2 ส.ค. 2023 เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์

ฟรานซิส เดรก ( Francis Drake ) วีรบุรุษโจรสลัด

เซอร์ ฟรานซิส เดรค กัปตันเรือ นักเดินเรือ และนักสำรวจชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียง มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ยุคแห่งการสำรวจในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 เดรค เกิดราวปี ค.ศ.1540 ในเมืองเดวอน ประเทศอังกฤษ และเติบโตขึ้นมาจนกลายเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในยุคนั้น เรียงความห้าหน้านี้เจาะลึกชีวิตและความสำเร็จของ Francis Drake สำรวจช่วงปีแรก ๆ การเดินทางของเขา และผลกระทบของเขาต่อโลก
ปีแรกและการสำรวจในช่วงต้น
ฟรานซิส เดรก ( Francis Drake ) เติบโตในครอบครัวกะลาสีเรือ ซึ่งเป็นรากฐานสำหรับอาชีพในอนาคตของเขาในฐานะนักสำรวจ เขาเริ่มการผจญภัยทางทะเลตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเข้าร่วมการเดินทางค้าขายตามชายฝั่งระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส เชื่อกันว่าเขากลายเป็นลูกศิษย์ของลูกพี่ลูกน้อง เซอร์จอห์น ฮอว์กินส์ พ่อค้าทาสคนสำคัญและผู้บัญชาการทหารเรือ
ยุคสมัยของการล่าอาณานิคม การค้าทาสเติบโตพอๆกับการค้าเครื่องเทศและทองคำ เดรก คงไม่มีโอกาสดีอะไรที่จะสามารถเข้าสู่พระราชสำนักเพื่อเสนอตัวเดินทางไปสำรวจโลกอย่างนักเดินทางก่อนหน้านั้น หากแต่การมีเรือเพื่อทำการค้าทาสก็เป็นช่องทางที่น่าจะสามารถทำผลประโยชน์ให้เขาอยู่ไม่น้อย ว่ากันว่าช่วงชีวิตเวลานั้นของเขาดูราบรี่นไม่น้อยฐานะทางบ้านก็เริ่มจะดีขึ้นตามลำดับ
เซอร์จอห์น ฮอว์กินส์ (ซ้าย) กับเซอร์ฟรานซิส เดรก (กลาง) และเซอร์โธมัส คาเวนดิช
แต่แล้วชีวิตก็ถึงจุดเปลี่ยน เดรก พากองเรือค้าทาสไปที่ทะเลแคริบเบียนและแอฟริกาตะวันตก ที่ซึ่งเขาได้รับทักษะการเดินเรือและประสบการณ์อันทรงคุณค่า ในปี ค.ศ. 1567 เขาเข้าร่วมการเดินทางครั้งสำคัญครั้งแรก นำโดยฮอว์กินส์ ลูกพี่ลูกน้องของเขา อย่างไรก็ตาม การเดินทางต้องพังทลายจากหายนะเมื่อพวกเขาถูกมรสุมพัดผ่านทำให้กองเรือได้รับความเสียหายอย่างมากทำให้ต้องหาที่เทียบท่าสำหรับซ่อมเรือ
แต่ปัญหาคือที่จะเทียบท่าคือประเทศเม็กซิโก เป็นอาณานิคมของสเปน ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของอังกฤษ ทำให้ถูกกองกำลังสเปนโจมตีในซานฮวน เด อูลูอา ประเทศเม็กซิโก เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อ เดรก จุดชนวนความเกลียดชังต่อชาวสเปนมาตลอดชีวิตและกระตุ้นให้เขาหาทางล้างแค้น
จะขออธิบายความขัดแย้งระหว่างอังกฤษกับสเปนก่อน กล่าวคือ พระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษกับสเปนที่มีพระเจ้าฟิลิปที่ 2 ในเวลานั้น เริ่มเกิดเรื่องมาจากปัญหาการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบทะเลแคริบเบียน เรื่องมีอยู่ว่าในปี ค.ศ.1562 จอห์น ฮอว์กินส์ (John Hawkins) ล่องเรือค้าทาสและสินค้าต้องห้ามเข้าจากแอฟริกาตะวันตกไปยังเฮติ ฮอว์กินส์ผ่านด่านตรวจสินค้าของสเปนด้วยการติดสินบนเจ้าหน้าที่
ภาพวาดเหตุการณ์ท่าเรือซานฮวน เด อูลูอา ของ จอห์น ฮอว์กินส์
แต่ในครั้งที่ 2 ฮอว์กินส์กลับทำแบบเดิม แต่ไม่เป็นผล ปรากฏว่าเมื่อเรือใกล้ถึงที่หมายเรือสินค้าของฮอว์กินส์ก็ถูกเรือรบของสเปนขับไล่และจมเรือสินค้าของฮอว์กินส์ไปหลายลำ ซึ่งสเปนกล่าวหาว่าเรือของฮอว์กินส์เป็นโจรสลัด แต่ผู้ที่เป็นคนสนับสนุนการเดินเรือของฮอว์กินส์คือพระนางเจ้าอลิซาเบธที่1 ผลที่เกิดขึ้นทำให้พระนางเจ้าอลิซาเบธเกิดความแค้นลอบเข้าช่วยชาวดัตช์ในการกบฏต่อสเปนอย่างลับๆ(ดัตช์ในเวลานั้นรวมเป็นส่วนนึงของสเปน)
หนำซ้ำในปี ค.ศ.1568 เมื่อเรือขนทองของสเปนหลบหนีเรือไล่ล่าของดัตช์ เข้ามาจอดเทียบท่าเรือของอังกฤษอลิซาเบธก็ได้สั่งยึดเอาไว้ทั้งหมด ดังนั้นทำให้สเปนต้องตอบโต้โดยการสั่งห้ามไม่ให้เรือสินค้าของอังกฤษเข้าไปยังเนเธอร์แลนหรือดัตช์ และอังกฤษก็ตอบโต้โดยการยึดทรัพย์ของสเปนในอังกฤษทั้งหมด ในช่วงเวลานั้นแม้ทั้งสองจะตึงเครียดกันเท่าไร่แต่ก็ยังไม่ได้ถึงขั้นประกาศสงครามกัน
ปีที่ฟรานซิส เดรค ต้องแล่นเรือเข้าเทียบท่าที่ซานฮวน เด อูลูอา (เมืองเวราครูซ)เป็นปีที่อังกฤษกับสเปนกำลังตึงเครียดกัน เมื่อเรือเทียบท่าทำให้ทหารของสเปนเข้าโจมตีเรือของเดรก พร้อมกับความสูญเสียที่ไม่อาจเรียกคืนมาได้ของบรรดาลูกเรือทำให้ฟรานซิส เดรก เกิดความโกรธอย่างหนักถึงกับประกาศว่า
ข้าจะทำทุกอย่างให้สเปนต้องพินาศ
ฟรานซิส เดรค
ภาพวาด เดรค เข้าเทียบท่าที่ซานฮวน เด อูลูอา (เมืองเวราครูซ)
การเวียนรอบโลก
หนึ่งในความสำเร็จที่โด่งดังที่สุดในอาชีพการงานของ ฟรานซิส เดรก คือการเดินเรือรอบโลก ในปี ค.ศ. 1577 เขาออกเดินทางอย่างกล้าหาญด้วยกองเรือ 5 ลำ รวมทั้งเรือธงของเขา Golden Hind เป้าหมายหลักของการเดินทางคือการสำรวจดินแดนที่ไม่จดแผนที่ โจมตีอาณานิคมของสเปน และปล้นทรัพย์สมบัติของพวกเขา
การเดินทางของ เดรก พาเขาไปตามชายฝั่งของอเมริกาใต้ ที่ซึ่งเขาได้ยึดสมบัติล้ำค่าของสเปนและท่องไปในน่านน้ำที่อันตราย เขากลายเป็นชาวอังกฤษคนแรกที่ไปถึงมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากประสบความสำเร็จในการหาทางเดินที่เรียกว่าช่องแคบมาเจลลัน บริเวณปลายสุดทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาใต้ เดรก และทีมงานของเขาต้องอดทนต่อความท้าทายอันยิ่งใหญ่ระหว่างที่พวกเขาข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก เผชิญกับพายุและการขาดแคลนอาหารและน้ำ
แผนที่การเดินทางครั้งใหญ่ของ เดรก ในปี ค.ศ.1585 โดย โจวานนี่ บัตติสต้า โบอาซิโอ (Giovanni Battista Boazio)
ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ.1580 เรือ Golden Hind ของเขาก็มาถึงท่าเรือเมืองพลีมัธ ประกาศให้โลกได้รู้ว่าเขาคือชายคนแรกที่เดินทางได้รอบโลกเต็มคือออกจากท่าแล้วกลับมาถึงด้วยตัวเองแตกต่างจากมาเจลแลนที่กลับมาเพียงเรือเท่านั้น การกลับมาครั้งนี้ เดรก นำทรัพย์สมบัติกลับมาถวายพระนางเจ้าอลิซาเบธจำนวนมาก พร้อมกันเขาก็ได้รับการตอบแทนโดยการแต่งตั้งให้เป็นท่านเซอร์ในอีก 1 ปีต่อมา
การจู่โจมยึดครองของสเปนและความพ่ายแพ้ของกองเรือสเปน
ความห้าวหาญของ เดรก ทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษของชาติในอังกฤษและทำให้กษัตริย์ฟิลิปที่ 2 แห่งสเปนเดือดดาล และเริ่มดำเนินการตอบโต้ กษัตริย์ฟิลิปได้เปิดตัวกองเรือสเปนในปี ค.ศ. 1588 เพื่อรุกรานอังกฤษและกำจัดภัยคุกคามจากอังกฤษ เดรก มีบทบาทสำคัญในการป้องกันอังกฤษจากกองเรือ Armada เป็นผู้บังคับบัญชากองเรือ เรือปืนที่ทรงประสิทธิภาพกว่าของอังกฤษแสดงฤทธิ์ครั้งนั้นอย่างได้ผล จนกระทั่งกองเรือสเปนต้องถอยร่นออกไปเผชิญหน้ากับพายุขนาดใหญ่ที่ก่อตัวรออยู่พอดี จนกองเรืออาร์มาดาถูกทำลายย่อยยับในการยุทธ์นาน 7 วัน
เอลิซาเบธที่ 1 และกองเรือสเปน ภาพวาดโดย นิโคลัส ฮิลเลียร์ด (Nicholas Hilliard) ภาพที่มีองค์ประกอบสำคัญของเรื่องยุทธการ Armada และการต่อสู้ทางทะเลที่ Gravelines
มีบันทึกเอาไว้ว่า เซอร์ ฟรานซิส เดรก มั่นใจในประสิทธิ์ภาพของเรือปืนอังกฤษมากในสงครามครั้งนั้น ถึงขนาดที่ระหว่างบัญชาการรบ เขากับนายทหารอังกฤษขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือและลงมือเล่นโยนโบว์ลิ้งกันอย่างใจเย็นทุกวันจนการศึกเสร็จสิ้น ชัยชนะเป็นของอังกฤษ และหมายถึงเป็นชัยชนะของพวกดัตช์ในฮอลแลนด์ด้วย
ผลกระทบ
หลังจากเสด็จกลับอังกฤษอย่างมีชัย สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ทรงแต่งตั้งฟรานซิส เดรกเป็นอัศวินบนเรือ Golden Hind โดยทรงตระหนักถึงคุณูปการของเดรกที่มีต่อความเจริญรุ่งเรืองและการป้องกันของอังกฤษ การเดินเรือที่ประสบความสำเร็จและบทบาทของเขาในการเอาชนะกองเรือสเปนทำให้สถานะของเขาเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจในประวัติศาสตร์ในฐานะหนึ่งในวีรบุรุษทางเรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอังกฤษ
ภาพวาดพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 1 ทรงแต่งตั้ง ฟรานซิส เดรก เป็นอัศวินบนดาดฟ้าเรือ Golden Hind เมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ.1581
การเดินทางของ เดรก ยังส่งผลกระทบที่กว้างไกลเกินกว่าชายฝั่งของอังกฤษ การเดินเรือของเขาให้ข้อมูลทางภูมิศาสตร์และการเดินเรืออันมีค่า ซึ่งมีส่วนสนับสนุนความก้าวหน้าของวิชาแผนที่และความรู้ด้านการเดินเรือ นอกจากนี้ การเดินทางและการโจมตีอาณานิคมของสเปนของเขายังเพิ่มความตึงเครียดระหว่างอังกฤษและสเปน ทำให้เกิดความขัดแย้งในโลกใหม่มากขึ้น
กล่าวโดยสรุป ชีวิตของ Sir Francis Drake ถูกทำเครื่องหมายด้วยการห้าวหาญที่กล้าหาญ ความสำเร็จที่สำคัญ และผลกระทบที่ยั่งยืนในยุคแห่งการสำรวจและการเปลี่ยนแปลงทางอำนาจของยุโรป มรดกของเขาในฐานะนักสำรวจผู้กล้าหาญ ผู้บัญชาการทหารเรือ และวีรบุรุษของชาติยังคงมีอิทธิพลมาจนถึงทุกวันนี้ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์
สามารถอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 1 ได้ที่ลิ้งด้านล่าง
ฝากกดถูกใจ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
Reference ฟรานซิส เดรก ( Francis Drake ) :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา