28 มิ.ย. 2023 เวลา 05:00 • สุขภาพ

ผมหาย... อยากได้คืน!

ผมร่วง ผมบาง เกิดจากอะไร❓
สาเหตุของการเกิดผมร่วง อาจเกิดจากปัจจัยเดี่ยวหรือหลายๆ ปัจจัยเหล่านี้ร่วมกัน ได้แก่
  • พันธุกรรม: การถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย มักจะพบเมื่อมีอายุมากขึ้น ทั้งในเพศชายและเพศหญิง
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและสภาวะเจ็บป่วย: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเนื่องจากตั้งครรภ์ คลอดบุตร ภาวะประจำเดือนหมด หรือภาวะที่เกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ (Thyroid problems) เป็นสาเหตุของผมร่วงถาวรและชั่วคราวได้ นอกจากนี้สภาวะเจ็บป่วย เช่น การติดเชื้อบนหนังศีรษะ (เชื้อรา แบคทีเรีย และเชื้อไวรัส) มีการอักเสบที่รบกวนการเติบโตของเส้นผม หรือเป็นโรคดึงผมที่เรียกว่า Trichotillomania ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้หนังศีรษะบางได้เช่นกัน
  • ยาและอาหารเสริม: การรับประทานยาหรืออาหารเสริมบางชนิด อาจมีอาการข้างเคียงทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้ เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง ยากดภูมิคุ้มกัน ยารักษาโรคไขข้อเสื่อม ยาลดความเครียด ยาโรคหัวใจและยาความดันบางชนิด เป็นต้น
  • การฉายรังสีที่ศีรษะ: อาจเป็นสาเหตุของการเกิดผมร่วงถาวร
  • ความเครียดสะสม: การงอกของเส้นผมคนเรานั้นอ่อนไหวและไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์และสภาวะกายใจ ความเครียดทางกายหรือทางใจ จึงอาจเป็นสาเหตุของอาการผมร่วงได้
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม: การย้อม ดัด ยืดด้วยสารเคมี หรือการจัดแต่งทรงผมที่ดึงรั้ง เช่น การมัดผมรวบตึง การถักผมเปียถาวร ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมร่วงได้
ผมร่วง วินิจฉัยได้อย่างไร❓
แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย สอบถามเกี่ยวกับประวัติการใช้ยาและประวัติการเจ็บป่วยของครอบครัว รวมทั้งอาจวินิจฉัยเพิ่มเติมได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
  • ตรวจเลือด (Blood test) เพื่อช่วยในการหาสาเหตุอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดผมร่วง
  • การดึงผม (Pull test) แพทย์จะทำการดึงผมเพื่อดูจำนวนผมที่หลุดติดมือมา
  • ตรวจชิ้นเนื้อหนังศีรษะ (Scalp biopsy) โดยนำตัวอย่างผิวหนังบริเวณที่เกิดอาการไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อหาสาเหตุของอาการผมร่วง
ผมร่วงแบบนี้ รักษาอย่างไร❓
เราสามารถจำแนกประเภทของผมร่วงเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 2 กลุ่ม คือ
  • 1.
    ผมร่วงแบบมีแผลเป็นบนหนังศีรษะ (Scarring or cicatricial alopecias) ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคฝีหนองบนศีรษะ เชื้อกลากที่ศีรษะชนิดที่มีการอักเสบรุนแรง แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ทำให้รากผมถูกทำลายอย่างมากจนไม่สามารถสร้างเส้นผมใหม่มาทดแทนเส้นผมเดิม และเกิดพังผืดในชั้นหนังแท้ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง
  • 2.
