สรุปหนังสือ The power of OUT PUT
ขอบอกก่อนว่าที่ตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะเคยดูวิดีโอในYoutubeที่คุณรวิศ หาญอุตสาหะได้พูดถึงหนังสือที่แนะนำ ก็มีเล่มนี้ที่น่าสนใจและอีกหลายๆครั้งคุณรวิศก็พูดถึงหนังสือเล่มนี้
ถ้าให้ย้อนกลับไปก่อนอ่านหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนจะเน้น INPUT คือชอบอ่าน ชอบฟัง มากกว่าการ OUTPUT คือการพูด การเขียน การลงมือทำ ยกตัวอย่างเช่น ตอนอ่านหนังสือเพื่อไปสอบ ผู้เขียนเลือกที่จะอ่านเยอะๆโดยที่ไม่ทำข้อสอบ ผลก็คือลืมเนื้อหาบ้าง ไม่สามารถวิเคราะห์โจทย์ได้นั่นเอง
โดยหนังสือ The power of OUTPUT ศิลปะของการปล่อยของ นี้แบ่งออกเป็น 5 Chapter ประกอบด้วย
-Rules
-Talk
-Write
-Do
-Training
ครบกระบวนการที่ช่วยให้เราสามารถถ่ายทอดสิ่งที่ได้รับมาจากการอ่าน การฟัง โดยการพูด การเขียน และการลงมือทำ
ถ้าให้กล่าวถึงวิธีที่ชอบที่สุดของแต่ละพาร์ทจากหนังสือได้แก่
พาร์ทการพูด: 06 สื่อสาร 2 เป็นวิธีที่ว่าด้วยเรื่องการเกริ่นนำ หรือการสื่อสารที่จะช่วยให้อีกฝ่ายรู้สึกดีแม้เป็นเรื่องที่ไม่ดี 1.Yes But 2.Yes And และ3.Yes How
พาร์ทการเขียน: จริงๆชอบหลายวิธีมากแต่จะขอกล่าวถึงอันที่ชอบที่สุดนั่นก็คือ
40 เขียน To Do list ซึ่งปกติผู้เขียนก็ทำอยู่แล้วในมือถือ แต่หนังสือแนะนำให้ทำในกระดาษ ซึ่งผู้เขียนก็ได้ลองทำตามแล้วรู้สึกว่าดีกว่าการทำในมือถือ เนื่องจากไม่ทำให้เราเสียเวลาในตอนที่เราเช็คลิสต์ในมือถือแล้วเผลอกดดูการแจ้งเตือน
พาร์ทการทำ: 64 จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่กล่าวถึงการไม่ Multitasking หนังสือได้เปรียบเทียบสมองกับคอมพิวเตอร์ว่า สมองมีพื้นที่จัดเก็บอยู่มากแต่ RAM ต่ำ ถ้าเราทำงานสลับไปสลับมาประสิทธิภาพการทำงานของสมองจะลดลง
เมื่อได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็ทำให้ได้เข้าใจว่าจริงๆแล้วเราควรทำ OUTPUT มากกว่า INPUT โดยมีสัดส่วนประมาณ 70:30 ถ้าจากตัวอย่างที่ได้กล่าวถึงการเตรียมตัวสอบก็จะปรับใช้โดยการทำข้อสอบให้มากขึ้น และที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้ก็คือการสรุปหนังสือที่ได้อ่านลงในเพจก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านเช่นกัน
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
