วิวัฒนาการ "มันฮวา" ของเกาหลีใต้
มันฮวาเป็นคำที่ใช้เรียก "การ์ตูนหรือนิยายภาพ" เหมือนกับมังงะของญี่ปุ่นหรือมันฮัวของจีน เป็นที่นิยมใช้ในเกาหลีในช่วงปี 1920
มันฮวาได้รับแรงบันดาลใจ จากรูปแบบศิลปะดั้งเดิมของเกาหลี เช่น ภาพวาดพื้นบ้านและภาพประกอบต่างๆ
ในช่วงแรก มันมักถูกนำไปใช้ในการ์ตูนเกี่ยวกับการเมืองและสังคมก็ถูกละทิ้ง
เมื่อเวลาผ่านไป ได้พัฒนารูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ โดยผสมผสานองค์ประกอบดั้งเดิมเข้ากับอิทธิพลสมัยใหม่
ช่วงสงครามเกาหลีในปี 1950 ถึง 1960 มันฮวา ถูกนำมาใช้โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมขวัญกำลังใจของประชาชน และเริ่มสร้างรูปแบบและเนื้อหาที่หลากหลายมากขึ้น
ต่อมาในปี 2000 มันฮวา เริ่มนำมาใช้ในการ์ตูนหลากหลายประเภท อย่างเช่น แอ็คชั่น โรแมนติก แฟนตาซี ตลก สยองขวัญ และเริ่มเผยแพร่เป็นวงกว้างมากขึ้น มักนิยมอ่านกัน "จากซ้ายไปขวา"
หนึ่งในวัฒนธรรมหลักในมันฮวา คือรูปแบบการ "เลื่อนแนวตั้ง" ซึ่งทำให้ได้รับประสบการณ์การอ่านที่ราบรื่น แทนที่จะพลิกหน้า
ผู้อ่านสามารถเลื่อนในแนวตั้ง เพื่อสำรวจแผงเรื่องราว ซึ่งช่วยให้สไตล์การเล่าเรื่องดูสมจริงยิ่งขึ้น
มันฮวาได้รับแรงผลักดันในเกาหลีใต้ด้วยการเกิดขึ้นของการ์ตูนดิจิทัล และการเปิดตัวพอร์ทัลอย่าง "Daum และ Naver"
ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับศิลปิน และนักเขียนในการเผยแพร่ผลงานทางออนไลน์
แพลตฟอร์มเหล่านี้มอบโอกาสพิเศษสำหรับนักสร้างสรรค์ ที่ต้องการแสดงความสามารถ
และเข้าถึงผู้ชมในวงกว้าง ที่เกินกว่าข้อจำกัดของสื่อสิ่งพิมพ์
การนำสมาร์ทโฟนมาใช้อย่างแพร่หลายในช่วงปลายปี 2000 และต้นปี 2010 เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโตของมันฮวา
แอปอ่านมันฮวาของเกาหลี โดยเฉพาะ เช่น LINE Webtoon และ KakaoPage เป็นแพลตฟอร์มที่สะดวกสำหรับผู้อ่านในการเข้าถึง และเพลิดเพลินกับเนื้อหามันฮวาบนอุปกรณ์พกพา
มันฮวามีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของ COVID-19 การอยู่ที่บ้าน การเว้นระยะห่างทางสังคม และการทำงานจากที่บ้าน ควบคู่ไปกับการปิดเมืองชั่วคราว
ทำให้มีการติดตั้งแอปการ์ตูนดิจิทัลในประเทศเกาหลีมากขึ้น เนื่องจากผู้คนมีเวลาเหลือเฟือ ที่จะใช้จ่ายในด้านที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิง
เมื่อไม่นานมานี้ ในเกาหลีใต้ยังมีการใช้นักร้องเคป๊อป ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เนื่องจากมีผู้ติดตามอย่างกว้างขวาง เพื่อเพิ่มยอดขายในต่างประเทศ และสร้างสถานะที่แข็งแกร่งขึ้นในตลาดใหม่ๆ
อย่างเช่น ในปี 2019 LICO บริษัทในเครือด้านเนื้อหาดิจิทัลของ Naver Webtoon และ Big Hit Entertainment ร่วมกันผลิตมันฮวาที่ชื่อเดียวกันกับมิวสิควีดีโอของวง BTS อย่าง "Save me"
ประกอบด้วย 15 ตอนและ 1 บทนำ มันฮวาชุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของ BTS Universe ของวง BTS
บอกเล่าเรื่องราวของ Kim Seok jin ผู้ซึ่งติดอยู่ในห้วงเวลา ที่ต้องใช้ชีวิตซ้ำๆ
โครงเรื่องคล้ายคลึงกับภาพที่แสดง ในมิวสิควิดีโอ Save me ของวง BTS
Save me ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีผู้อ่านมากที่สุดด้วยจำนวนการดูมากกว่า 10 ล้านครั้ง ในสัปดาห์แรกที่เปิดตัว มีให้บริการใน เกาหลี ญี่ปุ่น จีน และประเทศอื่นๆ
และได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ มากกว่า 10 ภาษา ได้รับการยกย่องจากรูปแบบศิลปะ โครงเรื่องที่น่าสงสัย และการสำรวจธีมเรื่องที่ซับซ้อน
กลายเป็นกระแสเกาหลีฟีเวอร์ หรือที่เรียกกันในภาษาเกาหลีว่า "ฮันรยู" จากกลุ่มผู้อ่านและแฟนคลับของวง
มันฮวาไม่เพียงมีอิทธิพลต่อวงการการ์ตูนเท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่รูปแบบสื่ออื่นๆ อีกด้วย การดัดแปลงการ์ตูนมันฮวาที่ประสบความสำเร็จ
ได้ถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และซีรีส์แอนิเมชั่น ช่วยเพิ่มการมองเห็นและความน่าติดตาม
เช่นเดียวกับรายการทีวี มันฮวายังให้ความรู้ด้านวัฒนธรรมและวิถีชีวิตผ่านความบันเทิง กลายเป็นหนึ่งในสื่อที่สำคัญในการเผยแพร่วัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ของประเทศเกาหลี
ประเทศเกาหลีมีมันฮวาที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกมากมาย เช่น Solo Leveling, Tower Of God, Sweet Home, True Beauty, Lookism เป็นต้น
ปัจจุบันขนาดอุตสาหกรรมการ์ตูนดิจิทัล ของเกาหลีใต้มีมูลค่าประมาณ 44,954 ล้านบาท ในปี 2022
อุตสาหกรรมการ์ตูนดิจิทัลของเกาหลีใต้คาดว่าจะเติบโตที่ CAGR 18.2%
ระหว่างปี 2023 ถึง 2028 และมีมูลค่าถึง 117,572 ล้านบาท ภายในปี 2028
โดยผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมการ์ตูนดิจิทัลของเกาหลี ได้แก่
- Naver Webtoon Limited
- Kakao Entertainment Corp.
- Toptoon Co., Ltd.
- Lezhin Entertainment, LLC.
- Tappytoon/Contents First, Inc.
- Toomics Global Co., Ltd
- Toryworks Co.,Ltd.
อย่างไรก็ดี มันฮวายังคงพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในฐานะรูปแบบการเล่าเรื่องที่มีเอกลักษณ์และมีอิทธิพล
ด้วยแนวที่หลากหลาย สไตล์ศิลปะที่โดดเด่น และการเล่าเรื่องที่ดึงดูดใจ มันฮวาจึงมอบประสบการณ์การอ่านที่เข้มข้นและดื่มด่ำให้กับแฟนๆ ทั้งในเกาหลีและทั่วโลก
References:
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