    ผมร่วงแบบไม่มีแผลเป็นบนหนังศีรษะ (Non-scarring or Non-cicatricial alopecias) พบได้บ่อยกว่ากลุ่มแรก โดยแบ่งประเภท ดังนี้
🔸 Alopecia areata
  • ไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน มีผมร่วงเป็นหย่อมๆ ขอบเขตชัดเจน อาจจะมีผมเหลืออยู่เป็นตอสั้นๆส่วนใหญ่เป็นที่ศีรษะ
  • อาจใช้ยา Topical steroid ชนิดแรง ทาเช้า-เย็น หรือฉีดยา Steroid ตรงบริเวณที่เป็น แต่เมื่อหยุดยาผมก็จะกลับมาร่วงอีก
🔸 Anagen effluvium
  • ผมร่วงทั่วศีรษะเป็นเวลาหลายวันจนถึงสัปดาห์ติดต่อกัน หลังจากได้รับยาเคมีบำบัด
  • ผมจะขึ้นเมื่อหยุดสาเหตุที่ทำให้เกิดผมร่วง อาจใช้ยา Minoxidil ช่วยได้
🔸 Androgenetic alopecia (ผมบางแบบพันธุกรรม)
  • มีประวัติครอบครัวที่มีอาการผมร่วง
  • ในผู้ชาย มักพบบริเวณแนวชายผมด้านหน้าจะค่อยๆ ถอยร่นขึ้นไป โดยเฉพาะที่ขมับทั้ง 2 ข้าง จะเห็นเหมือนรูป M
  • ในผู้หญิง มักพบผมบางบริเวณด้านบนของศีรษะ
  • อาจใช้ยา Minoxidil ทาที่หนังศีรษะ
🔸 Telogen effluvium (ภาวะผมร่วงระยะ Telogen)
  • กระจุกผมร่วงเวลาสระผมหรือหวีผม มีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางกายภาพ เช่น ผมร่วงในหญิงหลังคลอด และความเครียด
  • กำจัดสาเหตุทำให้เกิดผมร่วง ปกติจะหายเป็นปกติเองภายใน 2-6 เดือน
🔸 Tinea capitis (ผมร่วงจากเชื้อรา)
  • ผมจะร่วงเปนกระจุก ผิวหนังในบริเวณที่ผมร่วงจะมีขุยหรือสะเก็ด
  • ควรได้รับการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อราแบบรับประทาน ได้แก่ Terbinafine, Itraconazole, Fluconazole หรือ Griseofulvin
🔸 Trichorrhexis nodosa (ผมร่วงจากผมเปราะ)
  • เส้นผมแตกหักจากการบาดเจ็บหรือบอบบาง ซึ่งการบาดเจ็บอาจเกิดจากการหวีผมแรงเกินไป จัดแต่งทรงผมที่ดึงรั้ง ได้แก่ การมัดผมรวบตึง การถักผมเปียถาวร กำจัดสาเหตุที่ทำให้ผมร่วง
🔸 Trichotillomania (ผมร่วงจากการดึงผม)
  • ผู้ป่วยชอบถอนผมตัวเอง อาจจะพบรอยแกะเกาเป็นสะเก็ดที่หนังศีรษะ เส้นผมที่เหลืออยู่มีความยาวต่างๆ กัน ในรายที่ถอนผมอยู่เป็นปีๆ อาจจะกลายเป็น Scarring alopecia ได้
  • หยุดการดึงผม หรือในรายที่เป็นมากอาจต้องปรึกษาจิตแพทย์
ผมร่วงป้องกันได้⁉
ท่านสามารถป้องกันการเกิดผมร่วงได้ โดยปฏิบัติดังนี้
  • ควรสระผมหรือหวีผมอย่างเบามือ
  • หลีกเลี่ยงการจัดแต่งทรงผมที่ดึงรั้ง ได้แก่ การมัดผมรวบตึง การถักผมเปียถาวร รวมถึงหลีกเลี่ยงการม้วนบิดผม ดึงผมเล่น
  • หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ดัดผม ม้วนผม หรือยืดผม การใช้น้ำมันทำทรีทเมนต์ผม และการย้อมผม ดัดผม หรือยืดผมด้วยสารเคมี
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยารักษาโรคที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดผมร่วง
  • หยุดสูบบุหรี่ เนื่องจากการสูบบุหรี่มีความสัมพันธ์กับการเกิดศีรษะล้านในผู้ชายได้
อย่างไรก็ตาม หากท่านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้วยังเกิดปัญหาเช่นเดิมหรืออาการผมร่วง/ผมบางไม่ดีขึ้น แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้หาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา