1 ส.ค. 2023 เวลา 13:54 • ท่องเที่ยว
ภูเก็ต

“เที่ยวด้วย ได้เงินด้วย” จากการเป็น Digital Nomad | EP.1

คนเร่ร่อนยุคดิจิตอล ที่ทำงานออนไลน์และท่องเที่ยวไปด้วยทั่วโลก
สวัสดีทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความแรกในเพจ sMo Nomad นะคะ ก่อนจะมาแชร์ประสบการณ์การเป็น “Digital Nomad” หรือ “คนเร่ร่อนยุคดิจิทัล” ขอแนะนำตัวเองคร่าวๆและพาไปรู้จักคำว่า “Digital Nomad” กันก่อนนะคะ
ภาพถ่ายที่ประเทศจอร์เจีย
ชื่อ โม นะคะ เจ้าของเพจและยูทูปช่อง sMo Nomad (สโม โนแมด) เพิ่งอายุครบ 30 ปีเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำงานออนไลน์มาตั้งแต่ปลายปี 2018 แต่เพิ่งได้ลองใช้ชีวิตแบบ Digital Nomad (โดยไม่ได้ตั้งใจ) ตอนประมาณปลายปี 2019 (ก่อนโควิดไม่นาน) จนติดใจและใช้ชีวิตแบบนี้มาเรื่อยๆจนผ่านมาเกือบๆ 4 ปีแล้ว
ได้ลองใช้ชีวิตมาหลายเมือง หลายประเทศ เจอเพื่อนๆชาว Digital Nomad จากทั่วโลก และลองทำงานออนไลน์หลายๆอย่างมา ซึ่งในเพจนี้ โมจะมาเขียนเล่าประสบการณ์ส่วนตัวและแนะนำแนวทางสำหรับคนที่สนใจหรือใฝ่ฝันที่จะทำงานออนไลน์แล้วเดินทางท่องเที่ยวไปด้วยทั่วโลกนะคะ
1
ภาพถ่ายที่ประเทศจอร์เจีย
คำว่า “Digital Nomad” อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูนักสำหรับคนไทย แต่เป็นเทรนด์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ โดยคำๆนี้เป็นการผสมกันระหว่างคำว่า Digital หมายถึง เทคโนโลยีดิจิตอล และ Nomad หมายถึง คนเร่ร่อนที่ใช้ชีวิตพเนจรไปตามสถานที่ต่างๆและไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ใช้เรียกชนกลุ่มต่างๆที่มักจะย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆตามแหล่งอาหารในสมัยก่อน
ภาพจาก matadornetwork.com
แต่ในยุค Digital ที่ผู้คนสามารถสื่อสารกันได้อย่างง่ายดายผ่านอินเทอร์เน็ต จึงมีหลายคนที่ใช้โอกาสตรงนี้สร้างรายได้ผ่านคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่สมาร์ทโฟนจากที่ไหนก็ได้ในโลก ทำให้หลายคนเลือกที่จะใช้ชีวิตในสถานที่ต่างๆได้อย่างอิสระ เช่น อยากอยู่บาหลีสัก 2-3 เดือน แล้วย้ายไปอยู่เชียงใหม่สักเดือน ต่อด้วยภูเก็ตอีกเดือน แล้วย้ายไปเวียดนามสักครึ่งปีก็ทำได้ ขอแค่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถหารายได้จากออนไลน์มาท่องเที่ยวไปด้วยทั่วโลกได้แล้ว
อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะเริ่มระแวงว่าจะขายคอร์สขายฝันหรือจะชวนไปขายตรงหรือเปล่า อาจจะฟังดูเพ้อฝันมาก แต่มีคนทำแบบนี้กันเยอะมากๆ โดยเฉพาะวัยรุ่นต่างประเทศที่ไม่ว่าจะทำธุรกิจออนไลน์ ทำคอนเทนท์ทางโซเชียลมีเดียต่างๆ หรือแม้แต่ทำงานประจำแต่แบบระยะไกล สไตล์ Work from Home ในช่วงโควิด แต่เปลี่ยนเป็น Work from Anywhere แทน
ภาพจาก atlanticbridge.com
ส่วนตัวโมเอง หลังจากเรียนจบก็ได้ไปเข้าโครงการฝึกงานของบริษัทใหญ่สัญชาติไทยแห่งหนึ่ง รู้ตัวว่าภาษาอังกฤษตัวเองยังไม่ค่อยดี จึงไปใช้เวลา Gap year ฝึกภาษาอังกฤษและทำงานร้านอาหารไทยบ้างที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ พอกลับมาไทย ก็มาลองฝึกงานกับบริษัทข้ามชาติแห่งนึงในกรุงเทพ
แต่ด้วยความที่เป็นเด็กบ้านนอกที่เกิดและเติบโตมาจากต่างจังหวัด ทำให้ไม่ชอบการอยู่กรุงเทพเอามากๆ รวมถึงไม่ชอบไลฟ์สไตล์การทำงานออฟฟิศเท่าไร จึงตัดสินใจไม่หางานและอยู่ที่กรุงเทพต่อ เลยกลับมาช่วยงานธุรกิจของที่บ้าน แล้วก็เริ่มทำธุรกิจออนไลน์เป็นงานเสริม โดยเริ่มจากการทำ Dropshipping (การขายของออนไลน์แบบไม่ต้องสต็อกของ)
1
รวมถึงทำคอนเทนท์ทางช่อง YouTube จนรายได้เสริมแซงรายได้หลัก ตอนนั้นยังไม่รู้จักคำว่า Digital Nomad และตอนนั้นแพลนไว้ว่าจะไปเรียนต่อป.โทที่ต่างประเทศจึงไม่ได้มีความคิดที่จะเดินทางท่องเที่ยว เลยกลับไปลอนดอนอีกครั้งเพื่อเรียนภาษาเพิ่มเติมและเตรียมตัวในการเรียนต่อป.โท
ภาพถ่ายจากลอนดอน
โดยระยะเวลาที่อยู่ลอนดอนก็ยังคงทำงานออนไลน์ไปด้วย ทำให้ได้สัมผัสถึงคำว่า Work from Anywhere เป็นครั้งแรก และได้รู้จักกับคำว่า Digital Nomad ทำให้เริ่มมีความคิดที่จะทำงานไปด้วยท่องเที่ยวไปด้วยขึ้นมา!
1
เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังในบทความต่อไปนะคะ ใครที่สนใจเรื่องนี้และอยากอ่านต่อ ช่วยกดไลค์เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ ถ้ามีคนสนใจเยอะก็จะรีบเขียนต่อเลย แล้วก็อย่าลืมกดติดตามจะได้ไม่พลาดบทความต่อๆไปที่จะมาเล่าทั้งประสบการณ์และแบ่งปันวิธีหาเงินออนไลน์ยังไงให้ได้ใช้ชีวิตแบบ Digital Nomad นะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและติดตามกันนะคะ เจอกัน EP หน้าค่ะ
1
ช่องทางติดตามอื่นๆ
YouTube : sMo Nomad
1
Instagram : smonomad
Tiktok : sMo Nomad
Facebook : sMo Nomad
#sMoNomad #DigitalNomad #เที่ยวด้วยได้เงินด้วย #ลาออกไปเช็กอิน
โฆษณา