The Murderer (2023) - เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ
กำกับโดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง
ระหว่างที่ Oppenheimer และ Barbie กำลังฉายชนกัน ก็มีหนังไทยเรื่อง "The Murderer... เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ" ขึ้นมาฉายบน Netflix
หากดูจากโปรไฟล์ของผู้กำกับ ต้องบอกว่า "ไม่ธรรมดา" เพราะ คุณวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง เป็นผู้กำกับมือทองที่เคยสร้างชื่อเสียงในเวทีนานาชาติอย่างการพาเรื่อง "ฟ้าทะลายโจร" เข้าฉายในเมืองคานส์ได้เป็นครั้งแรก ตามมาด้วยเรื่อง "หมานคร" แถม "เปนชู้กับผี" ที่คุณวิศิษฏ์กำกับ ก็เป็นหนังผีคุณภาพที่แฟนหนังไทยประทับใจ
มาถึง The Murderer ส่วนตัวรู้สึก "ประทับใจ" เช่นกัน จนต้องขอแปะรีวิวไว้สักหน่อย
[ เรื่องย่อ ]
เกิดคดีฆาตกรรมประหลาด พบคนเสียชีวิตหลายศพ ขณะที่ "ฝรั่ง" (James Laver) ตกเป็นผู้ต้องหา ร้อนถึง "ณวัฒน์" (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) สารวัตรสอบสวนต้องเข้ามาสืบหาความจริงในคดีนี้
[ ความรู้สึกหลังชม ]
- อันดับแรก อยากเกริ่นถึง "สไตล์และภาพยนตร์"
รู้สึกดีใจที่ได้เห็นสไตล์อันโดดเด่นของคุณวิศิษฏ์อีกครั้ง พาให้นึกถึงงานเก่าอย่าง "ฟ้าทะลายโจร" และ "หมานคร" เช่น เฉดสีในเรื่อง การตัดต่อ ความเซอร์เรียล ความจิกกัด ซึ่งเป็นลายเซ็นต์ของคุณวิศิษฎ์ชัดเจน
- The Murderer มาในมาดหนัง Whodunit แบบไทย ๆ โดยเปิดเรื่องด้วยคดีฆาตกรรมปริศนา แล้วค่อย ๆ เผยความจริงจากการสืบพยาน
ทีมผู้สร้างผูกประเด็นต่าง ๆ ได้ค่อนข้างดี ที่สำคัญ การผูกอารมณ์ขันเข้ากับโครงเรื่อง ทำได้ดีมาก แม้จะไม่ได้ตลกขำกลิ้งอย่างหนังตลก (Comedy) แต่เป็นหนังที่รวยอารมณ์ขันพิลึกพิลั่น (Humor / Dark Humor) สร้างสรรค์ มีความเป็นสากล
(นึกถึงอารมณ์ขันแบบ Wes Anderson ผสมกับความ "อิหยังวะ")
- ประเด็นหลักของหนัง พูดเกี่ยวกับเรื่อง "อคติของคน" เช่น อคติของคนอีสานมีต่อชาวต่างชาติ (ฝรั่ง) หรืออคติที่ฝรั่งมองเข้ามาในสังคม ส่งผลให้เกิดความไม่ไว้ใจกัน และสร้าง "แพะ" ในคดีฆาตกรรมขึ้นมา
นอกจากนี้ ยังมีการเสียดสีการเมือง บริบทในสังคมไทยกลาย ๆ ด้วยความขบขันจากความเหนือจริงของสถานการณ์ Symbol และประเด็นต่าง ๆ (เช่น ความกลัวฝรั่งเกินเหตุของคนไทย / มุกถุงดำคลุมหัว)
นี่จึงเป็นหนังไทยที่มีบทน่าสนใจ ไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ ที่หนังไทยจะเล่นกับความ "ทีเล่นทีจริง" ได้ดีแบบนี้
แค่เสื้อของสารวัตรก็จิกกัดแล้ว
- งานภาพถือว่าน่าประทับใจ ทั้งในส่วนมุมกล้อง การจัดแสง และการเกรดดิ้งสี โดยรวมทำได้สวยงาม ฉูดฉาดมีเอกลักษณ์ ที่ประทับใจเป็นพิเศษ คือ การใช้โทนสีเวลาเล่าถึงจินตนาการของสารวัตร ฉูดฉาด เซอร์เรียลมาก
ส่วนด้านการตัดต่อ ตรงนี้ก็น่าประทับใจ การตัดต่อย้อนไปมาระหว่างปัจจุบันกับอดีต ทำได้ชัดเจน ไม่สับสน
- พาร์ทนักแสดง รู้สึกชอบ "James Laver" ผู้รับบทฝรั่งผู้ต้องหา แสดงได้โดดเด่น ขณะที่ "อุ้ม อิษยา" ผู้รับบท "ทราย" ภรรยาของฝรั่ง ก็แสดงได้ดีเช่นกัน แต่ไม่มั่นใจว่าสำเนียงอีสานเนียนมากแค่ไหนกับสำเนียงจริง
- ฉากหักมุมในช่วงท้ายเรื่อง ทำได้หักมุมเกินคาด แสดงถึงกึ๋นของผู้กำกับและทีมเขียนบท... ดูแล้วน่าจับมาทำภาคต่อหรือหนังสปินออฟอยู่เหมือนกัน
ส่วนอีกฉากที่ชอบ ขอยกให้ฉาก "De-aging ลดอายุของสารวัตร" ฮาจริง ล้อเลียนหนังฮอลลีวู้ดได้สุด ๆ 😂
- ดนตรีประกอบแปลกหู มาในสไตล์อีสาน ผสมกับความ thriller ลึกลับ ๆ
- ข้อเสียก็มี เช่น ความทีเล่นทีจริงในเรื่องที่อาจทำให้หนังมีความไม่สุดในบางเวลา รวมไปถึงโทนและกลิ่นอายภาพยนตร์แบบนี้ไม่ใช่สไตล์ที่ทุกคนชอบ หนังมีรสที่แปลกพอสมควร
[ สรุป ]
แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่เป็นหนังไทยที่สอบผ่านและจัดว่า "ชอบ" ในปีนี้ ชอบในความแปลก ความสร้างสรรค์ อารมณ์ขันชวนหัว
ว่าไปแล้ว ก็น่าเอาไปส่งแข่งในเวทีเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศ เพราะลูกเล่นที่หนังแสดงออกมา ถือว่า โดดเด่นน่าจับตามอง
ใครสนใจดูได้บน Netflix!
ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพูดคุยติดต่อ
IG: benjireview
- 11
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
