Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
A WAY OF LIFE : ทางผ่าน
•
ติดตาม
25 มิ.ย. 2023 เวลา 07:58 • ไลฟ์สไตล์
“อย่ามัวแต่หลงโลกอยู่”
“ … โลกมันเปลี่ยน เราห้ามมันไม่ได้
ยังจำเป็นต้องอยู่กับมันก็อยู่ไปก่อน
แล้วตั้งใจเราจะไม่หลงโลก
เราจะตามครูของเราไปให้ได้
2
คือตามพระพุทธเจ้าไปให้ได้ ตอนที่ท่านตรัสรู้ ท่านก็เข้าถึงพระนิพพานชนิดที่ 1
นิพพานมี 2 อย่าง
นิพพานอันหนึ่ง เป็นนิพพานที่ยังมีขันธ์ 5 เหลืออยู่ เรียกสอุปทิเสสนิพพาน
วันที่ตรัสรู้ ท่านเข้าถึงพระนิพพานชนิดที่ 1
1
แล้วท่านก็อยู่ไป 45 ปี แล้วถึงวาระธาตุขันธ์แตกดับ ท่านก็เข้าถึงนิพพานชนิดที่ 2 ชื่ออนุปาทิเสสนิพพาน นิพพานที่ไม่มีเศษของขันธ์เหลืออยู่
เราภาวนาเราก็จะเดินตามท่านไป ตั้งใจไว้
เราจะต้องไปถึงพระนิพพานให้ได้
ถ้าชาตินี้ยังไปไม่ได้ ก็ชาติต่อๆ ไปก็ต้องไปให้ได้
ขอเพียงแต่เริ่มต้นให้ดีเท่านั้น
ถ้าเราเริ่มต้นได้ดี คือเริ่มต้นถูก รู้วิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง
แล้วเราขยันปฏิบัติ เรียกว่าเราเริ่มเดินในเส้นทางที่ดีแล้ว
คือเส้นทางของทางสายกลาง
อย่ามัวแต่หลงโลกอยู่
ถ้าจิตเราเดินเข้าสู่ทางสายกลาง
จิตใจเราก็มีแนวโน้มที่จะไปถึงพระนิพพาน
ทางสายกลางก็คืออย่าไปหลง
พระพุทธเจ้าท่านสอนบอก “ไม่ติดฝั่งซ้าย ไม่ติดฝั่งขวา” คือไม่ติดธรรมะที่เป็นคู่ๆ สิ่งที่เป็นคู่ๆ อย่างกามสุขัลลิกานุโยค อันนี้เราตามใจกิเลส สิ่งที่เป็นคู่กับมันคืออัตตกิลมถานุโยค การบังคับกดข่มกายใจของเราให้ลำบาก
ถ้าเราไม่ไปสุดโต่งอยู่ 2 ฝั่ง
เท่ากับเราเริ่มเดินเข้าสู่ทางสายกลาง
เมื่อเดินเข้าสู่ทางสายกลาง เราก็ระมัดระวัง
สังเกตไปอะไรจะเป็นอุปสรรค ขัดขวางการเดินทางของเรา
2
เราถูกมนุษย์จับไว้ไหม
ถูกมนุษย์จับไว้ คือเราเป็นห่วงคนโน้น ห่วงคนนี้ พะรุงพะรัง
ถ้ายังห่วงคนโน้น ห่วงคนนี้อยู่ ไปนิพพานไม่ไหว
หรือถูกอมนุษย์จับไว้
อย่างเราภาวนาแล้ว เราก็ชอบเล่นอิทธิปาฏิหาริย์
ส่งจิตไปดูผี ดูเทวดา ดูพรหม วุ่นวายอยู่กับสิ่งเหล่านี้
เรียกว่าถูกอมนุษย์จับไว้
2
ภาวนาก็หวังจะได้ไปเป็นเทวดา
หรือภาวนาหวังว่าจะได้ฌานสมาบัติ แล้วไปเกิดเป็นพรหม
นี่พวกถูกอมนุษย์จับไว้
1
หรือเลี้ยงหมา เลี้ยงแมว ติดหมา ติดแมว
นี่ก็ถูกอมนุษย์จับไว้เหมือนกัน
1
เราสำรวจตัวเองไป อะไรที่จะทำให้เราไปสู่พระนิพพานไม่ได้
เราเดินในทางสายกลางไหม
ถ้าเดินอยู่ในทางสายกลางแล้ว เราไปติดไปข้องอะไรหรือเปล่า
บางคนภาวนาแล้วก็เกยตื้น
เกยตื้นคือไปติดอยู่ในสภาวะอันใดอันหนึ่ง ในภพอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไปค้างนิ่งๆ อยู่
อย่างเมื่อเช้าหลวงพ่อบอกว่าเหมือนจระเข้ ภาวนาแล้วก็ไปค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ อย่างนั้นก็เกยตื้นอยู่ตรงนั้น พัฒนาต่อไม่ได้
หรือเราปฏิบัติ แล้วเราก็ไปไหนไม่รอด ติดอยู่ที่เดิม อย่างนี้เรียกว่าเราเกยตื้น
แต่ก่อนมีครูบาอาจารย์องค์หนึ่ง หลวงพ่อเคยไปกราบ คือหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ อยู่วัดธาตุมหาชัย เป็นลูกศิษย์หลวงปู่เสาร์
ตอนนั้นหลวงพ่อชอบสมาธิ ทำสมาธิไปเรื่อยๆ รู้สึกสบาย เข้าไปกราบท่าน ท่านก็บอก “คนเราจะเดินทางไกล จะไปหาที่ร่มเย็นเป็นสุข อยู่จากที่ร้อนๆ ที่อัตคัดขาดแคลน เดินทางจะไปหาที่สงบสุข ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ระหว่างเดินทาง ก็ไปเจอต้นไม้ใหญ่ร่มเย็น ก็เลยหยุดอยู่ที่นั่นเลย ไม่ไปไหนเลย”
ฉะนั้นอย่างถ้าเราภาวนา เราได้คุณงามความดีอะไรขึ้นมา เช่น เรารู้จักฝึกให้จิตสงบ หรือเราบรรลุโสดาบัน แล้วเราก็ยินดีพอใจ ติดอยู่แค่นั้น ไม่ยอมเดินต่อ อันนี้มีไม่ใช่ไม่มี
พอเป็นพระโสดาบันแล้ว ยังอยากเกิดอีกสัก 7 ชาติ เอาให้นานที่สุด คล้ายๆ ไหนๆ จะเกิดแล้ว ขอเกิดให้มันเยอะๆ เลย ยังติดอกติดใจอยู่ อันนี้ก็เนิ่นช้า
ฉะนั้นสำรวจตัวเอง เราไปเกยตื้นอยู่ที่ไหนหรือเปล่า
เราเน่าในหรือเปล่า
เน่าในก็คือเสียศีลของเราไหม ถ้าศีลเราเสีย เรียกว่าเน่าใน
เหมือนต้นไม้ ท่อนไม้ ลอยในแม่น้ำจะไปสู่ทะเล
แต่ว่ามันไปไม่ถึงทะเล มันเน่าเสียก่อน ผุพังไปเสียก่อน
นี้เราภาวนา บางคนก็เน่ากลางทาง
ภาวนาแล้วก็เสียศีล ผิดศีล ผิดธรรมอะไรขึ้นมา
อันนี้ก็ไปไม่รอดเหมือนกัน
บางคนก็โดน ท่านบอกโดนเกลียวน้ำวน โดนดูดเอาไว้ ไปไหนไม่ได้ วนอยู่ตรงนั้น เกลียวน้ำวนก็คือกาม เราอยากนิพพาน แต่เราติดในความสุขความสบายทั้งหลาย ก็ติดอยู่อย่างนั้น ไปไม่รอด ไปไม่ถึงพระนิพพาน
ฉะนั้นเราคอยสำรวจตัวเอง อันแรกเลย
เราพ้นจากความสุดโต่ง 2 ด้านหรือยัง
ด้านตามใจกิเลส เผลอเพลินไปวันๆ หนึ่ง
กับด้านที่บังคับเพ่งจ้องกาย บังคับเพ่งจ้องจิตใจอยู่
เราพ้นจาก 2 สิ่งนี้ไหม
ถ้าพ้นจาก 2 สิ่งก็เรียกว่า เราเริ่มเดินเข้าสู่ทางสายกลาง
เดินไปก็สำรวจไป มีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้น ที่จะทำให้เราไปไม่ถึงพระนิพพานเสียที
สำรวจจุดบกพร่องต่างๆ
เราถูกมนุษย์จับไว้ไหม หรือถูกอมนุษย์จับไว้
เราถูกเกลียวน้ำวนดูดเอาไว้ หรือเราไปเกยตื้นอย่างนี้
หรือเราเน่าใน สำรวจตัวเองไป
ถ้าเราปฏิบัติถูกทาง อยู่ในทางสายกลาง
แล้วเราก็ไม่ไปมีอุปสรรคกลางทาง
วันหนึ่งเราก็ต้องถึงพระนิพพานแน่นอน
ธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้น
ฉะนั้นสิ่งที่ขวางเรา ไม่ให้ไปพระนิพพาน
ไม่ใช่ใครอื่น คือใจที่อ่อนแอของเราเอง
ถ้าเราไม่รู้ทาง เราไปไม่ได้
ถ้ารู้ทางแล้วอ่อนแอก็ไม่ยอมไป ใช้ไม่ได้ …”
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
3 มิถุนายน 2566 (ช่วงบ่าย)
อ่านธรรมบรรยายฉบับเต็มได้ที่ :
https://www.dhamma.com/the-way/
เยี่ยมชม
dhamma.com
เดินให้ถูกทาง
ถ้าเราปฏิบัติถูกทาง อยู่ในทางสายกลาง แล้วเราก็ไม่ไปมีอุปสรรคกลางทาง วันหนึ่งเราก็ต้องถึงพระนิพพานแน่นอน ธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้น
Photo by : Unsplash
8 บันทึก
25
7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
อ่านธรรม : อ่านใจ
8
25
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย