11 มิ.ย. 2023 เวลา 00:01 • ไลฟ์สไตล์

7 วิตามินข้ามผ่านความเครียดฉบับชาวออฟฟิศ

เราเป็นพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งที่มักจะพบเจอกับเรื่องเครียดๆจากงาน ไม่ว่าจะมาจากเนื้องาน ผู้คนหรือแม้แต่จากปัจจัยอื่นๆ ก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราจะวนอยู่กับเรื่องราวความเครียดจากปัญหางานซ้ำๆแบบนี้บ่อยมากๆ แต่ก็พอเข้าใจว่า ไม่ว่าจะงานอะไรก็ตาม เราก็ต้องเผชิญกับปัญหาที่เป็นต้นเหตุของความเครียดเสมอ
ในเมื่อเรารู้แล้วว่าการมีภาวะความเครียดจากปัญหางานในแต่ละวันเป็นเรื่องที่หลีกหนีไม่ได้ ทั้งๆที่พยายามสะกดจิตตัวเองว่าเดี๋ยวปัญหาก็ผ่านไป แต่ความกังวลและความเครียดก็ไม่เคยได้หายไปอย่างที่ใจสั่ง ดังนั้นเราจะมัวจมอยู่กับความเครียดเหล่านั้นทำมั้ย เลยต้องหันมาเติม 7 สิ่งที่กำลังจะพูดถึงนี้เพื่อเป็นวิตามินบำรุงจิตใจ พอเราได้ลองทำเรื่อยๆแล้วรู้สึกว่าความเครียดและความกังวลที่เคยมีลดลงได้เยอะเลยค่ะ แถมนอกเวลางาน เราก็ไม่ค่อยเอาความเครียดกลับบ้านมาด้วย
7 วิตามินบำรุงจิตใจสำหรับชาวออฟฟิศ
1.การลดโซเชียล
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันโซเชียลได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว มีช่วงหนึ่งที่เราค่อนข้างติดโซเชียลมาก ทำให้เราเสียเวลาไปกับการไถโซเชียลไปเรื่อยๆ ซึ่งสาเหตุนี้เป็นเพราะการจัดการของตัวเองมากกว่า ที่ควบคุมการใช้เวลาได้ไม่ดี พอหันมามองนาฬิกาอีกที เวลาก็หมดไปแล้ว แทนที่จะใช้เวลาเพื่อพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่เก่งขึ้น เช่น การอ่านหนังสือ ลงคอสเรียน หรืออื่นๆ ที่ตอบสนอง เป้าหมายในการทำงานของตัวเองได้ แรกๆเราพยายามลดการเล่นโซเชียล
แต่ก็เผลอกลับไปหมดเวลากับมันบ่อยๆ จนกลายเป็นนิสัยที่ชอบไถโซเชียลอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้เราเลยหันมาจัดลำดับความสำคัญของโซเชียลใหม่ว่าอันใหนจำเป็น อันใหนไม่จำเป็น หากไม่จำเป็นเราจะลบออก ส่วนอันไหนที่จำเป็น แล้วต้องเข้าไปเช็คบ้าง เราจะจัดให้อยู่ในโซนที่ไม่ไวต่อสายตาเรา เพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอเข้าไปบ่อย
2.การปรับเวลานอน
เวลานอนถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็เป็นเรื่องที่ถูกมองข้ามเสมอ เพราะช่วงเวลาที่ควรนอนบางส่วน เรามักใช้มันไปกับสิ่งที่ตัวเองชอบมากเกินไป เช่น การดูซีรีย์ดึกๆ บางครั้งเกือบเช้าเลยทีเดียว เชื่อมั้ยว่าถ้าได้ลองปรับเวลานอนให้เร็วขึ้น เพื่อตื่นให้เช้าขึ้น นอกจากจะทำให้เราได้นอนครบตามเวลาที่กำหนด เราจะสดชื่นในทุกๆเช้า และมีเวลาช่วงเช้าเพื่อทำกิจกรรมอื่นๆมากขึ้น ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ หรือแม้แต่นั่งสมาธิ
3.การนั่งสมาธิ
ถ้าให้พูดถึงการทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ จะหนีไม่พ้นคำว่า เราต้องมีสติและสมาธิ เราเป็นชาวพุทธที่ถูกปลูกฝังเรื่องการนั่งสมาธิมาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อไหร่ที่เรามีสมาธิ เราจะมีความสงบในใจเพื่อจัดการกับความเครียดที่คอยสะสมในแต่ละวันได้ดีมากขึ้น ลองเพิ่มกิจวัตรประจำวันช่วงเช้า โดยนั่งสมาธิวันละ 5 - 10 นาที ค่อยๆเริ่ม จากเวลาน้อยๆ จนกลายเป็นสิ่งที่ต้องทำทุกวัน เชื่อมั้ยว่าความเงียบสงบของจิตใจ จะทำให้เราผ่อนคลายและอาจมีไอเดียใหม่ๆเกิดขึ้นก็เป็นได้
4.การอ่านหนังสือ
การอ่านถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาความคิด ดังนั้นนอกจากจะสามารถผ่อนคลายจากการอ่านหนังสือในหมวดที่เราชอบเช่น นวนิยายหรือหนังสือการ์ตูนแล้ว เรายังได้ไอเดียแนวคิดอีกมากมายจากการอ่านได้ไม่น้อย ส่วนตัวเราเป็นคนชอบอ่านหนังสือหมวดนวนิยาย ตอนนี้เริ่มหันมาอ่านหมวดพัฒนาตัวเอง พอเราได้สัมผัสแนวคิดต่างๆ ทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น รู้จักการจัดการด้านแย่ๆของตัวเองมากขึ้น
5.การฟังพอตแคส
การฟังถือเป็นทักษะแรกที่คนเราได้เรียนรู้ ดังนั้นการเลือกฟังสิ่งที่ดีๆก็ถือว่าเป็นอีกกิจวัตรที่ควรหยิบยกขึ้นมาทำให้เป็นนิสัย เราชอบฟังพอตแคสแนวพัฒนาตัวเองในทุกๆเช้า ทุกวันนี้เราฟังพอตแคสที่หลากหลายขึ้น เพื่อปรับปรุงแนวคิดของตัวเองทั้งในเรื่องการใช้ชีวิต การเงินและการทำงาน พอได้ฟังสิ่งดีๆในทุกๆเช้า ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีเลยทีเดียว
6.การวางแผนการทำงาน
ในหนึ่งวันทำงาน เราควรมีการวางแผนงานไว้ล่วงหน้าค่ะ จะช่วยลดปัญหาเรื่องงานเราได้มากขึ้นเลยทีเดียว อาจจะเริ่มจากการสำรวจงานที่รับผิดชอบออกมาเป็นข้อๆ ว่ามีอะไรบ้าง แล้วแยกว่างานไหนเป็นงานที่ต้องทำให้เสร็จวันต่อวัน และงานที่ไม่ต้องเสร็จในวันนั้น แต่ต้องเสร็จภายในระยะเวลาที่ถูกกำหนด อันนี้เป็นการวางแผนงานทั่วๆไปของเราค่ะ ถ้ามีงานเร่งงานด่วน งานแทรกก็อาจจะต้องปรับแผนกันอีกที
7.การออกเดินทาง
ถ้าหากเป็นไปได้การออกเดินทางเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศถือว่าเป็นการฮีลความรู้สึกหลายๆด้านให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นการออกไปเที่ยว สามวันสองคืน เพียงได้ออกไปนั่งกินข้าว อ่านหนังสือ หรือไปยืนเลือกหนังสือที่ร้านหนังสือ ก็เป็นการพักผ่อน คลายเครียด เชิงท่องเที่ยวได้แล้วค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะชาวออฟฟิศ เรามีความเชื่ออย่างหนึ่งกับการทำงานค่ะว่า ในทุกๆงานเราจะต้องพบเจอกับความเครียดจากปัญหาที่เข้ามามากมาย แต่สิ่งที่จะมาเยียวยาได้ คือการรู้จักตัวเอง คอยปรับทัศนคติตัวเองเรื่อยๆ หาแนวคิดที่พอดีกับตัวเองให้เจอ มีเวลานั่งมองมาที่ตัวเอง นั่งวิเคราะห์ตัวเอง จะทำให้ทุกปัญหาผ่านไปได้เสมอค่ะ และทุกการผ่านไปได้ เราจะกลายเป็นคนที่เก่งขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
โฆษณา