น้ำตาลน่ากลัวจริงหรอ?
ขอท้าวความเรื่อง Mitrocondria : ไมโตรคอนเดรียก่อน
มีหน้าที่เสมือนโรงงานผลิตพลังงานให้กับเซลล์ให้ร่างกาย Adenosine thyphospate (ATP)
ให้ร่างกายทำงานตามฟังก์ชั่นได้ปกติ โดยที่น้ำตาลและออกซิเจนเป็นส่วนประกอบในการผลิตพลังงานให้เซลล์ ซึ่งออกซิเจนที่เราได้มา มันก็คล้ายๆกับกระบวนการ Photosynthesis (โฟโตซินเทซิส) ที่มาจากพืชนี่แหละ ซึ่งคือออกซิเจนที่เราหายใจเข้าไป มันคือผลพวงจากการผลิตพลังงานที่มาจากพืช หรือที่เราเรียกว่าสังเคราะห์แสงนั่นเอง
เอาหละ เรามาดูเรื่องน้ำตาลกัน....
⭐ โปรตีนหรือกรดอะมิโนก็สามารถเปลี่ยนเป็นกลูโคสด้วยด้วยวิธี Gluconeogenesis ในตับ
⭐ ในส่วน fatty acid ก็สามารถเปลี่ยนเป็น acetyl CoA เข้าสู่กระบวนการ Kreb cycle และสารตัวกลางอย่างชนิดก็เข้าสู่ Gluconeogenesis ในตับได้เช่นกัน
⭐ Glycerols ก็เข้าสู่ Gluconeogenesis ได้กลูโคสเช่นกัน
ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่าการไม่รับน้ำตาลทางตรง...ร่างกายก็สามารถแปลงค่าสารอาหารมาเป็นน้ำตาลกลูโคสได้อยู่ดี ซึ่งต่อให้เราตัดน้ำตาลยังไง ร่างกายก็ผลิตน้ำตาลเพื่อให้เป็นพลังงานหลักให้ร่างกายอยู่ดีครับ
ปัจจุบันการรับน้ำตาลมีทั้งสองแง่ คือดีและไม่ดี
ในส่วนที่ดีก็จะเป็นกลุ่มคนออกกำลังกาย ที่มีการจัดสรรพลังงานได้ดี มีกิจกรรมเคลื่อนไหวในแต่ละวัน มองว่าน้ำตาลคือ "Performance" ในการฝึกและออกกำลัง
และในแง่ที่ไม่ดี ในมุมมองของแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยเบาหวานหรือคนที่มีภาวะนน.ตัวเกินมาตรฐานก็จะมองว่าน้ำตาล : อันตราย นั่นเพราะว่าการจัดการพลังงานในร่างกายของคนๆนั้นต่ำเกินไป
ผมเองก็ไม่ได้บอกว่าต้องตัดน้ำตาลเท่านั้น หรือต้องรับเท่านั้น มันอยู่ที่ดุลพินิจและเป้าหมายและการใช้ชีวิต รวมไปถึงปัญหาทางสุขภาพของคุณครับ เพียงแต่ว่าผมเองก็ยังไม่เห็นทางว่าการทำอะไรสุดโต่งทางใดทางหนึ่งเป็นระยะเวลานานๆแล้วเราจะมีทั้งสุขภาพกายและจิตที่เป็นสุข เพราะอย่าลืมว่า เราเป็นมนุษย์และยังต้องมีอะไรหลายๆอย่างในชีวิตที่เราต้องเมนเนจอีกเยอะ
และขอทิ้งท้าย
"การที่คุณมีปัญหา ไม่ใช่เพราะน้ำตาลแย่ แค่คุณบริหารไม่ถูกเฉยๆ" ครับ :)
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
