8 ก.ค. 2023 เวลา 00:00 • ประวัติศาสตร์

คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส(Christopher Columbus) ค.ศ.1451-1506

คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักสำรวจชาวอิตาลี เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากบทบาทสำคัญในยุคแห่งการสำรวจ การเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกของเขาในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อประวัติศาสตร์โลก ซึ่งนำไปสู่การล่าอาณานิคมและโลกาภิวัตน์ของอเมริกาในที่สุด
คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสเกิดที่เมืองเจนัว ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี ในปี ค.ศ. 1451 เขามาจากครอบครัวชนชั้นกลาง และบิดาของเขาเป็นช่างทอผ้า แม้ว่าครอบครัวของเขาจะมีฐานะพอประมาณ แต่โคลัมบัสได้สัมผัสกับโลกทางทะเลและพัฒนาความสนใจในการเดินเรือและการสำรวจตั้งแต่ยังเด็ก
1
บ้านคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ในเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นบ้านที่โคลัมบัสเติบโตขึ้นมา โครงเดิมน่าจะถูกทำลายระหว่างการทิ้งระเบิดที่เมืองเจนัวในปี ค.ศ. 1684
ในช่วงศตวรรษที่ 15 ประเทศต่างๆ ในยุโรปพยายามสร้างเส้นทางการค้าโดยตรงกับเอเชียเพื่อเข้าถึงสินค้ามีค่า เช่น เครื่องเทศและผ้าไหม เส้นทางบกที่มีอยู่ถูกควบคุมโดยจักรวรรดิออตโตมัน นำไปสู่ความปรารถนาที่จะหาเส้นทางทะเลอื่น
ความรักในการเดินทางทำให้โคลัมบัสต้องจากบ้านมา และที่แรกที่เขาต้องไปคือกรุงลิสบอน ซึ้งน้องชายผู้มีนามว่าบาร์โธโลมิวได้ทำงานเป็นช่างเขียนแผนที่ในกรุงลิสบอน ด้วยการงานนี้ทำให้ในเวลาต่อมาโคลัมบัสก็ได้กลายเป็นนักภูมิศาสตร์และช่างเขียนแผนที่ผู้ช่ำชอง
ในเวลาต่อมาโคลัมบัสได้แต่งงานกับเฟลิปา โมนิซ เปเรซเตรโล ผู้มีฐานะดี และฐานันดรศักดิ์สูง ผลที่ได้จากการแต่งงาน ทำให้โคลัมบัสได้มีโอกาสเข้าเฝ้ากษัตริย์โปรตุเกสบ่อยครั้ง และกษัตริย์ได้ทรงนำจดหมายที่ เปาโล ดาลปอซโซ ทอซคาเนลลี ซึ่งเขียนถึงพระองค์ลงวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ.1474 ให้โคลัมบัสอ่าน
สำเนา การเดินทางของมาร์โค โปโล (The Travels of Marco Polo) ของโคลัมบัส โดยมีบันทึกที่เขียนด้วยลายมือเป็นภาษาละตินที่ขอบกระดาษ
จดหมายฉบับนั้นมีใจความว่า มาร์โค โปโล ได้เดินทางถึงเมืองจีนโดยใช้เส้นทางตะวันออกและได้ตั้งความหวังว่า นักผจญภัยคนอื่นๆก็คงสามารถเดินทางด้วยเรือถึงอินเดีย โดยใช้เส้นทางตะวันออกได้
จดหมายยังกล่าวถึง แอนติเลีย ซึ่งเป็นประเทศลึกลับกับเกาะ Cipango (ญี่ปุ่น) ด้วย อธิบายว่าเป็นดินแดนที่มีเครื่องเทศและอัญมณีอุดมสมบูรณ์ เป็นเหมือนการจุดประกายให้ความปรารถนาในตัวของเขาเมื่อได้ทราบข่าวนี้
โคลัมบัสได้เตรียมตัวและวางแผนการเดินทางโดยจะข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อทุกอย่างพร้อมจึงได้เสนอแผนแก่กษัตริย์ จอห์นที่ 2 แห่งโปรตุเกส แต่โดนปฏิเสธ จนต้องนำไปเสนอต่อกษัตริย์ เฟอร์ดินานด์และพระราชินิอิซาเบลลา แห่งสเปน
เรือจำลองของ นีน่า(Nina) ปินต้า(Pinta) และซานตามาเรีย(Santa Maria) จากสเปน
ระหว่างที่รอคำตอบจากกษัตริย์ เฟอร์ดินานด์ โคลัมบัสได้อ่านหนังสือหลายเล่ม เช่น History of All Things and All Deeds , De Antiquitatibus ซึ่งในสมัยนั้นจะมีความเชื่อเรื่องที่กล่าวถึงกษัตริย์โซโลมอน และปราชญ์ปโตเลมี แห่งเมืองอเล็กซานเดรีย ทำให้การคำนวณความยาวของเส้นศูนย์สูตรของโลกสั้นไป 25%
แต่ความหวังก็เป็นจริงในวันที่ 17 เมษายน ค.ศ.1492 เมื่อกษัตริย์เฟอร์ดินาน ได้อนุญาติและได้ทำสัญญาการออกเดินทางของโคลัมบัส โดยขบวนเรือ 3 ลำ ได้แก่ นีน่า(Nina) ปินต้า(Pinta) และซานตามาเรีย(Santa Maria)
ในวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1492 โคลัมบัสไปถึงเกาะแห่งหนึ่งในประเทศบาฮามาสในปัจจุบัน โดยเชื่อว่าเขามาถึงเอเชียแล้ว การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจทวีปยุโรปในทวีปอเมริกา
เส้นทางการเดินทางของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
โคลัมบัสเดินทางไปยังทวีปอเมริกาอีกสามครั้งระหว่างปี ค.ศ. 1493 ถึงปี ค.ศ. 1502 การเดินทางเหล่านี้พาเขาไปยังเกาะต่างๆ ในทะเลแคริบเบียน อเมริกาใต้ และอเมริกากลาง อย่างไรก็ตาม เขายังคงเชื่อมั่นว่าเขามาถึงเอเชียแล้ว แทนที่จะคิดถึงการมีอยู่ของทวีปใหม่
การเดินทางของโคลัมบัสเปิดประตูสู่การขยายตัวของยุโรปและการล่าอาณานิคมในอเมริกา การเดินทางของเขาจุดประกายยุคแห่งการสำรวจ ซึ่งนำไปสู่การก่อตั้งอาณานิคมของยุโรปจำนวนมาก และการเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจของโลกในท้ายที่สุด
ภาพวาดคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ประกาศอาณานิคมกับชนพื้นเมือง
การเดินทางของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์โลก แม้ว่าความสำเร็จในการสำรวจของเขาจะไม่มีใครปฏิเสธได้ แต่ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องราวที่ดี เพราะมันนำมาซึ่งความรุนแรง การล่าอาณานิคม ขโมย การจับคนพื้นเมืองมาเป็นทาส และสงคราม
ฝากกดถูกใจ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
Reference คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส(Christopher Columbus) :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา