30 ก.ค. 2023 เวลา 07:25 • ท่องเที่ยว
เอดินเบอระ

ทั้งเมือง ทั้งธรรมชาติ มีครบในที่เดียว Edinburgh Scotland

Edinburgh อ่านว่า เอดินบะระ เป็นเมืองหลวงของ Scotland ที่ผมเข้าใจผิดมาตลอดว่าเมืองหลวงคือ Glasgow พึ่งได้รู้ตอนมาที่นี่ อย่างไรก็ตาม การเที่ยวเมืองนี้ ถือว่าได้ครบทุกรสชาติจริงๆ
3
เรานั่งรถไฟจากเมือง York มาที่ Edinburgh โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้นก็นั่งอูเบอร์ไปยังที่พักชื่อว่า Salisbury Boutique Hotel พอเก็บกระเป๋าเสร็จ เราเริ่มออกไปเที่ยวทันที การเดินทางในเมืองสามารถเดิน หรือนั่งรถบัสสาธารณะก็ได้
สีของบ้านเมืองคุมโทนสุดๆ
แพลนวันนี้คือ เราจะไปที่ Edinburgh Castle และกินอาหารเย็นที่ร้านดัง Duck&Waffle เราเดินออกมาได้สักพัก ก็เข้าสู่ตัวเมืองเก่าบนถนน Royal Mile เป็นถนนที่ผู้คนพลุกพล่าน มีร้านค้าตลอดสองข้างทาง และระหว่างทางจะได้พบกับสถานที่ ที่สำคัญอีกหลายแห่งด้วย
1
Royal Mile
สิ่งแรกที่เราพบคือรูปปั้นของ Adam Smith ผู้เป็นบิดาแห่งเศรษฐศาสตร์ ที่รู้จักเพราะว่าแฟนของผมเรียนคณะนี้ เธอจึงดูตื่นเต้นมาก ไม่คิดว่าจะได้เจอที่นี่
เดินเข้ามานิดเดียวเจอเลย
ใกล้ๆกันคือ St. Giles Cathedral สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ ด้านหน้าวิหารมีเด็กๆเล่นดนตรีอยู่ด้วย
เห็นลายสก๊อต ก็รู้สึกถึงความเป็น Scotland
ถนนเส้นนี้จะเป็นเนินขึ้นไปเรื่อยๆ โดยปลายทางคือ Edinburgh Castle ทำให้รู้สึกเหมือนเดินขึ้นเขา แต่ไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้นนะ เดินดูอะไรไปเรื่อยๆ ถือว่าเพลินมาก
ชุดแบบจัดเต็ม
พอมาถึงปราสาท นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปเยี่ยมชมด้านในได้ ได้ยินว่าถ้าจองมาก่อนจะถูกกว่า แต่ใครที่จะไม่เข้าไป ก็สามารถเดินเล่น ถ่ายรูปบริเวณด้านหน้าได้ ในอดีต Edinburgh Castle เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนให้เป็นป้อมปราการทางทหารแทนในศตวรรษที่ 17 ที่ประทับอย่างเป็นทางการปัจจุบันอยู่ที่ Holyrood Palace ตั้งอยู่ทางใต้ของ Royal Mile ตรงข้ามกับปราสาทแห่งนี้
อลังการ
ตัวปราสาทใหญ่มาก ถึงจะเก่า แต่สวย จากข้างบนสามารถชมวิวเมืองได้ด้วย
วิวดี
หลังจากถ่ายรูปอยู่พักใหญ่ ก็ได้เวลาอาหารเย็น เราไปกันที่ร้าน Duck&Waffle ตามเวลาที่จองไว้ (ร้านอาหารที่ UK ส่วนใหญ่ต้องจองล่วงหน้า ไม่งั้นอาจจะเต็ม) เมนูซิกเนเจอร์ที่ทุกโต๊ะต้องสั่งคือ Duck&Waffle เป็นขาเป็ดกรอบ เสิร์ฟคู่กับวาฟเฟิล ไข่ดาว และซอสมัสตาร์ดเมเปิลไซรัป ผมขอการันตีเลยว่า อร่อยเหาะ แบบไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน
1
ไม่คิดว่ามันจะเข้ากันได้ อร่อยมาก
วันที่สอง เริ่มแรกกองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราตื่นแต่เช้าเพื่อกินบุฟเฟต์โรงแรม ก่อนเจอศึกหนักคือ ไปเดินขึ้นเขา Arthur's Seat ที่นี่เป็นภูเขาไฟโบราณ และเป็นจุดสูงสุดของกลุ่มเนินเขาใน Edinburgh ด้วย โดยอยู่ไม่ไกล ห่างจาก Edinburgh Castle ไปทางตะวันออกประมาณหนึ่งไมล์เท่านั้น อย่างที่ผมเกริ่นไปตั้งแต่แรก เที่ยวเมืองนี้ ได้ครบทุกรสชาติ
Let's go ^^
การขึ้นเขานี้ถือว่าไม่ยากจนเกินไป สามารถขึ้นได้หลายทาง เราใช้กูเกิลแมพพาไป ทางไม่ได้ชันมาก และหลายจุดก็มีบันไดด้วย แต่ลมแรงมาก ควรใส่เสื้อหนาๆไป
แทบปลิว
ชุดไม่พร้อม
ระหว่างทางขอบอกเลยว่า โคตรสวย เห็นทั้งวิวเมือง ภูเขา และทะเล
1
หลังจากภาพนี้ไม่นาน หมวกปลิว
ก่อนขึ้นไปถึงยอด แฟนผมก็ขอยอมแพ้ ด้วยความหนาว และความเมื่อยล้าของขาที่สะสมจากการเดินมาหลายวัน แม้ผมจะเกลี้ยกล่อมอย่างหนักแล้วก็ตาม จากจุดนี้ผมจึงไปต่อคนเดียวจนถึงจุดสูงสุด
บนยอดเขา วิวสุดยอด
หลังจบภารกิจ พิชิตยอดเขา Arthur's Seat เรารีบลงมาทันที เพราะมันหนาวมาก ถือเป็นที่ ที่ผมชอบที่สุดใน Edinburgh เลย ใครเป็นสายธรรมชาติ ห้ามพลาด
เรานั่งรถบัสไปต่อกันที่ Calton Hill เป็นอีกหนึ่งเนินเขาที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นมาเยี่ยมชมวิวทิวทัศน์ของเมือง สามารถเดินขึ้นบันไดไปถึงได้อย่างง่ายดาย เพราะไม่ได้สูงมากนัก
เท่
ข้างบนมี National Monument of Scotland เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติ สร้างเพื่อเป็นเกียรติให้กับเหล่าทหารที่เสียชีวิตจากสงครามนโปเลียน โดยมีต้นแบบมาจากวิหาร Parthenon ในกรุง Athens แต่กลับยังสร้างไม่เสร็จจนถึงปัจจุบัน เพราะขาดงบประมาณ จึงทำให้เกิดชื่อเรียกที่หลากหลาย เช่น "Scotland's Folly"
1
สร้างไม่เสร็จ แต่สวยนะ
เนื่องจากใช้พลังงานไปเยอะ จึงหาที่แวะกินข้าวกลางวันกันก่อน โดยเจอร้าน Ramen Ramen แน่นอนว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น เราสั่งราเม็งมากินกันคนละชาม ปริมาณเยอะ และอร่อยมาก แฟนผมบอกว่าอร่อยเหมือนไปกินที่ญี่ปุ่นเลย
อากาศหนาวๆ ได้ซุปร้อนๆ คือฟิน
สภาพอากาศตอนนี้แปรปรวนมาก เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก สลับกันไปมา แบบคาดเดาไม่ได้ แต่เราก็ยังนั่งรถบัสไปต่อเพื่อดู Holyrood Palace เป็นพระราชวังของราชวงศ์อังกฤษที่ใช้เป็นที่ประทับหลักใน Scotland เราเดินเล่น และถ่ายรูปจากด้านนอกอยู่สักพัก ก่อนที่จะกลับ
1
เด็กหน้าวัง
ต่อมา เราตั้งใจจะไปที่ The Elephant House เป็นคาเฟ่ที่โด่งดัง เพราะ J.K. Rowling ใช้นั่งเขียนนิยาย แฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่ตอนเราไป เป็นช่วงที่กำลังปิดปรับปรุงอยู่ เราจึงกลับไปเดินเล่น และหาซื้อของฝากที่ถนน Royal Mile แทน ก่อนที่จะปิดทริปที่นี่ ส่วนใครที่เป็นแฟนคลับของหนังเรื่องนี้ ผมได้ยินว่ามีอีกหลายจุดในเมืองถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำด้วย
เป็นยังไงกันบ้าง สำหรับ Edinburg มีสถานที่ให้ไปเที่ยวมากมาย และยังมีธรรมชาติที่สวยงามอีกด้วย เป็นอีกเมืองที่รู้สึกประทับใจมาก สำหรับทริป UK ของเราในครั้งนี้ แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า Highlands :)
สรุปค่าใช้จ่ายหลักๆ
-ตั๋วรถไฟจาก York ไป Edinburgh
=18.6£ (800฿)/คน
-อูเบอร์ ขาไปและกลับระหว่าง Salisbury Boutique Hotel กับ สถานีรถไฟ
=12.98£ (558฿)
-ที่พัก Salisbury Boutique Hotel 1 คืน
=67.32£ (2,895฿)
ร้านอาหาร Duck&Waffle (กิน 2 คน)
=68.91£ (2,963฿)
-ร้านอาหาร Ramen Ramen (กิน 2 คน)
=39.7£ (1,707฿)
-รวมทั้งหมด = 113.06£ (4,862฿)/คน
1£ ประมาณ 43฿
เมษายน 2023

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา