาจิตมาสวดมนต์ ให้จิตอยู่กับลมหายใจเข้าออก ทำกายนิ่งๆ พักจิตอยู่กับลมหายใจ ..จิตไปยึดอยู่กับลมหายใจ .มีสติหายใจเข้าออกลึกๆ มีสติปล่อยลมออกไปไม่คิดไม่นึกอะไร .ยิ่งมีภาวนา ให้จิตอยู่กับพระ ภาวนาพุทโธ .หายใจเข้าลึกๆ แล้วก็ค่อยๆ ปล่อยลมออก เหมือยนเอาของดีเข้าไปในกาย เอาของเสียออกไป ..ก็จะช่วยฟอกกายฟอกธาตุในกายได้ดี .ต้องทำเป็นนิจสินถึงจะดี
อีกทั้งการสร้างทาน สละความยึดถือวัตถุสิ่งของปัจจัยเล็กๆน้อยๆออกไป ที่หามาได้ หามาแล้วก็ยึดหวงแหน เราก็สละแปรสภาพให้เป็นบุญ ..
เมื่อไปทำบุญ ..สมมุติว่าใส่บาตร เราเอากายของพ่อแม่มาใส่บาตร ตามองดูที่มือกำลังใส่บาตรลงไป ..ให้เรือนกายที่จิตนี้อาศัย กายพ่อแม่ให้เรามา ..เราเอามาสร้างให้เป็นบุญ ..ให้กายมีบุญ ..แล้วก็ต้องสังเกตด้วย ว่าเมื่อใส่บาตร ..เสร็จใหม่ๆ จิตใจเรามันปลอดโปร่งมั้ย ..ทำบุญแล้วก็สังเกตตัวเอง ..เสียหน่อย ..ว่าเป็นอย่างไร ส่วนมากคนเราก็ไม่ค่อยๆสังเกตุ ..นั่นก็คือ เวลาทำบุญ ก็ต้องมีสติ.รู้จักว่าได้นำเรือนกายพ่อแม่มาสร้าง..ให้กายนี้เป็นบุญเกิดขึ้น ที่จะช่วยขจัดสิ่งที่ยึดอยู่ในกายในจิตนี่ออกไป .กายก็จะเบาขึ้น.
โฆษณา