สร้างพระปิดอบายได้ไหม ?

โยมถาม :
ดิฉันสร้างพระธรรมกายประจำตัวให้กับสามีและครอบครัวสามี มีคุณพ่อ คุณแม่ และคุณย่าของสามี ด้วยความเป็นห่วงพวกท่าน เพราะคนญี่ปุ่นยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องของกฎแห่งกรรมและชีวิตหลังความตายมากนัก
ส่วนตัวก็ยังไม่สามารถอธิบายให้ท่านเข้าใจได้ดีพอ คุณพ่อสามียังดื่มเหล้าหลังอาหารเย็น ส่วนคุณแม่สามีกับคุณย่าบางครั้งก็อาจจะมีพลาดพลั้งทำอะไรผิดให้ติดวิบากกรรมอยู่บ้าง ส่วนตัวสามีของดิฉันรู้จักศีล ๕ ปัจจุบันไม่ดื่มเหล้า ไม่ตบยุง นั่งสมาธิ และทำบุญตามโอกาส
ทุกคนในครอบครัวของสามีดีกับดิฉันมาก จึงทำให้เรายิ่งรู้สึกเป็นห่วงชีวิตหลังความตายของพวกท่าน จึงได้สร้างพระธรรมกายประจำตัวให้กับทุกคน และบอกให้พวกท่านรับรู้ด้วยแล้ว การที่พวกท่านไม่เข้าใจเรื่องบุญบาปมากนัก แต่เราสร้างพระธรรมกายประจำตัวให้กับท่าน จะเป็นการปิดอบายให้กับท่านได้ไหมคะ
พระอาจารย์ตอบ :
คนในครอบครัวทั้งรักและเอ็นดูซึ่งกันและกัน ดีต่อกัน มีความจริงใจให้แก่กัน ชวนกันรักษาศีล เลิกเหล้า เลิกตบยุง ไม่เฉพาะปัจจุบันชาติ แต่ยังพยายามสร้างบุญให้เขา หวังอยากจะปิดอบายให้เขาด้วย ดีมาก ๆ เลยทีเดียว
อาตมภาพทราบดีว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำให้คนญี่ปุ่นเข้าใจเรื่องของบุญ บาป กฎแห่งกรรม และชีวิตหลังความตาย เราต้องมีความตั้งใจจริง ๆ ซึ่งเท่าที่กล่าวมานั้น เราทำหน้าที่ได้ดีมาก ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว ส่วนคุณพ่อคุณแม่ญาติผู้ใหญ่เขาจะเข้าใจมากน้อยเพียงไรนั้นไม่เป็นไร ให้เราค่อย ๆ ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ถูกต้องแล้ว
ให้หมั่นชักชวนสามีมาปฏิบัติธรรม ฟังธรรมจากพระอาจารย์บ้าง เพราะบางทีลำพังเราเองอธิบายไปเขายังไม่เข้าใจ ดังนั้น พาเข้าวัดให้พระอาจารย์ท่านช่วยอธิบาย พอเขาได้ฟังธรรมแล้วปฏิบัติบ่อย ๆ ทำใจนิ่ง ๆ เป็นสมาธิ ใจจะเปิด พอบุญหล่อเลี้ยง ใจจะนุ่ม แล้วเข้าใจธรรมะได้ง่ายขึ้น
การฟังพระอาจารย์เทศน์สอนธรรมะ ท่านก็จะแถมเรื่องโน้นเรื่องนี้ พอได้ฟังบ่อย ๆ เขาก็จะเข้าใจมากขึ้นเรื่อย ๆ พอเข้าใจแล้วเขาก็จะไปบอกต่อคุณพ่อคุณแม่เอง ทีนี้พูดได้เต็มที่ อธิบายได้อย่างชัดเจนเลยเพราะตนเองเข้าใจแล้ว ได้ถึงสองต่อเลยทีเดียว
ขณะนี้เราสร้างพระให้ท่าน แล้วให้ท่านรับรู้อนุโมทนาบุญด้วย ไม่ว่าจะเข้าใจมากน้อยเพียงใด ท่านก็ได้บุญไปส่วนหนึ่งแล้ว
ถึงปัจจุบันท่านอาจจะยังไม่รู้ค่าของบุญมากนักว่าคืออะไร แต่ที่รู้แน่คือรู้ว่าเราหวังดีกับท่าน ท่านสัมผัสตรงจุดนี้ได้ อย่างน้อยก็เกิดความสุขใจ ความยิ้มแย้มแจ่มใส อย่างนี้คือใจเปิดแล้ว ยิ่งถ้าสามีเกิดความเข้าใจแล้วกลับไปอธิบายให้ท่านเข้าใจมากยิ่งขึ้น ต่อไปเราจะสามารถชักชวนคุณพ่อคุณแม่สามีและคุณย่ามาปฏิบัติธรรมได้ด้วย ถึงตอนนั้นยิ่งสุดยอดเลย ท่านจะยิ่งได้บุญมากขึ้น ๆ ไปตามส่วน
ดังนั้น ให้เรามุ่งเน้นไปที่การประกอบเหตุ อย่าไปกังวลถึงเรื่องผล พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านให้ข้อคิดคำคมไว้ว่า “ประกอบเหตุสังเกตผล ทนเอาเถิดประเสริฐนัก” เมื่อทำเหตุดีแล้ว ให้คอยชำเลืองดูผล แค่ชำเลืองดูเท่านั้นเอง ทนเอาเถิดประเสริฐนัก ทำอย่างนี้ความสำเร็จจะเกิด
คนทั่วไปบางทีมุ่งที่ผลอย่างเดียว อยากได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ นึกเอาผลเป็นหลัก แล้วก็หาทางทำเหตุเพื่อให้ได้ผลนั้น เหมือนกับว่าพอเรานำใจมาจดจ่อผล ก็เกิดความรู้สึกเครียด กังวล กลัวจะไม่ได้อย่างที่หวัง แต่ในทางกลับกัน ถ้านำใจไปประกอบเหตุ แล้วแค่ชำเลืองว่าผลดีเกิดหรือไม่ ใจจะไม่เครียด ไม่ว่าเราจะทำเรื่องทางโลกหรือทางธรรมก็ยึดหลักเหมือนกันหมดคือ เน้นที่การประกอบเหตุให้ดี แล้วค่อยชำเลืองผล เพื่อจะกลับมาจูนปรับเหตุให้เหมาะสมถูกทิศทางเท่านั้นเอง
เราอยากจะให้คุณพ่อ คุณแม่ และคุณย่าสามีได้ปิดอบายแล้วไปสู่สุคติเพราะพวกท่านดีกับเรามาก เรารักท่าน เราจึงอยากทำสิ่งดี ๆ ที่สามารถทำได้ให้ท่าน อย่างนี้ไม่นานใจท่านก็จะเปิดมากขึ้นเอง สุดท้ายใจจะสว่างไสวกันทั้งครอบครัว โดยมีเราที่เป็นสุดยอดกัลยาณมิตร ขอให้ทำต่อไปแล้วให้สำเร็จ
เจริญพร.

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา