26 มิ.ย. 2023 เวลา 08:51 • หนังสือ

Love to read : นิสัยรักการอ่าน หนึ่งในนิสัยที่คุ้มค่าแก่การฝึกฝนมากที่สุด

ถ้ากล่าวถึงชีวิตส่วนตัวของผมเอง หนึ่งในนิสัยอย่างหนึ่งที่ผมมีมาจนถึงปัจจุบันคือ "นิสัยรักการอ่าน" ครับ
ไม่ใช่ว่าอ่านทุกอย่างจนไม่ทำอะไรเลย แต่การอ่านเป็นสิ่งตัวผมเองสามารถทำได้โดยไม่ได้รู้สึกฝืนตัวเอง และถ้ามีเวลาว่างก็มักหยิบหนังสือที่ตัวเองซื้อมาดองไว้ขึ้นมาอ่าน ไม่ก็อ่านเล่มเดิมซ้ำๆ หรืออ่านบทความที่มีเขียนไว้จากที่ตัวเองได้แชร์เก็บหรือขึ้นมาหน้าฟีด Social Media ต่างๆ
ต้องขอเกริ่นอดีตก่อนครับว่าในสมัยก่อนผมชอบที่จะอ่านหนังสือการ์ตูนมากๆ เป็นแนวหนังสือการ์ตูนแปลจากเกาหลี (เช่น ครอบครัวตึ๋งหนืด วิทยาศาสตร์ฉลาดรู้) ทำให้ในสมัยก่อนนั้นถ้าเทียบกับรุ่นๆเดียวกันผมจะไม่ได้เล่นเกมเท่าไหร่ เพราะอ่านแต่การ์ตูนอย่างเดียวเลย
ปล. แม้ตอนเด็กผมจะไม่ค่อยได้เล่นเกม แต่ผมชอบซื้อหนังสือสรุปเกมมาอ่านมาก สนุกดีครับ5555555
มีช่วงหนึ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ได้สมัครสมาชิกนิตยสารรายสัปดาห์ (หรือรายเดือนอันนี้ผมก็จำไม่ค่อยได้แล้ว55555) ซึ่งเป็นแนวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ตอนวัยประถมผมชอบอ่านมากๆครับ อ่านซ้ำไปซ้ำมาเพราะเนื้อหาน่าสนใจ และอ่านได้ง่าย แม้ในช่วงนั้นจะไม่ค่อยเข้าใจศัพท์เทคนิคหลายอย่าง แต่ก็ยังพออ่านได้
พอเริ่มโตขึ้น ตัวผมเองเริ่มอ่านหนังสือจริงๆจังๆครั้งแรกก็ช่วงมัธยมต้น คุณพ่อได้ยกกองหนังสือหุ้นมาให้อ่าน ทำให้ผมได้รู้จัก"วอเรน บัฟเฟตต์" (หนึ่งในนักลงทุนที่ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆของโลก) จริงๆก็ตั้งแต่อายุ 12-13 ปีครับ แต่ตอนนั้นยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เกี่ยวกับการลงทุนหรือเรื่องหุ้น แต่ก็อ่านอยู่ดี
เกริ่นซะนานเลยครับ55555 กล่าวคือ จากประสบการณ์ทั้งหมดของตัวเอง การอ่านหนังสือหรือการอ่านอะไรหลายๆอย่างของผมนั้น ได้เปิดโอกาสอะไรหลายๆอย่างให้กับชีวิตของตัวเองค่อนข้างมาก
เพราะเมื่อลองมองย้อนกลับไป อิทธิพลของการอ่านของผมนั้นส่งผลกับความคิดของตัวเองหลายๆอย่าง และแน่นอนส่งผลต่อสังคมที่เราอยู่รอบตัวด้วยว่าเป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
แม้บางครั้งอาจจะออกนอกเส้นทางไปบ้าง แต่การกลับมาอ่านหนังสือหรือบทความดีๆที่เราชอบซ้ำอีกครั้งก็สามารถดึงตัวเองกลับสู่เส้นทางตามที่ควรจะเป็น
นอกจากนี้การรักการอ่านยังทำให้เรามีนิสัยเพิ่มเติมหลายๆอย่าง
เช่น
- การเรียบเรียงคำก่อนพิมพ์หรือพูด
- คลังคำศัพท์ทางภาษาที่เยอะขึ้น
- เราสามารถที่จะอ่านแล้วพินิจพิเคราะห์เพิ่มเติมต่อไปได้โดยที่รู้เจตนาที่แท้จริงของเนื้อหา
- เราจะเป็นคนที่เติมความรู้หรือเรื่องราวตัวเองเข้าอยู่ตลอดเวลา
- เราจะกลายเป็นคน Growth Mindset ไปโดยปริยาย
- เราอ่าน subtitle เร็วกว่าคนทั่วไป (จากประสบการณ์ส่วนตัว)
สำหรับคนที่อยากเริ่มพัฒนาทักษะนิสัยการอ่านให้เป็นนิสัย ผมแนะนำว่าควรจะเริ่มจากการอ่านอะไรที่ตัวเองชอบก่อน อ่านอะไรก็ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน ข่าว บทความ อ่านให้หมดทุกอย่างครับ เพราะการสร้างนิสัยที่ดีเราไม่ควรที่จะฝืนจนเกินไป
ในยุคสมัยนี้มีบทความดีๆมากมายให้อ่านหลากหลายตามเรื่องที่เราเองสนใจ สามารถค้นหา Google เพื่อหาบทความเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ หรือถ้าเจอ Blogger ดีๆก็กดติดตามไว้ครับ
แต่สำหรับผม Format ที่แนะนำมากที่สุดยังคงเป็นหนังสือเล่ม เพราะมีเนื้อหาที่แน่นกว่า มีการเรียบเรียงเนื้อหา เป็นข้อมูลที่ไม่ฉาบฉวยจนเกินไป ยั่งยืนและยาวนานกว่าและอาจจะมีเหตุผล Support มากกว่าครับ
นอกจากนี้ นิสัยการอ่านที่ดีนั้นเราควรที่จะอ่านจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย โดยไม่สนใจว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบ เพราะการอ่านเนื้อหาที่มีแต่มุมมองเดิมๆเราก็จะมีความคิดแบบเดิมๆ และเราจะไม่สามารถฉีกความคิดของตัวเองและพัฒนาต่อไปได้
บางคนกลัวการอ่านหนังสือไม่จบ ตรงนี้ผมว่าไม่ใช่ประเด็น ผมอ่านหนังสือหลายเล่มมาก แต่ก็ไม่ได้จบทุกเล่ม เน้นหาจากสารบัญในหัวข้อที่สนใจและหยิบอ่านเลย ตราบใดที่คุณอ่านสิ่งที่สนใจ แค่นั้นก็เป็นการเขยิบตัวเองขึ้นไปทีละนิดแล้วครับ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องเล่าและคำแนะนำส่วนตัวของผม เห็นด้วยเห็นต่างสามารถแสดงความเห็นได้เต็มที่ครับบ
สำหรับใครที่ไม่รู้จะอ่านอะไร ลองดูในรวมรีวิวหนังสือของผมได้ อาจจะไม่เยอะเพราะไม่ค่อยได้เขียนรีวิว แต่จะพยายามอัพเดตเรื่อยๆครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา