เหมือนได้ย้อนอดีต Chester UK โคตรมีเอกลักษณ์ และสุดคลาสสิก
Chester เป็นเมืองเล็กๆ ที่เราแวะมาเที่ยวแบบไม่ได้คาดหวัง แต่ด้วยความสวยงาม และมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่อื่น กลายเป็นว่าผมชื่นชอบที่นี่เป็นอย่างมาก อาคารหลายแห่งมีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง บางแห่งได้รับการบูรณะในสมัยวิกตอเรีย และกำแพงเมืองที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ยุคโรมัน สิ่งเหล่านี้ทำให้เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง
เรานั่งรถไฟจาก Llandudno มาที่ Chester โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อมาถึงสถานี ก็นำกระเป๋าเดินทางไปฝากไว้ที่โรงแรมใกล้ๆชื่อว่า Best Western The Queen Chester
สำหรับ Chester เราสามารถเดินเที่ยวได้ เนื่องจากเป็นเมืองเล็ก และสถานที่ต่างๆไม่ได้อยู่ไกลกันมากนัก
สถานีรถไฟ Chester
เริ่มต้น เราเดินมุ่งหน้าไปที่ Eastgate clock ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่ และยังได้ชื่อว่าเป็นนาฬิกาที่มีคนมาถ่ายรูปมากที่สุดรองจากหอนาฬิกา Big Ben!
เมื่อมาถึง นาฬิกาจะตั้งอยู่บนกำแพงเมือง ซึ่งโดดเด่น และสวยงามเป็นอย่างมาก แม้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่ หรือสูงมากนัก บ้านเมืองโดยรอบส่วนใหญ่เป็นอิฐแดง หรือโทนสีขาวดำ ส่วนบนถนน มีผู้คนเดินผ่านไปมาจำนวนมาก เป็นจุดที่ครึกครื้น มีชีวิตชีวา และองค์ประกอบทุกอย่างเข้ากันได้เป็นอย่างดี
สัญลักษณ์ของเมือง
จากนั้นเราก็ขึ้นไปบนกำแพงเมือง วิวจากด้านบนมองลงมา ก็สวยมากเช่นกัน
คลาสสิก
ใกล้ๆกับนาฬิกา มีร้านไอศกรีมอยู่ด้วย เราก็ไม่พลาดที่จะแวะชิม ขณะที่เรากำลังซื้ออยู่นั้น พนักงานผู้หญิงก็พูดขึ้นมาว่า "คนไทยใช่ไหมคะ" เราตกใจอยู่สักพัก จากนั้นก็ได้คุยกัน จึงรู้ว่าเธอมาเรียนที่ Chester และทำงานพิเศษที่นี่ โดยเธอบอกอีกว่า ดีใจมาก เพราะนานๆทีจะเจอคนไทย ซึ่งทั้งวันที่ผมเที่ยวที่นี่ ก็ไม่เจอคนไทยเลยจริงๆ ถ้าใครไปเที่ยวก็อย่าลืมแวะไปอุดหนุนนะ ไอศกรีมอร่อยมาก
อยู่ใกล้นาฬิกาแค่นี้เอง
หลังจากนั่งที่ร้านสักพัก เราเดินต่อไปบนกำแพงเมือง ไม่นานก็พบกับ Chester Cathedral ซึ่งเป็นโบสถ์ที่สำคัญของเมือง โดยมีขนาดใหญ่ และสวยงามมาก พื้นที่ด้านนอกเป็นสวนกว้างขวาง มีต้นไม้ใหญ่อยู่หลายต้นสีสันสดใสตัดกับสีของโบสถ์ และมีผู้คนมานั่งพักผ่อน เหมือนเป็นสวนสาธารณะย่อมๆเลย
เหมือนหลุดมาจากในหนัง
จากนั้นเราเข้าไปเยี่ยมชมด้านใน มีทางเดินเป็นเหมือนอุโมงค์ หลายจุดตกแต่งด้วยกระจกสีมีรูปคนด้วย บรรยากาศก็ค่อนข้างเงียบ ทำให้รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่นี้ ใกล้ๆกับทางออกมีจุดขายของที่ระลึก เราจึงได้ช้อปปิ้งกันนิดหน่อย ก่อนที่จะออกมา
ขนลุกอยู่นะ
เรากลับไปที่ถนนหลัก เดินผ่านนาฬิกามา ตรงไปเรื่อยๆ พอถึงทางแยก ให้สังเกตุตึกตรงหัวมุมถนน นั่นคือ Lockwood's black-and-white building เป็นสถาปัตยกรรมจากศตวรรษที่ 19 ซึ่งสวยมาก จริงๆแล้วในเมืองมีตึกขาวดำแบบนี้อยู่หลายจุด แต่ตรงนี้เป็นจุดที่โด่งดัง และนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปมากที่สุด
ใกล้ๆกัน มีคนมาแสดงโชว์มายากลด้วย ผู้คนมามุงดู ปรบมือ และโห่ร้อง เป็นบรรยากาศที่ดีสุดๆ
ตรงนี้โคตรเท่
เมื่อเลี้ยวซ้ายผ่านตึกตรงหัวมุมมา จะมีร้านอาหาร และคาเฟ่อยู่เยอะมากตลอดสองข้างทาง เราจึงแวะกินขนมที่ร้าน Bridge St. coffee โดยสั่งสโคนมากินกับกาแฟ เนื้อขนมปังแน่นมาก กินได้นิดเดียวก็อิ่มแล้ว
สโคนชิ้นเล็กๆ แต่จุกมาก
เราเดินต่อมาจนเข้าสู่ย่านชุมชน ซึ่งค่อนข้างเงียบสงบ ผู้คนบางตา ตรงข้ามกับจุดที่เราผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด แถวๆนี้จะมีสวนสาธารณะ และชิงช้าอยู่ ซึ่งผมเห็นหลายๆเมืองใน UK จะมีแบบนี้ เหมือนเป็นของที่คู่กัน
เดินเล่นชิวๆ
สุดท้ายเราตัดสินใจไปเดินเล่นบนกำแพงเมือง ซึ่งสามารถเดิมชมวิวไปเรื่อยๆได้ทั่วทั้งเมืองเลย บางจุดข้างบนจะมีสิ่งก่อสร้างที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคโรมันอยู่ด้วย
มีจุดถ่ายรูปสวยๆเยอะมาก
เราเดินไปจนสุดทาง ไม่คิดเลยว่ากำแพงเมืองจะยาวขนาดนี้ วันนี้เดินไปเกินหมื่นก้าวแน่นอน แต่ตื่นเต้นกับสิ่งต่างๆจนลืมเหนื่อย พอดูนาฬิกาอีกทีก็ตกเย็นแล้ว จึงเดินกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้กับโรงแรม และเตรียมตัวขึ้นรถไฟไปต่อที่เมือง Liverpool
สำหรับผม Chester เป็นเมืองเล็กๆ ที่สวย และมีเสน่ห์มาก สิ่งก่อสร้างต่างๆที่มีมาตั้งแต่สมัยอดีต ก็ยังอยู่มาจนถึงปัจจุบันด้วยสภาพที่สมบูรณ์ การเดินทางถ้านั่งรถไฟมาจากเมือง Liverpool ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น แวะเที่ยวที่นี่สัก 1 วันก็สามารถเก็บได้ครบทุกซอกทุกมุมเลย ใครแพลนมาเที่ยวที่นี่ ไม่ผิดหวังแน่นอน
สรุปค่าใช้จ่ายหลักๆ
-ตั๋วรถไฟจาก Llandudno ไป Chester
=8.86£ (381฿)/คน
-ฝากกระเป๋า 3 ใบ ที่โรงแรม Best Western The Queen Chester
=19.72£ (848฿)
ไอศกรีม (กิน 2 คน)
=6£ (258฿)
-ร้านกาแฟ Bridge St. coffee (กิน 2 คน)
=17.85£ (768฿)
-รวมทั้งหมด = 30.65£ (1,318฿)/คน
1£ ประมาณ 43฿
เมษายน 2023
- 41
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
