5 ส.ค. 2023 เวลา 10:11 • ท่องเที่ยว
เกาะสกาย

เหนือสุด UK ดินแดนในฝัน Scottish Highlands

วันนี้เราจะออกเดินทางไปในดินแดนที่อยู่เหนือสุดบนเกาะอังกฤษ นั่นคือ Highlands เป็นสถานที่ในฝันของใครหลายคน ด้วยธรรมชาติที่สวยเกินจินตนาการ และยังมีตำนานของสัตว์ประหลาด Nessie ที่โด่งดังไปทั่วโลก
2
ลุย
เรานั่งรถไฟจากเมือง Edinburgh มาถึง Inverness ที่เป็นเมืองหลวงของ Highlands ในช่วงค่ำ โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง เราจะพักที่นี่ 1 คืน ก่อนไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้โดยทัวร์ที่จองไว้ (Rabbie's Small Group Tours) จริงๆแล้วสามารถเช่ารถขับเที่ยวด้วยตัวเองได้ แต่ครั้งนี้เราเลือกเป็นทัวร์
1
Inverness ยามค่ำคืน
หลังจากเช็คอินที่โรงแรม Ardross Glencairn เรียบร้อย ฟ้าก็มืด และท้องเริ่มหิว เราจึงออกไปเดินหาของกิน ร้านอาหารหลายร้านคนเยอะ และไม่รับลูกค้าถ้าไม่ได้จองมาก่อน สุดท้ายไปจบที่ร้าน Nar Restaurant เราสั่ง ฟิชแอนด์ชิปส์, สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า และไก่ย่าง ไม่มั่นใจว่าเจ้าของร้านเป็นคนอินเดียรึเปล่า เพราะพนักงานเป็นคนอินเดีย และอาหารในจานมีเครื่องเคียงเป็นผักหลายชนิด แต่รสชาติดี แถมให้ปริมาณเยอะ อิ่มจนแทบกลิ้งกลับโรงแรม
1
ฟิน
เช้าวันรุ่งขึ้น เราตื่นแต่เช้าเพื่อเดินไปจุดที่นัดหมายกับทัวร์ เมื่อไปถึงทางไกด์จะรออยู่ก่อนแล้ว โดยรถที่ใช้เป็นมินิบัส และมีลูกทัวร์คนอื่นด้วยประมาณ 10 กว่าคน ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งทั้งหมด แต่มีคนจีน 2 คน พอผมเห็นว่ามีคนเอเชียด้วยกัน ทำให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นมานิดนึง
1
ตลอดการเดินทางทั้งวัน ไกด์จะจอดให้เราลงไปเยี่ยมชมจุดต่างๆ ระหว่างทางไม่ต้องกลัวเหงา เพราะเค้าจะคอยให้ความรู้ มีมุขตลกสอดแทรก พูดให้เราอินกับสถานที่อยู่เสมอ ไกด์น่ารัก ยิ้มแย้มตลอด แอบเห็นว่าเค้าช่วยเก็บขยะข้างทางไปทิ้งด้วย
รถออกมาได้สักพัก วิวข้างทางเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่นั่นคือ Loch Ness ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของสัตว์ประหลาดชื่อว่า Nessie โดยเรื่องราวคร่าวๆคือ ในช่วงศตวรรษที่ 20 มีคนอ้างว่าเห็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่ทะเลสาบแห่งนี้ ทำให้เกิดเป็นข่าว และโด่งดังไปทั่วโลกในเวลาต่อมา มีผู้คนสนใจ และมาตามล่าหาตัวเจ้า Nessie เป็นจำนวนมาก แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ามันมีจริงไหม เพราะยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด
1
น้อง Nessie ไกด์บอกว่าช่วยให้เดินทางปลอดภัย
ภาพยนตร์ และการ์ตูนหลายเรื่อง ได้รับอิทธิพลโดยมี Nessie อยู่ในเนื้อหา เช่น แฮร์รี่ พอตเตอร์ และโดราเอม่อน เราอาจเคยดูผ่านตากันมาบ้าง แต่ไม่รู้ว่าจุดกำเนิดมาจากไหน ระหว่างทางที่ผ่านทะเลสาบ ผมก็คอยมองตลอด เผื่อว่ามันจะโผล่ออกมา
จุดแรก รถจอดให้เยี่ยมชม Urquhart Castle อยู่ติดกับทะเลสาบ Loch Ness นี่เป็นปราสาทโบราณตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันอยู่ในสภาพถูกทำลาย เพราะเคยถูกบุกรุกอยู่หลายครั้ง
1
จากมุมสูง
แวะข้างทางนิดหน่อย
จากนั้นเราไปต่อกันที่ Eilean Donan Castle เป็นอีกหนึ่งปราสาทที่ถูกสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เพื่อป้องกันการบุกรุกจากพวกไวกิ้งในสมัยก่อน นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วเข้าไปเยี่ยมชมข้างในได้ บริเวณทางเข้ามีร้านคาเฟ่ และร้านขายของฝาก เราจึงได้โอกาสแวะกินโดนัท (อร่อยมาก) และกาแฟ
ไม่รู้อะไรกระจายเต็มน้ำ แต่เข้ากับปราสาทมาก
ต่อมาเราแวะดู Highland cattle เป็นวัวท้องถิ่นของดินแดนแห่งนี้
ทางเข้าสวย
น้องเขายาว
รถขับต่อมาไม่นาน ก็เข้าสู่ Isle of Skye เป็นเกาะที่อยู่เหนือสุด และมีขนาดใหญ่ที่สุด ในหมู่เกาะนอกชายฝั่งตะวันตก Scotland ของบริเวณที่เรียกว่า Inner Hebrides ด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ภูเขาใหญ่สลับซับซ้อน ระหว่างทางจะเห็นผู้คนกำลังเดินเทรล เทรคกิ้ง หรือปีนเขา ในหลายๆจุด ถือเป็นเส้นทางที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาในชีวิต
1
วิวภูเขาน้ำแข็ง สุดยอด
สถานที่แรกบนเกาะคือ Sligachan Old Bridge เป็นสะพานเก่า ถูกสร้างในช่วงศตวรรษที่ 19 สำหรับคนเดินเท้า และปั่นจักรยานเท่านั้น วิวโดยรอบเป็นภูเขาใหญ่หลายลูก และมีลำธารเล็กๆอยู่ ตรงนี้มีตำนานเล่าขาน ผมจำเรื่องราวไม่ได้ ความเชื่อคือถ้าเอาหัวจุ่มลงไปในน้ำจะทำให้สวยตลอดกาล (แต่ไม่เห็นใครทำนะ)
สดชื่น
เวลาล่วงเลยมาจนเกือบเที่ยง รถขับเข้าสู่ตัวเมือง Portree เป็นเมืองหลวงของ Isle of Skye ทัวร์จะแวะให้เรากินอาหารกลางวันประมาณ 1 ชั่วโมง ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง มีร้านค้า และร้านอาหารมากมาย หลายคนที่เดินทางมาเที่ยวด้วยตัวเอง มักนอนค้างในเมืองนี้
ร้านน่ารัก
เราไปสะดุดตากับร้านอาหารที่ลูกค้าเยอะมากชื่อว่า The Chippy เป็นร้านเล็กๆที่ขาย ฟิชแอนด์ชิปส์ เราสั่งมากินกันคนละจาน แม้รอคิวนานประมาณครึ่งชั่วโมง แต่คุ้มค่า เพราะโคตรอร่อย ปลาสดมาก สมกับเป็นของทะเลจากเกาะ
1
เดอะเบสท์ ฟิชแอนด์ชิปส์
พอกินเสร็จ เราเหลือเวลาไม่มากก่อนรถออก เราจึงไปถ่ายรูปกับบ้านสีใกล้ๆท่าเรือ ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของเมือง
น่ารักนะ
ช่วงบ่ายจะเป็นการท่องเที่ยวรอบๆ Trotternish Peninsula เป็นคาบสมุทรทางตอนเหนือสุดของ Isle of Skye แต่ออกจากเมืองมาได้สักพัก หายนะก็เกิดขึ้นเพราะฝนตกหนัก เราจึงไม่ได้ลงในหลายจุดตามแพลน นี่สินะที่เรียกว่าไม่ได้พกดวงมาด้วย มีจังหวะที่ฝนเบาลงบ้าง ถึงได้แวะแบบต้องกางร่มลงไป
เละ
เรามากันที่จุดชมวิวทะเลสาบจากด้านบน แต่ผมดันจำชื่อสถานที่ไม่ได้ จุดเด่นคือชายหาดเป็นสีดำ มองออกไปเป็นทะเลสาบกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ขนาดฝนตกมีหมอกลง มองไม่ค่อยเห็นอะไรมากยังโคตรสวย ไม่อยากจินตนาการว่าถ้าอากาศดีๆจะสวยกว่านี้ขนาดไหน
ข้อควรระวังสำหรับคนมาเดินตอนฝนตก พื้นเป็นโคลนลื่นมาก มีฝรั่งลื่นเละไปทั้งตัวเลย ทั้งสงสาร ทั้งขำ ขอโทษครับ
ผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง
จุดหลักๆสุดท้ายที่ได้แวะคือ The Quiraing รถต้องขับขึ้นไปบนเนินเขา ทางน่ากลัวพอสมควร ที่นี่มีเส้นทางสำหรับการเดินเทรลอยู่ เรากางร่มลงไปเดินเล่นรอบๆ บอกได้เลยว่า ธรรมชาติสุดยอด โคตรสวย เสียดายที่ฝนตก เราจึงไม่ได้เห็น The Quiraing ในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด แต่แค่นี้ก็ดีมากแล้ว
1
แอ่งน้ำเหมือนรูปหัวใจ
Isle of Skye ยังมีอีกหลายจุดที่ถือเป็นไฮไลท์ อย่างเช่น The Old Man of Storr ไกด์ชี้ให้ดูจากระยะไกล เป็นกลุ่มหินยอดแหลมที่มีชื่อเสียง และถูกใช้เป็นที่ถ่ายหนังหลายเรื่อง แม้เราจะพลาดไปในครั้งนี้ แต่โดยรวมถือว่าประทับใจ โดยเฉพาะธรรมชาติ เรียกได้ว่าสวยระดับเวิลด์คลาสจริงๆ ถ้ามีโอกาส ผมจะกลับไปอีกครั้งแน่นอน
รถกลับมาถึง Inverness ในช่วงเย็น จากนั้นเราไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้กับโรงแรม ก่อนเตรียมตัวออกเดินทางกลับไปเที่ยวต่อใน London
Bye Scotland ^^
สรุปค่าใช้จ่ายหลักๆ
-ตั๋วรถไฟจาก Edinburgh ไป Inverness
=13.81£ (594฿)/คน
-อูเบอร์ ขาไปและกลับระหว่าง Ardross Glencairn กับ สถานีรถไฟ
=11.9£ (512฿)
-ที่พัก Ardross Glencairn 1 คืน
=63.3£ (2,722฿)
ร้านอาหาร Nar Restaurant (กิน 2 คน)
=46.8£ (2,012฿)
-Eilean Donan Coffee (กิน 2 คน)
=6.6£ (284฿)
-ร้านอาหาร The Chippy (กิน 2 คน)
=20.2£ (869฿)
-ทัวร์ Highlands
=74.42£ (3,200฿)/คน
1
-รวมทั้งหมด = 162.63£ (6,994฿)/คน
1£ ประมาณ 43฿
เมษายน 2023

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา