1 ส.ค. 2023 เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์

ลีโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo da Vinci) ศิลปินอัจฉริยะ

ลีโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo da Vinci) ถูกนับว่าเป็นอัจฉริยะบุคคลที่มีความสามารถหลากหลาย เป็นทั้ง สถาปนิกแบบเรอเนสซองส์ นักดนตรี นักกายวิภาค นักประดิษฐ์ วิศวกร ประติมากร นักเรขาคณิต ดาวินชีมีงานศิลปะหลากหลายชิ้นที่มีชื่อเสียง เช่น พระกระยาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู และ โมนาลิซ่า
งานของ ดาวินชี ยังได้สร้างคุณประโยชน์กับวิชากายวิภาคศาสตร์ ดาราศาสตร์ รวมถึงงานวิศวกรรมโยธา ด้วยถึงอาวุธที่ใช้ในการส่งคราม ด้วยความที่เป็นบุคคลที่มีจิตวิญญาณแห่งการเรียนรู้รักในหลากหลายศาสตร์หลายแขนง ดาวินชี ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าสหวิทยาการในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ และกลายเป็นบุคคลสำคัญของยุค
ภาพโมนาลิซ่า (Mona Lisa)
ลีโอนาร์โด ดาวินชี เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 15 เมษายน 1452 ที่เมืองวินชี ไม่ไกลจากกรุงฟลอเรนซ์ ในแคว้นทัสคานี ตอนเหนือของอิตาลี เป็นลูกนอกสมรสของผู้ตรวจสอบเอกสารทางกฏหมายชื่อ เชร์ ปิเอโร ดี อันโทนีโอ (Ser Piero Di Antonio) กับหญิงชาวนานามคาเทรีนา (Caterina)
ชื่อเต็มยศของ ดาวินชี คือ ลีโอนาร์โด ดี เซร์ ปิเอโร ดาวินชี แปลว่าคุณสิงห์ ลูกนายปิเอโร จากเมืองดาวินชี เล่ากันว่า ไม่กี่เดือนหลังจากที่ลีโอนาร์โด ดาวินชีเกิด เซร์ ปีเอโร ได้แต่งงานกับ อัลบิเอรา อามาโดรี(Albiera Amadori) หญิงชนชั้นสูง สถานะคู่ควรกับตระกูลข้าราชการเก่าแก่ของ เซร์ ปิเอโร และคาเทรีนา มารดาของดาวินชีก็แต่งงานไปกับชายชาวนาละแวกบ้านแถวนั้น
เมื่อลีโอนาร์โด ดาวินชีอายุได้ 5 ขวบ พ่อของเขาก็ได้นำตัวไปอยู่ด้วย ให้แม่เลี้ยงซึ่งในตอนนั้นยังไม่มีลูกของตัวเองได้เลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม แต่ในที่สุดแล้วทั้งพ่อและแม่ของดาวินชีต่างก็มีลูกกับคนรักของตัวเอง ในเวลาต่อมา ลีโอนาร์โด ดาวินชีก็มีพี่น้องต่างบิดามารดาถึง 17 คน ดาวินชีเกิดกลางสมัยที่นักประวัติศาสตร์เรียกว่ายุคเรอเนสซองซ์(Reneaissance) หรือที่เราเรียกกันว่า “ยุคฟื้นฟู” เป็นช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองในด้านวิทยาการและศิลปวัฒนธรรม
2
กรุงฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
ซึ่งในอิตาลีเป็นยุคที่ผู้มีปัญญาทั้งหลายหวนหลับศึกษาภูมิปัญญายุคคลาสสิกของกรีกและโรมันเพื่อต่อยอดความเป็นเลิศของมนุษย์ให้ถึงขีดสุด จนเกิดเป็นแนวความคิด “มนุษย์นิยม”หรือฮิวแมนนิสม์(Humanism) เหล่าปัญญาชนฮิวเมนนิสม์มุ่งมั่นศึกษาตำรับตำราโรมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากปรมาจารย์กรีกอย่างเพลโตและอริสโตเติลเป็นหลัก ซึ่งลูกของคนที่มีฐานะจะต้องเรียนภาษาละติน และถ้าชั้นสูงขึ้นไปอีกก็เรียนภาษากรีก
เมื่อพ่อของดาวินชีหาครูหรือบาทหลวงมาสอนภาษา ดาวินชีกลับไม่สนใจ แต่หันไปสนใจค้นหา “ความจริง” จากธรรมชาติรอบตัว เขาจะคอยจดตำนาน เรื่องเล่า สุภาษิต ความเชื่อ คำพีงเพย และภูมิปัญญาชาวบ้านเก็บไว้
ดาวินชีใช้เวลานานๆทุกวันอยู่กับธรรมชาติรอบบ้านเกิด วินชีเป็นเมืองเล็กข้างเขาที่แทบจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยตลอด 5 ศตวรรษครึ่งที่ผ่านมา เป็นเมืองชนบท
บ้านสร้างด้วยหินเรียงต่อเป็นก้อนๆล้อมรอบไปด้วยไร่นาอุดมสมบูรณ์ ตามเนินเขาที่ดอนก็เต็มไปด้วยสวนองุ่น สวนผลไม้ และมีดงต้นมะกอกที่มีหลังใบสีเงินขึ้นกระจัดกระจายไปทั่ว มีเขาอัลบาโนตั้งตระหง่านอยู่ใกล้ๆ เป็นต้นน้ำของลำธารหลายสายที่ไหลผ่านเมืองวินชีสู่หุบลุ่มน้ำอาร์โน
เพลโต นักปรัชญาชาวกรีก
พรสวรรค์ในทางศิลปะของดาวินชีนั้น ได้แสดงออกตั้งแต่เขายังอยู่ในวัยเด็ก ในปี ค.ศ. 1469 เขาได้ไปฝึกงานกับ อังเดรย์ เวอรอคซิโอ ซึ่งเป็นศิลปินเอกในสมัยนั้น ณ ที่นั้นเอง ดาวินชี ได้ฝึกฝนและเพิ่มความเก่งกาจเชี่ยวชาญในงานต่างๆ เขาฝึกงานที่นั้น จนถึงปี ค.ศ. 1476 และได้เข้าร่วมเป็น สมาชิกของสมาคมจิตรกรในปี ค.ศ.1472 ผลงานต่างๆที่ตกทอดทาสู่สายตา ของคนรุ่นหลังก็ได้เริ่มจากจุดนี้
ในปีค.ศ. 1478 ดาวินชีได้รับมอบหมายให้เป็นผู้วาดภาพให้กับ พาลาสโซ เวคชีโอ ในเมืองฟลอเรนซ์ เป็นภาพการนำของมาถวายแด่พระกุมาร โดยนักปราชญ์ทั้งสาม จากทิศบูรพา แต่งานนี้ได้หยุดชะงักไป เพราะลีโอนาร์โดได้ตัดสินใจออกจากฟลอเลนซ์ เพื่อไปที่มิลาน เมื่อปี ค.ศ. 1482
ภาพสเก็ตช์ที่เชื่อว่าเป็นภาพ ลีโอนาร์โด ดาวินชี วาดตัวเอง คาดว่าวาดช่วงราวปีค.ศ. 1510-1515
ดาวินชีได้ไปทำงานให้กับ ดยุ๊ค โลโดวิโก สฟอร์ซา ซึ่งในตอนที่ลีโอนาร์โดก็มีอายุได้ 18 ปี ถึงแม้ว่าเขาต้องทำงานให้กับราชสำนัก ด้วยการเขียนภาพเหมือน การจัดงานแสดง รวมทั้งสร้างรูปจำลองต่างๆ แต่ ดาวินชีก็ยังทุ่มเทให้กับงานศิลปะในด้านอื่นๆ เขาได้เพิ่มพูนความรู้ทางด้านกลศาสตร์ให้กับตนเอง โดยการทำงานเป็นวิศกรให้กับฝ่ายพลเรือน และฝ่ายทหาร จากนั้นเริ่มศึกษาค้นคว้าทางด้านวิทยาศาสตร์ โดยเน้นไปที่ด้าน กายวิภาค ชีววิทยา คณิตศาสตร์ และฟิสิกข์
สิกข์ แม้ว่าลีโอนาร์โดจะให้ความสนใจในหลากหลายสิ่งหลายอย่างก็ตาม ก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดงานเขียนชิ้นสำคัญ นั้นก็คือ การเขียนภาพ “พระกระยาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู”(The Last Supper) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังก้องโลก
เมื่อมิลานตกเป็นของฝรั่งเศส ในปี ค.ศ.1499 ดาวินชีได้ออกจากมิลานเพื่อไปหางานทำที่อื่น โดยเริ่มที่เมืองมองทัวส์ และเมืองเวนิส แต่ใช้ชีวิตอยู่ในแต่ละที่ได้ไม่นานนัก ก็กลับไปที่เมืองฟลอเรนซ์อีก โดยทำงานเป็นคนเขียนแผนที่ และเป็นวิศวกรทหารให้กับ ซีสาร์ บอร์จีอา
พระแม่มารีและพระบุตรกับนักบุญทั้งห้าและทูตสวรรค์สององค์
และในปี ค.ศ.1503 ดาวินชีได้สร้างผลงานศิลปะที่สำคัญๆเอาไว้มากมาย ตัวอย่างเช่น ภาพเขียนบนฝาผนังในเรื่องของสงคราม(Battle of Anghiari) ซึ่งได้เขียนติดไว้ที่ห้องโถงของสภาในตัวเมือง รูปโมนาลิซ่า(Portrait of Mona Lisa)ที่โด่งดัง และภาพของการหายไปของเลด้าและหงส์(Lost Leda and The Swan)
ในช่วงเวลานี้ดาวินชีได้ให้ความสนใจกับการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์มากขึ้น โดยทุ่มเทการค้นคว้าในเรื่องของกายวิภาคอย่างหนัก จนถึงขนาดยอมผ่าตัดเอาอวัยวะจริงมาศึกษา
ในปี ค.ศ. 1513 ดาวินชีได้ติดตามพี่ชายของพระสันตะปาปาลีโดที่ 10 ที่ชื่อว่า จียู ลิอาโน เดอ เมดีซีเพื่อไปที่กรุงโรม และใช้เวลาที่นั้นถึง 3 ปี หมกหมุ่นกับการค้นคว้าทางทฤษฏีมากขึ้น
ภาพวาด The Last Supper อาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู
ในปี ค.ศ. 1516-1517 เขาได้ออกจากอิตาลีไปโดยไม่ได้กลับมาอีก เขาไปทำงานให้กับกษัตริย์ ฟรังซิลที่ 1 แห่งฝรั่งเศสในตำแหน่งที่ปรีกษาทางสถาปัตยกรรม
แล้วในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1519 ลิโอนาร์โด ดาวินชีก็ได้เสียชีวิตที่ประเทศฝรั่งเศสรวมอายุได้ 67 ปี
เป็นการรีโพสนะครับ
ฝากกดถูกใจ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
Reference ลีโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo da Vinci) :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา