Snowflake ผู้ให้บริการ Cloud ชั้นนำ
ว่าด้วยเรื่อง คลาวด์ (Cloud) เราคงได้ยินและได้มีโอกาส ใช้งานเทคโนโลยีนี้กันบ้างแล้วในปัจจุบัน และเป็นเทรนที่มีการเติบโตที่สูงในอนาคต
แต่ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ คือ บริษัทชื่อว่า Snowflake เรามาทำความรู้จักบริษัทนี้ ให้มากขึ้นกันดีกว่า
Snowflake Inc. เป็นบริษัทให้บริการโซลูชั่นข้อมูลบนคลาวด์ มีสำนักงานอยู่ที่เมืองโบซแมน รัฐมอนทานา ในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 และเปิดตัวสู่สาธารณะในปี 2014
ถึงจะบอกว่าเป็นบริษัทเกี่ยวกับคลาวด์ แต่ Snowflake ไม่ได้มีคลาวด์เป็นของตนเอง
แต่มีบริการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลบนคลาวด์ โดยทั่วไปเรียกว่า
"Data-as-a-service" ช่วยให้ผู้ใช้ในองค์กรจัดเก็บและวิเคราะห์
ข้อมูลบนคลาวด์ที่มีความซับซ้อนได้ง่ายขึ้น
หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ หากบริษัทใดที่ต้องการใช้ คลาวด์จัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล แต่จัดการระบบไม่เก่ง Snowflake ยินดีจัดการให้
คุณสมบัติหลักของบริการ Snowflake ได้แก่ การแยกพื้นที่จัดเก็บและการประมวลผล การประมวลผลที่ปรับขนาดได้ขณะใช้งาน การแบ่งปันข้อมูล การโคลนข้อมูล
และการสนับสนุนเครื่องมือของบุคคลที่สาม เพื่อจัดการข้อมูลตามที่ลูกค้าร้องขอมา
โดยการดำเนินงานหลักอยู่บน Amazon Web Services ตั้งแต่ปี 2014, บน Microsoft Azure ตั้งแต่ปี 2018, บน Google Cloud Platform ตั้งแต่ปี 2019 และย่อยๆไปในที่อื่นอีกมาก
บริษัทยังได้รับการเสนอชื่อให้อยู่ในรายชื่อ Forbes Cloud 100 เป็นปีที่ห้าติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2019
การเสนอขายครั้งแรกของบริษัทระดมทุนได้ 3.4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน 2020 ซึ่งเป็นหนึ่งใน ''การเสนอขายหุ้นซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์''
Snowflake ยังเป็นตัวเลือกของ Data-as-a-service ยอดนิยม ที่มีองค์กรต่างๆ มากมายใช้บริการอยู่
- ●มีลูกค้าหลากหลายประเภท และเป็นบริษัทที่พวกเราคุ้นชื่อกันทั้งนั้น ได้แก่
- บริการทางการเงิน
Goldman Sachs, Morgan Stanley, Bank of America, Wells Fargo, Citibank เป็นต้น
- การดูแลสุขภาพ
McKesson, Cardinal Health, Humana, UnitedHealth Group, Aetna เป็นต้น
- ค้าปลีก
Walmart, Amazon, Target, Costco, Home Depot เป็นต้น
- เทคโนโลยี
Google, Microsoft, IBM, Oracle, SAP, Adobe เป็นต้น
- การศึกษา
Harvard University, Stanford University, Massachusetts Institute of Technology, University of California, Berkeley, University of Pennsylvania เป็นต้น
หรือแม้แต่กระทั่ง กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ, กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ, กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ, กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ก็ยังเป็นลูกค้าของบริษัท Snowflake
และนี้เป็นเพียงส่วนนึงจากลูกค้าทั้งหมดของบริษัท Snowflake เท่านั้น
รายชื่อ บริษัท สถาบันการศึกษา
ที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่เป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่
อยู่ใน Fortune 500 และ Forbes global 2000 กันทั้งนั้น
ซึ่งเป็นเหมือนการการันตี ถึงความน่าเชื่อถือของบริษัท
- ●เรามาขยายความสามารถของ Snowflake กันหน่อยดีกว่า ว่าดียังไง
- ความสามารถในการปรับขนาดข้อมูล
Snowflake เป็นคลังข้อมูลบนคลาวด์ ซึ่งหมายความว่าสามารถปรับขนาด เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจต่างๆ Snowflake
สามารถเพิ่มหรือลบทรัพยากร ได้อย่างง่ายดายตามต้องการ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจหลีกเลี่ยงการจัดสรร มากเกินไปและประหยัดรายจ่าย
- ประสิทธิภาพ
Snowflake ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพสูง แม้สำหรับคำสั่งที่ซับซ้อน Snowflake ใช้รูปแบบการจัดเก็บแบบคอลัมน์ ที่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพได้มากกว่า เมื่อเทียบกับการจัดเก็บ แบบเรียงตามแถวแบบดั้งเดิม
- ความคุ้มค่า
Snowflake นำเสนอรูปแบบการกำหนดราคา แบบจ่ายตามการใช้งานที่สามารถ ช่วยให้ธุรกิจประหยัดรายจ่ายได้
Snowflake คิดค่าใช้จ่ายสำหรับทรัพยากรที่ใช้เท่านั้น ซึ่งช่วยให้ธุรกิจหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินมากเกินไป สำหรับความจุที่ไม่ได้ใช้
- ใช้งานง่าย
Snowflake ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย แม้สำหรับผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับคลังข้อมูล
Snowflake มีอินเทอร์เฟซ SQL ที่ผู้ใช้ฐานข้อมูลส่วนใหญ่คุ้นเคย และยังมีเว็บ
อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อ ผู้ใช้ซึ่งทำให้ง่ายต่อการจัดการ และตรวจสอบปริมาณงาน
- การผสานรวม
Snowflake ผสานรวมกับบริการคลาวด์ยอดนิยมต่างๆ รวมถึง Amazon Web Services, Microsoft Azure, Google Cloud Platform และอื่นๆ
สิ่งนี้ทำให้ธุรกิจสามารถใช้ Snowflake กับโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย
เป็นบริษัทเทคโนโลยีแน่นอนว่า การศึกษาวิจัยก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ
ปัจจุบัน Snowflakes Inc มีสิทธิบัตรอยู่จำนวน 49 ฉบับ ที่ยื่นจดใน 4 ประเทศ ได้แก่สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ แคนาดาและอินเดีย
ซึ่งกว่าประมาณ 40% เป็นสิทธิบัตรเกี่ยวกับ การอัพเดตข้อมูลและการสืบค้นข้อมูล ตามมาด้วยสิทธิบัตรเกี่ยวกับความปลอดภัย ที่เป็นด้านที่บริษัทให้ความสำคัญ
รายได้ของ Snowflake ในปี 2022 อยู่ที่ 1.219 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพิ่มขึ้น 105.95 % จากปี 2021
- ●สิ่งที่น่าให้ความสนใจและผลการดำเนินงานที่สำคัญของปีนี้
ข้อมูล Grandview research กล่าวว่า ตลาดคลาวด์คอมพิวติ้งทั่วโลกมีมูลค่า 483.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022
และคาดว่าจะขยายตัวที่อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 14.1% ในช่วงปี 2023 ถึง 2030 ตลาดคาดว่าจะเติบโตเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ
เช่น ฟังก์ชันการทำงาน ความสามารถของคลาวด์คอมพิวติ้ง ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจในองค์กรขนาดใหญ่ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับโมเดลไฮบริดและระบบคลาวด์ Omni และโมเดลจ่ายตามการใช้งานจริง
นอกจากนี้ เนื่องจากธุรกิจจำเป็นต้องปรับปรุงกิจกรรมดิจิทัล บริการคลาวด์จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา กิจกรรมต่าง ๆ ของรัฐบาลเพื่อปกป้องความสมบูรณ์และความปลอดภัยของข้อมูล ยังเอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม
และเมื่อไม่นานมานี้ Snowflake ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการ Neeva
(บริษัทเกี่ยวกับอัลกอริทึมการค้นหา) เพื่อมาเพิ่มประสิทธิภาพของระบบของบริษัท
รายรับของบริษัทอยู่ที่ 623.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรกปีนี้ เพิ่มขึ้น 47.6% เมื่อเทียบรายปี
มีรายรับที่อยู่ในรูปแบบภาระผูกพัน ที่เหลืออยู่ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรกปีนี้ เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบรายปี
ปัจจุบันมีลูกค้าใน Forbes global 2000 ทั้งหมด 590 บริษัท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบรายปี จำนวนลูกค้าในระบบ 8,167 ราย เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบรายปี และบริษัทที่อยู่ในการดำเนินงาน จำนวน 1,894 บริษัท
Snowflake ต้องเผชิญกับการแข่งขัน จากคลังข้อมูลบนคลาวด์อื่นๆ หากคู่แข่งเหล่านี้เสนอ คุณสมบัติที่ดีกว่าหรือราคาต่ำกว่า Snowflake อาจสูญเสียส่วนแบ่งการตลาด
ตามรายงานของ Gartner ในปี 2023 Snowflake มีส่วนแบ่งการตลาด 18.73% ในตลาดคลังข้อมูล ทำให้เป็นผู้เล่นที่ใหญ่เป็นอันดับสองในตลาด รองจาก Amazon Redshift ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาด 22.16%
และแม้ Snowflake จะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง แต่ไม่มีระบบใดที่ปลอดภัย 100% ความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ ในอนาคตยังเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้
Snowflake อยู่ภายใต้ข้อบังคับต่างๆ รวมถึง General Data Protection Regulation (GDPR) และ Sarbanes-Oxley Act (SOX) หาก Snowflake ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับเหล่านี้ อาจถูกปรับหรือถูกลงโทษอื่นๆ ได้
โดยภาพรวม Snowflake Inc เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นคลังข้อมูลบนคลาวด์ บริการประกอบด้วยการปรับปรุง คลังข้อมูลให้ทันสมัย การวิเคราะห์ การแลกเปลี่ยนข้อมูลและวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ข้อมูล และอื่นๆ
บริษัทยังให้บริการแพลตฟอร์มคลาวด์แบบบูรณาการ ที่ช่วยให้องค์กรสร้างการเข้าถึงข้อมูลเครือข่ายทั้งหมดของตน ได้ทันทีและปลอดภัย
โดยสถาปัตยกรรมของบริษัทที่ สามารถรองรับปริมาณงานข้อมูลที่หลากหลาย และฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ถือเป็นจุดแข็งของบริษัท การเข้าซื้อกิจการอาจเป็นโอกาสในการเติบโต
แต่ความเสี่ยงด้านกฎหมาย การแข่งขัน ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล ยังคงเป็นสาเหตุของความกังวล และอาจขัดขวางการเติบโตของบริษัทได้
และถึง Snowflake จะไม่ใช่บริษัทขนาดน้อยอะไร แม้ผลประกอบการในไตรมาสแรกจะดูเติบโต แต่ก็ยังมีรายจ่ายในการดำเนินงาน และการลงทุนในระบบเพื่อพัฒนา ทำให้ยังเป็นบริษัทที่ยัง "ไม่มีผลกำไรเป็นบวก"
และยังมีปัจจัยเสริมด้านลบภายนอก เรื่องเพดานหนี้ เงินเฟ้อ และการเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในสหรัฐอเมริกา ที่อาจส่งผลต่อลูกค้าของบริษัท และตัวบริษัท Snowflake เอง
บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์ส่วนหนึ่งของบริษัทเท่านั้น นักลงทุนที่สนใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยละเอียด และประเมินความเสี่ยงได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน
References:
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
