Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อดิพาชิล
•
ติดตาม
26 ก.ค. 2023 เวลา 08:30 • ท่องเที่ยว
บ้านฮัก เฮือนสุข baanhug hueansuk
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวเชียงดาว : บ้านฮักเฮือนสุข บ้านนาเลาใหม่ จ.เชียงใหม่
หลังจากได้เห็นความสวยงามของดอยหลวงเชียงดาว ดอยที่มีความสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย แบบมุมระยะไกลจากจุดชมวิวไร่ภูเคียงดาวไปแล้ว คืนที่สาม เราจะไปนอนชมวิวในจุดที่ใกล้ดอยหลวงเชียงดาวมากที่สุด ที่บ้านนาเลาใหม่ สถานที่พักยอดฮิตนั่นเอง
1
เราเก็บกระเป๋าบอกลาจากบ้านกอดลมห่มดอย ที่พักในคืนที่สอง เรานัดพี่อัศวินมารับตอน 10 โมง ให้ไปส่งเราที่สถานีขนส่งเชียงดาว เพื่อไปรอรถที่เราจองไว้ไปบนที่พักของเราอีกทอดหนึ่ง
สำหรับใครที่อยากเดินทางมาที่ บ้านนาเลาใหม่ และไม่อยากขับรถเองการเดินทางก็ไม่ยาก ตามนี้เลยครับ
การเดินทางมาบ้านนาเลาใหม่ ดอยหลวงเชียงดาว
1.ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งช้างเผือก รถเมล์สายเชียงใหม่-ท่าตอน ไปลงที่สถานีขนส่งเชียงดาว ราคา 44 บาท/เที่ยว
2.โทรนัดรถโดยสารของชาวบ้าน ทริปนี้เราใช้บริการของป้าผ่อง โทร.093-131-1361 ซึ่งต้องโทรจองนัดไว้ล่วงหน้า รอบแรก 09.00 น. รอบสุดท้าย 15.00 น. ราคา 150 บาท/คน
3
รถสายเชียงใหม่-ท่าตอน มาจอดที่บขส.เชียงดาว
เรานัดรถของป้าผ่องมารับตอน 11 โมง แต่การเดินทางขึ้นลงเขารถแต่ละรอบอาจมีการปรับเปลี่ยนบ้าง ประมาณ 12.00 น. ป้าผ่องมารับเราที่สถานีขนส่งเชียงดาว ทริปนี้เรามีเพื่อนใหม่ร่วมเดินทางด้วย 1 คน ป้าผ่องพาเราแวะที่อุโมงค์ต้นไม้ จุดถ่ายรูปยอดฮิตระหว่างทาง
สักพักธรรมชาติก็ต้อนรับเราด้วยสายฝน เรารีบปิดผ้าใบรถกันแทบไม่ทันเลย ขับมาถึงทางเข้าอุทยาน เราเสียค่าผ่านด่าน 30 บาท
ป้าผ่องขับรถต่อไปอย่างชำนาญ ลัดเลาะไปตามโค้งต่างอย่างแม่นยำ ด้วยการที่ป้าแกต้องขับรถขึ้นส่งรับ-ส่งลูกค้าวันละหลายๆรอบ เราขอยกให้ป้าแกเป็นหญิงแกร่งแห่งเชียงดาว เลย เพราะว่าเราแค่นั่งขึ้นรอบเดียว ก็ยังเริ่มจะเมารถแล้วถ้าถึงช้ากว่านี้อีกสักหน่อย
เราเดินทางถึงบ้านนาเลาใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่าลีซู สำหรับที่พักทริปนี้เราจองที้พักชื่อ “บ้านฮักเฮือนสุข” ซึ่งพอเดินทางถึงประมาณบ่ายโมงพร้อมกับฝนที่ตกแบบปรอยๆ พี่เขาให้เราเข้าห้องพักได้เลยพอดี
สำหรับราคาที่พักของที่นี่ จะบอกว่าเขาคิดราคาเป็นคน เราจองแบบบ้านเป็นหลัง 700 บาท/คน รวมอาหารเช้า-เย็น แม้เราจะเดินทางคนเดียวทางที่พักก็ไม่ได้บวกราคาเพิ่ม ทำให้รู้ว่ายังมีผู้ประกอบการที่มีน้ำใจประหยัดค่าใช้จ่ายให้คนที่บางครั้งก็อยากเดินทางคนเดียว
ที่พักจะเป็นบ้านพักที่สร้างแบบเรียบง่าย เราจองแบบมีห้องน้ำในตัว แต่ที่นี่จะไม่มีที่ให้เสียบไฟในห้องนะครับ ต้องไปชาร์จรวมที่ส่วนกลาง เพราะไฟฟ้าของที่นี่จะมาจากโซลาร์เซลล์
และสัญญาณโทรศัพท์ก็จะมีเป็นบางจุด ซึ่งในห้องพักของเราไม่มีสัญญาณเลย ทำให้ได้อยู่กับตัวเองอย่างจริงจัง แต่กลับมีเพื่อนใหม่ชื่อ ดอยหลวงเชียงดาว เป็นเพื่อนคลายเหงาแทน
มาถึงก็เจอวิวหน้าห้องแบบนี้ฟินสุดๆเลยครับ
นอนชมวิวสวยๆจากเตียงแค่นี้ก็ฟินละครับ
หลังจากเก็บกระเป๋าเสร็จก็เดินมาที่ส่วนกลางซึ่งเป็นร้านคาเฟ่และอาหาร เลยสั่งข้าวผัดกระเพราซึ่งด้วยความหิวเลยลืมการถ่ายภาพไปเลย และสั่งชุดกาแฟดริปมาดื่มแบบชิลๆซะหน่อย
