2 พ.ค. 2023 เวลา 10:59 • นิยาย เรื่องสั้น

เกิดใหม่ทั้งที ก็กลายเป็นสลิ่มไปซะแล้ว

ตอนที่ 4 : ปาฏิหารย์
"ม...ไม่จริงน่า"
ราวัลล่าร้องออกมาหลังจากที่เขาหันหลังกลับไปแล้วเจอกับชายร่างใหญ่ในชุดสีเหลือง ผ้าพันคอสีฟ้า และกางเกงขาสั้นสีดำเหมือนเดิม ก่อนเขาจะเอื้อมมือขึ้นไปลูบศีรษะ และผมว่าหัวตัวเองก็ยังเกรียนเหมือนเดิม
"ม.. ไม่นะะะะะะ"
ราวัลล่าตะโกนออกมาแบบสุดเสียง ก่อนจะทรุดลงไปนั่งร้องไห้ ราวกับคนที่ Mental Break ไปแล้วแต่ก็ยังต้องมีชีวิตอยู่ ก่อนเสียงสะอึกสะอื้นของเขาจะถูกกลบด้วยเสียงสัญญาณแหลมสูงที่ดังมาจากเสากระจายสัญญาณที่อยู่บริเวณกลางหมู่บ้าน และเสียงของฝีเท้าจำนวนมากที่เคลื่อนที่ไปมารอบตัว
'ก...เกิดอะไรขึ้นเนี้ย'
ราวัลล่าคิดในใจเมื่อเขา Mental Break ก็แล้วแต่ยังไม่มีใครสนใจ ก่อนเขาจะเช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้นมามองไปรอบๆ และพบว่าถนนที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนตอนนี้ได้กลายเป็นถนนรกร้างไปเสียแล้ว ไม่เว้นแม้แต่ชายเจ้าของร้านข้าวไข่ต้มครึ่งซีก ที่ตอนนี้ก็หายตัวไปด้วยเช่นเดียวกัน
'อะไรว.....'
-อีเว้นท์พิเศษ จอมมารโคโรเรน่าโจมตี-
จู่ๆ เสียงของระบบก็ดังขึ้นในหัวราวัลล่า ก่อนเขาจะเงยหน้าขึ้น มองไปยังกำแพงเมืองทางทิศเหนือ และพบกับร่างของมนุษย์ตัวใหญ่ยักษ์สีดำที่โผล่พ้นกำแพงเมืองขึ้นมาพร้อมกับก้อนหินขนาดใหญ่ในมือ ก่อนหินในมือจอมมารโคโรเรน่าจะพุ่งออกจากมือเขา และไปเสียบอยู่บริเวณทางออกบริเวณทิศใต้ของเมือง
หลังจากนั้นจอมมารโคโรเรน่าก็แคะขี้มูกและดีดขี้มูกใส่กำแพงเมืองจนมันกลายเป็นรู ในขณะที่มนุษย์ตัวดำๆ จำนวนมากวิ่งกรูกันลงมาจากร่างของจอมมารโคโรเรน่า แล้ววิ่งเข้ามาในเมืองผ่านรูที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่
เห็นแบบนั้น ราวัลล่าก็ตะโกนออกมาแบบสุดเสียงว่า
"เอาเครื่องยิงฉมวกปิ้วๆ มาให้ฉันนนนนนนนน"
"ว่าแต่ไอเครื่องนั่นมันยิงฉมวก หรือมันใช้ไอพ่น หรือมันใช้กฏฟิสิกส์ข้อไหนวะ แต่เอาเถอะ เอามันมาให้ฉันนนน เอาคัตเตอร์อันใหญ่ๆ มาให้ฉันสองอันด้วยยยยยย"
แต่หลังจากที่ตะโกนเสร็จ ราวัลล่าก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนเขาจะร้องออกมาว่า
"เอ้อะ ลืมไปว่านี่มันโลกของสลิ่มนี่หว่า"
"มาเลยจอมมารโคโรเรน่าาาา พาฉันไปเกิดใหม่ทีโว้ยยย"
"มาเลยยยย มาาาาา...."
ราวัลล่ายังตะโกนไม่ทันจบ หินเล็กๆ ก้อนหนึ่งก็พุ่งมาที่ปากเขา ก่อนเขาจะถูกส่งไปเกิดใหม่ที่เดิม เขาจึงลุกขึ้นมาอีกรอบ ลูบหัวเองและพบว่าหัวตัวเองก็ยังเกรียนอยู่อีกรอบ จากนั้นค่อยหันไปหันมารอบทิศเพื่อหาว่าใครเป็นคนปาหินมาใส่เขาเมื่อสักครู่
ใช้เวลาเพียงไม่นานราวัลล่าก็พบว่าตัวการที่โยนหินก้อนนั้นมาใส่เขาคือผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวเหมือนเขานี่แหละ แต่ใบหน้าของเธอถูกแต่งแต้มไว้ด้วยเครื่องสำอางแบบโคตรหนา หนาเสียยิ่งกว่าแป้งโกกิที่เอาไว้ทอดไก่อีก พร้อมกับทรงผมตีกระบังสูงที่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนเชื่อว่าต้องให้เด็กนักเรียนไว้ผมสั้น ไม่งั้นผมเด็กจะบังกระดานเพื่อน
"เฮ้ คุณ..."
"เงียบนะ นายน่ะรีบกินข้าวไข่ต้มครึ่งฉีกที่เหลืออยู่นั่น แล้วเปิดใช้สกิลเกราะความดีเดี๋ยวนี้เลย"
ผู้หญิงที่ราวัลล่าก็มองไม่ออกเหมือนกันว่าเป็นหญิงสาวหรือคุณป้าพูดออกมา ก่อนเธอจะชี้ไปที่แผงของร้านข้าวไข่ต้มครึ่งซีก ซึ่งตอนนี้ไม่มีคนอยู่แล้ว และมีเพียงข้าวไข่ต้มครึ่งซีกจำนวนมากที่ถูกทิ้งไว้ ไม่ก็ข้าวคลุกไข่ต้มครึ่งซีก ซึ่งฟังจากชื่ออาจจะเหมือนข้าวกะเพราคลุก แต่ของจริงแย่กว่าเยอะ
"ฉันจะไม่กินพวกมันแน่ๆ "
"กินเดี๋ยวนี้ สลิ่ม 17384719 ไม่งั้นนายจะตายนะ"
"แล้วไง ฉันก็อยากจะตายอยู่แล้ว"
"กินเดี๋ยวนี้ สลิ่ม 17384719 การตายของที่นี่ไม่เหมือนที่นายเข้าใจ เร็วเข้าไม่งั้นฉันจะทิ้งนายไว้ที่นี่"
ได้ยินแบบนั้น ราวัลล่าที่ถึงจะไม่ชอบข้าวไข่ต้มครึ่งซีกเท่าไหร่ก็หยิบมันขึ้นมาแล้วจ้วงมันเข้าปาก ก่อนเขาจะหันไปบอกกับผู้หญิงคนนั้นว่า
"ม...ไม่มีน้ำปลา"
"ก็ยืมร้านข้าวมันไก่ข้างๆ ก่อนสิ"
"ห๋าาาา สมองเละไปแล้วเหรอเธอเนี่ย คนที่ไหนเขากินข้าวมันไก่กับน้ำปลากันฮะ"
ราวัลล่าบ่นอีกฝ่ายกลับไป ในขณะที่อีกฝ่ายลงไปนั่งสมาธิด้วยสกิล 'นั่งสมาธิแบบคนดี' แถมเธอยังเปิดสกิล 'เกราะความดี' ที่ทำให้รอบๆ ตัวเธอมีเหมือนไข่โปร่งแสงลูกหนึ่งมาครอบไว้อีกด้วย
เห็นแบบนั้น ราวัลล่าที่รู้ว่าอีกฝ่ายคงจะไม่คุยด้วยแล้ว ก็หันไปทางร้านข้าวมันไก่ที่อยู่ข้างๆ แล้วพบกับสิ่งที่ทำให้เขาถึงกับช็อก เพราะมันคือโหลใส่น้ำปลาขนาดใหญ่ เขาจึงเงยหน้าขึ้นไปมองที่ป้ายร้านอีกทีเพื่อเช็คให้ชัวร์จริงๆ ว่ามันคือร้านข้าวมันไก่
แต่ใช่ ร้านข้าวมันไก่ในดินแดนสลิ่มไม่มีน้ำจิ้ม มีแต่น้ำปลา
"ค..คนที่นี่แม่งกินกันจริงๆ ด้วยวะ"
หลังจากนั้นราวัลล่าก็กินข้าวไข่ต้มครึ่งซีกพร้อมน้ำปลาอย่างเอร็ดอร่อย จนซึ้งที่ตัวเองได้เกิดมาไป 2 กล่อง ก่อนเขาจะหันไปที่แท็งค์น้ำสำหรับให้ลูกค้ากดน้ำกินฟรี
แต่ก่อนที่ราวัลล่าจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วเพื่อกดน้ำ สายตาของเขาก็หันไปเห็นกระติกเล็กๆ ที่วางอยู่ข้างๆ พร้อมกับขวดพลาสติกใสๆ ที่ด้านในมีน้ำสีเหลืองขวดหนึ่ง
"ฮะ ฮ้า หวานสิ ได้เก็กฮวยฟรีๆ แบบนี้"
ราวัลล่าพูดออกมา ก่อนเขาจะเปิดฝาขวดน้ำเก็กฮวยออก แล้วเขวี้ยงมันลงพื้นในทันที
"เชี้ย คนที่นี่แม่งกินฉี่"
"ทำอะไรของนายอยู่เนี่ย เปิดเกราะความดี แล้วมานั่งสมาธิข้างๆ ฉันเร็วเข้า"
ได้ยินแบบนั้น สมองของราวัลล่าที่ลัดวงจรไปแล้วกับความจริงที่ว่าคนในโลกนี้กินฉี่ก็รีบวิ่งไปนั่งสมาธิพร้อมเปิดสกิลเกราะความดีตามที่เธอสั่งทันที ก่อนเขาจะถามเธอไปว่า
"บอกฉันทีว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่"
"เรากำลังรอให้พวกโคโรเรน่าผ่านพวกเราไปที่ศูนย์อพยพด้านหลัง"
"ง...งั้นเราก็ต้องกลั้นหายใจตอนพวกนั้นผ่านไปสินะ"
"ไม่ เราแค่ต้องเปิดเกราะความดีไว้ ให้สถานะของเราเท่ากับคนอื่นๆ แล้วก็นั่งสมาธิเพื่อคงสภาพมันไว้ให้นานที่สุด แค่นั้นแหละ"
พูดจบ คุณผู้หญิงสาวแสนดีก็โยนไอเท็มชิ้นหนึ่งมาให้ราวัลล่า เขาจึงเก็บมันขึ้นมาทันที
หน้ากากอนามัย
หน้ากากอนามัย : ลดอัตราการถูกพบตัวจาก มอนเตอร์เผ่า 'เชื้อโรค' และ 'ฝุ่น' ลง 20%
"สวมมันซะ"
"ขอบใจนะ"
พูดจบ ราวัลล่าก็รีบใส่เจ้าหน้ากากอนามัยทันที แต่แทนที่บนหน้าเขาจะมีหน้ากากเพิ่มขึ้นมา มันกลับมีเพียงนกหวีดอันหนึ่งเพิ่มขึ้นมาแทน ราวัลล่าจึงหันไปหาหญิงสาวแบบงงๆ และเห็นว่าอีกฝ่ายเอานกหวีดขึ้นมาคาบไว้ เขาจึงทำตามสิ่งที่เธอทำ
หลังจากนั้น เสียงจากระบบก็ดังขึ้นในหัวราวัลล่าแบบเดิมซ้ำๆ
-ปีศาจโคโรเรน่า เลเวล 99 ธาตุ พิษ เผ่า เชื้อไวรัส 'โจมตีอัตโนมัติ' -
-ปีศาจโคโรเรน่า เลเวล 99 ธาตุ พิษ เผ่า เชื้อไวรัส 'โจมตีอัตโนมัติ' -
-ปีศาจโคโรเรน่า เลเวล 99 ธาตุ พิษ เผ่า เชื้อไวรัส 'โจมตีอัตโนมัติ' -
-ปีศาจโคโรเรน่า เลเวล 99 ธาตุ พิษ เผ่า เชื้อไวรัส 'โจมตีอัตโนมัติ' -
.
.
.
หลังจากที่เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นประมาณ 50-60 ครั้งจนราวัลล่าชินด้วย ปลงด้วย กลัวก็กลัวด้วย เขาก็เอ่ยถามหญิงสาวออกไปว่า
"ธ...ธ...ธ...เธอแน่ใจนะว่าวิธีนี้ได้ผล"
"แน่ใจ นายแค่คุมสติตัวเองให้ได้ แล้วอย่าวิ่งไปไหนมาไหนมั่วก็พอ"
"ก็ได้ ว่าแต่ เราคุยกันได้ไงเนี่ย ในเมื่อเรากำลังคาบนกหวีดอยู่"
ทันทีที่ราวัลล่าพูดจบ หญิงสาวก็หันมาขมวดคิ้วใส่เขา ก่อนเธอจะตอบเขากลับมาว่า
"ก็ที่นี่มันสลิ่มแลนด์ แดนกะลา สิ่งที่เด่นที่สุดของที่นี่ ก็คือการที่มันเป็นอาณาจักรที่เต็มไปด้วย 'บัค' นี่แหละ"
โฆษณา