📍EP 6.6 ปิดฉากโรคซึมเศร้าและไบโพล่าร์ที่เป็นมานานแสนนาน บทสรุป EP6.1-6.5
สุดท้ายสิ่งที่ผมบรรลุถึงจุดที่เรียกว่า
“เฮ้ย เราเป็นเหมือนคนปกติหว่ะ”
หลังจากที่ผมได้ทานยาเพื่อปรับฮอร์โมน ตอนนี้น่าจะใกล้ครบ 1 เดือนแล้ว ความจำกลับมาดีขึ้น สมองที่ไม่ได้ใช้งานเต็มที่ เต็มประสิทธิภาพมานาน มันรู้สึกว่าได้ใช้เต็มประสิทธิภาพมันมีอาการตึงๆในหัวเหมือนคนใช้สมองในการคิด คำนวณ ท่องจำ หรือ เรียนรู้ ความรู้สึกแบบนี้คือ ไม่ได้สัมผัสมานานมากๆจนลืมไปเลย สมาธิจดจ่อกับสิ่งๆเดียวมากขึ้น การทำงานไม่ร้อนรนรีบเร่งเหมือนเดิม สติมีมากขึ้น อารมณ์และเหตุผลมีมากขึ้น อันนี้คือสิ่งที่เปลี่ยนไปหลังจากทานยาเพื่อปรับฮอร์โมน “คอติซอล” ชื่อยา “📍Prednesolone”
โรคที่ผมเป็นคือ ต่อมหมวกไตอักเสบ อันนี้คือ คำจำกัดความที่คุณหมอให้มานะครับ เวลาเข้าโรงพยาบาล เสียเลือดมากๆ ท้องเสียมากๆ ให้บอกเขาว่า เราเป็นโรคต่อมหมวกไตอักเสบ หรือยิ่นอันนี้ให้เขาดู
ซึ่งจะต้องมีการเพิ่มยาปรับฮอร์โมน เพื่อไม่ให้เกิดอาหารเป็นลม วูบ หรือ หมดสติ ครับ
ทุกๆวันนี้ผมสามารถหลับได้เองโดยที่ไม่ต้องพึ่งยาครับ หลับได้เหมือนคนปกติคือ 6-8 ชม. ซึ่งเมื่อก่อนสำหรับการไม่ทานยา 2 ชม.ก็เก่งละครับ
ท่านใดมีอาการเป็นโรคซึมเศร้า อาจจะต้องตรวจเช็คสุขภาพร่วมด้วยนะครับ คือ อย่างผมก็คิดว่ามันเกิดจากการที่เราเครียดมากๆอย่างเดียว จนสุดท้ายเหมือนฟ้ายังมีตาครับ ในขณะที่ผมเป็นโรคซึมเศร้า ผมใช้เวลาไล่หาความผิดปกติของตัวเอง เริ่มจาก
1.หัวใจเต้นผิดจังหวะ และความดันสูง: ไปหาหมอโรคหัวใจ ตรวจเช็คคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และหมอโรคหัวใจก็ท้าผม บอกว่าว่าคุณไม่ได้เป็นอะไรผมตรวจก็ปกติ ผมก็บอกว่าความดันผมสูงด้วย หมอเลยตรวจเลือดเล่นๆเพื่อเช็คค่าเลือด สรุปเป็นไทรอยด์เป็นพิษ
2.ไปหาคุณหมออายุรกรรม เพื่อรักษาไทรอยด์จนหาย แต่ความดันยังสูง ผมก็เลยกินยาควบคุมความดัน และถือโอกาสตรวจสุขภาพ พบเป็น ไขมันพอกตับ กรดยูริคสูง คลอเรสเตอรัลสูง ก็ทานยามา จนปกติ
3.พบคุณหมอจิตแพทย์ประจำเดือนปรึกษาเรื่องสุขภาพทางเพศ คุณหมอก่อส่งตัวไปหาคุณหมออายุรกรรมอีก
4.คุณหมออายุรกรรมตรวจเลือด พบทุกอย่างปกติแต่คิดว่า ต่อมใต้สมองน่าจะผิดปกติ เลยส่งไป MRI
5.ผล MRI พบว่ามีก้อนเนื้อที่ต่อมใต้สมอง 4มม. กดฮอร์โมนเพศอยู่ และอาจจะกดฮอร์ที่เรียกว่า คอติซอล โกรทฮอร์โมน
6.เจาะเลือดอีกครั้ง พบว่าฮอร์โมนคอติซอลผิดปกติ ทำให้มีอาการณ์เหนื่อยล้า และไม่มีฮอร์โมนที่ไปต่อต้านความเครียด หรือ คอยลดความเครียด จึงต้องทานสเตีรอยด์อ่อนๆ(Prednesolone)เพื่อทำการประคองอาการ เพราะว่าต้องทานไปตลอดชีวิต
7.ทำการทานสเตีรอยด์(Prednesolone)มา 2 สัปดาห์ อาการเหนื่อยและความเครียดทั้งหลายหายไป อาการเริ่มดีขึ้น สมองใช้งานเต็มที่มากขึ้นมีอาการเมื่อยสมองเหมือนคนใช้สมองคิดจริงๆ ซึ่ง มันไม่ได้เป็นแบบนี้มานานมากๆ
8.ผ่านมา 1 เดือน อาการเมื่อยสมองหายไปแต่เหมือนความคิดในเขิงตรรกะดีขึ้น ความจำกลับมา นอนหลับสนิท สุขภาพทางด้านอารมณ์ดีขึ้น ไบโพล่าร์ไม่มีการแสดงอาการออกมาเลย อารมณ์ดีเข้าเข้าสังคมได้โดยไม่คิดว่าตัวเอง ไม่เหมือนคนอื่น
ยังไงผมคิดว่า ส่วนตัวผมค่อนข้างจะฟันธงแล้วครับว่า 80% โรคซึมเศร้าและไบโพล้าร์ของผมมาจาก เนื้องอกในต่อมใต้สมองครับ
ผมจะปิด EP.6 ที่ไล่มาตั้งแต่ EP6.1 - EP6.6 ไว้ตรงนี้ครับ แล้วบทความหน้าเราจะมาต่อที่ EP.7 ต่อไป
ขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามนะครับ
หม่อง
📌หากไม่ได้อ่านแต่แรก ไม่ปะติดปะต่อ สามารถติดตามอ่าน EP.แรกได้ตามลิงค์นี้ครับ
#โรคซึมเศร้า #ธุรกิจ #ไบโพล่าร์ #การตลาด #ความเครียด #วิตกกังวล #หดหู่ #อาการเริ่มต้นโรคซึมเศร้า #โรคซึมเศร้าจากธุรกิจ #โรคซึมเศร้าจากยอดขาย #โรคซึมเศร้าจากความเครียด #โรคซึมเศร้าวิตกกังวล #โรควิตกกังวล #สิ้นหวัง #หดหู่ #ไม่อยากตื่น #หมดไฟ #โรคซึมเศร้า #ยอดขายตก #มืดแปดด้าน #ไม่มีทางออก #ต้องการการช่วยเหลือ #เป็นหนี้ #หมดตัว #โรคซึมเศร้าจากการทำธุรกิจ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