เราออกเดินเล่นสำรวจหมู่บ้านในยามเย็น ไปเจอวิวนี้โดยบังเอิญ ซึ่งอยู่ในที่พักขอบบ้านโอโซน เขามีที่พักด้วยนะ ใครชอบวิวแบบนี้แวะมาได้เลย เราขออนุญาติพี่เจ้าของเดินเข้าไปถ่ายรูป นั่งชมวิวดอยหลวงเชียงดาวแบบตั๋ว VIP แถวหน้าสุดเลย
มื้อเย็นมาเสริฟให้เราที่หน้าห้องพัก เป็นเมนูง่ายๆแค่ ผัดผัก ต้มจืด ไข่เจียว พร้อมน้ำพริกลีซู ที่เราว่ากินกับไข่เจียวแล้วอร่อยเลย แต่พอได้กินอาหารง่ายๆกับวิวสวยๆ มันทำใหัมื้อนี้เป็นมื้ออาหารแสนพิเศษ ที่จะอยู่ในความทรงจำของเราไปอีกนานแสนนาน
หลังจากทานอาหารเสร็จ บรรยากาศของหมู่บ้านเริ่มมีแสงสว่างจากดวงไฟของบ้านต่างๆซึ่งเป็นไฟที่มาจากแผงโซลาร์เซลล์ ทำให้ในห้องพักจะไม่มีเต้ารับไฟฟ้าให้เราเสียบชาร์จแบต
ถึงแม้ที่พักจะไม่มีพัดลม แต่โชคดีที่ช่วงหัวค่ำเริ่มมีฝนตกลงมาปรอยๆอีกครั้ง ทำให้อากาศเย็นสบาย พร้อมกับมีไอหมอกลอยมาถึงใกล้ๆหน้าห้องเราเลย ใจนึงก็แอบดีใจที่ได้เห็นหมอก แต่อีกใจสำหรับคนที่อยากจะมาตามล่าทางช้างเผือกคงจะไม่ดีแน่ๆ
และหลังจากที่เราถอดใจแอบไปงีบหลับไป แต่ด้วยมันยังหัวค่ำอยู่ ประมาณ 3 ทุ่ม เราลองเปิดประตูห้องออกมา สุดท้ายธรรมชาติก็ไม่ใจร้ายกับเรา ถึงแม้จะยังมีหมอกเลยฟุ้งอยู่บ้าง แต่ท้องฟ้าเริ่มเปิดเพียงพอที่จะทำให้ผมได้ล่าช้างเผือกตามที่ตั้งใจเอาไว้
ภาพสวยๆของทางช้างเผือกบนยอดดอยหลวงเชียงดาว
ก่อนนอนเราตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อที่จะตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงเช้า แต่เมื่อคืนมีฝนตกเลยทำให้เช้านี้หมอกมาเยอะเป็นพิเศษเลยมองไม่เห็นแสงแรกของพระอาทิตย์ในยามเช้า
1
หมอกยามเช้า
อาหารเช้าเป็นข้าวต้ม กับ กาแฟร้อน
นั่งทานกาแฟยามเช้า พร้อมชมวิวไปแบบเพลินๆ
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เราตั้งใจที่จะไปกินโรตีหวัง ที่บ้านลีซู โฮมสเตย์ แต่คนทำโรตีไม่อยู่เลยอดกินเลย ในใจก็นึกว่าสงสัยจะต้องมาซ่อมอีกรอบแล้ว นี่คงเป็นเหตุผลของคนที่มาเจอบรรยากาศที่ชอบรึป่าวก็ไม่รู้เนอะ
เดินเล่นไปเจอเจ้าเหมียวนอนสวีทกันจนแอบอิจฉาเลย
กลับมาที่พักบ้านฮักเฮือนสุข ด้วยบรรยากาศแบบนี้ก็เลยสั่งอเมริกาโน่ร้อนมานั่งจิบ ดื่มด่ำกับบรรยากาศภูเขาที่มีสายหมอกลอยมาต้อนรับคนแปลกหน้าอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
กาแฟร้อนกับวิวหลักล้าน
เราคงต้องบอกลากับทริปที่อยากออกมาแบกเป้เดินทางคนเดียว เพื่ออยากให้เวลากับตัวเองอย่างจริงจัง การเดินทางคนเดียวตอนแรกเราก็แอบกลัวเหงานะ แต่ก็ต้องขอบคุณผู้คนแปลกหน้าที่พูดคุยกับเราตลอดเส้นทาง ทำให้เหมือนเราได้เปิดโลกใหม่ ได้แลกประสบการณ์และเรียนรู้จากคนแปลกหน้าที่โชคชะตาเวียนมาให้เราได้พบกัน
การเดินทางในครั้งนี้เราเลยไม่รู้สึกเหงา กลับรู้สึกมีอิสระในการที่ได้ทำในสิ่งที่เราต้องการ มันเหมือนกับการได้ปลดล็อคตัวเองออกจากเซฟโซนที่เวลาไปไหนจะต้องคอยถามว่าใครว่างไปกับเราบ้าง จะเที่ยวไหนดี จะกินร้านไหนดี
แต่ครั้งนี้มันคือ
การเดินทางของตัวเรา กับ ดอยหลวงเชียงดาว แค่นั้น
อย่ากลัวที่จะเที่ยวคนเดียว
แต่จงกลัวที่จะไม่ได้เที่ยว
แล้วคุณจะรู้ว่า ความสุข มันเริ่มต้นได้จากตัวเรา
อดิพาชิล
แล้วเป็นเพื่อนเที่ยวไปด้วยกันกับอดินะครับ
ลาออกไปเช็กอิน
ท่องเที่ยว
ไลฟ์สไตล์
45 บันทึก
63
12
75
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยว เชียงดาว
45
63
12
75
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย