5 ส.ค. 2023 เวลา 15:03 • ท่องเที่ยว
Kuta Beach

ติดเกาะเพราะตกเครื่อง เที่ยวบาหลีแบบงงๆ

งงมากแม่!!! ชั้นตกเครื่องได้ยังไง เครื่องออก 18:50 คาดว่าจะไปถึงสนามบิน 16:00 ออกจากท่าเรือบาหลีเที่ยงกว่าๆ แล้วอยู่ๆก็มารถติดกลางทาง ติดแบบไม่ขยับเลย ถนนบนเกาะเป็นถนน 2 เลน สวนกัน ติดขนาดคนขับดับเครื่องลงมายืนที่ถนน คนขับรถเราก็เห็นอีกเลนนึงไม่มีรถสวนมา นางก็วิ่งสวนเลนไปเลยจ้า ซึ่งรถหลายคันก็ทำแบบนั้น แต่สุดท้ายก็ไม่รอด มันก็ยังติดอยู่ดี คนขับพยายามติดต่อเพื่อนๆในวงการ แต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไร เพราะทุกคนก็ติดอยู่บนถนนเส้นเดียวกัน เพราะมันคือถนนเส้นหลักจากท่าเรือไปสนามบิน
พวกเราในรถเริ่มอยู่ไม่สุข เปิด Google maps ช่วย แต่ maps ก็บอกว่า ไม่มีเส้นอื่นจ้า ไปเส้นนี้แหละ แต่จะถึงสนามบิน 5 โมงเย็นนะ ตอนนั้นเริ่มปรึกษากันแล้วว่าเอาไงดีวะ เชคอินออนไลน์ก่อนแล้วกัน จากนั้นเราควรเรียก Grab bike มารับดีมั้ย แล้วน้องท่ไปด้วยก็นั่งดูแผนที่แล้วบอกว่า 'พี่...หนูว่ามันมีทางเบี่ยงเข้าซอยซ้ายมือนี้ไปได้นะ แต่ google มันไม่ได้แนะนำเส้นทางนี้ แต่ดูจากแผนที่ หนูว่าถนนมันต่อกันนะ" แล้วก็ยื่นมือถือไปอธิบายคนขับ นางก็เงียบไป แล้วก็กดกระจกลง ถามทางเป็น จนมีรถขนของคันนึงสวนมา
ติดแบบไม่ขยับ
คนขับเปิดกระจกแล้วคุยกัน ชี้ไม้ชี้มือให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยนี้ไปเลย สุดท้ายพี่คนขับเลยเลี้ยวเข้าซอย แล้วนางก็บอกว่า บอกทางนางด้วยนะ นางก็เพิ่งเลยมาครั้งแรก ..."อืม...มันเป็นครั้งแรกของพวกเราทุกคน" เส้นทางนี้คือเส้นทางเล็กๆ ฝ่าหมู่บ้าน เลียบเขา บางจังหวะถึงกับต้องปิดแอร์ เพราะกลัวกำลังรถขึ้นเขาไม่ไหว นาทีนี้อยู่ไม่สุขกันเลยทีเดียว บางช่วงถนนเลียบเขา อีกข้าวคือเหว ขับไม่ดีมีตกเหวนะจ๊ะ แต่ใดๆคือรถเราคือผู้นำขบวน มีรถไปสนามบินขับตามมาอีก 6-7 คัน
กว่าจะหลุดออกจากทางลัดเข้าสู่ถนนสายหลักก็ไปเข้าไปเกือบชั่วโมง พอออกมาได้ก็ดีขึ้นหน่อย ขับต่อไปอีกหน่อยก็โล่งเลย พี่คนขับบอกขอแวะเติมน้ำมันก่อนนะ จากนั้นนางก็เหยียบมิด บีบแตรแบบ ทุกคนหลบไป ตูรีบ!!! สปีดเร็วกว่านรก จนกระทั่งเข้าเขตเมือง ตอนนั้นเป็นเวลา 6 โมงแล้ว Google maps บอกว่าอีก 20 นาทีถึงสนามบิน แต่ดูจากสภาพรถติดคิดว่าน่าจะนานกว่านั้น พี่คนขับนางก็พยายามไป ด้วยการแหกทุกไฟแดง จนกระทั่ง 18:25 เราก็ยังไม่ถึงสนามบิน และเชคแล้วว่าเครื่องบินไม่ดีเลย์ สุดท้ายทุกคนเลยถอดใจ
สภาพคนตกเครื่อง...
บอกพี่คนขับว่า เราคงไปไม่ทันแล้ว จอดแป๊บนึง เราขอจองโรงแรมก่อน แล้วเดี๋ยวช่วยพาพวกเราไปส่งที่ฌรงแรมนะ นางก็โอเค สัมผัสได้เลยว่านางเครียดมาก พวกเราก็จัดแจงของ Airbnb อย่างรวดเร็ว เป็นบ้านพักใกล้หาด Kuta ห่างสนามบิน 15 นาที จากจุดที่เราจอดรถคือ 8 นาที สุดท้ายพี่คนขับก็ไปส่งถึงที่พักแล้วก็ขอโทษขอโพยใหญ่ คือก็ไม่ใช่ความผิดเค้าหรอกนะ นางบอกว่า เพื่อนนางบอกว่ามีรถบรรทุกคว่ำขวางถนน มันเลยทำให้รถติดไม่ขยับเลย ใดๆคือนางบอกว่าเดี๋ยวนางต้องขับรถกลับไปที่ท่าเรือ วันนี้สิริรวมเวลาที่เราอยู่บนรถได้ 7 ชม.ครึ่ง
ที่พักที่เราจองชื่อ panorama cottage เป็นบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน หลังจากที่ทุกคนเก็บกระเป๋า ล้างหน้าล้างตากันแล้ว ก็เดินออกไปกินข้าว ได้ร้านอาหารจีนสิงคโปร์ชื่อร้านแพนด้า ไม่มีคนเลย ทุกคนหิวจนตาลาย อย่าลืมว่า อาหารมื้อเดียวที่ได้กินคือ แซนวิชกล่องที่โรงแรมเตรียมให้มากินบนรถตอน 9 โมงเช้า ที่เหลือคือกินขนมจุบจิบเท่าที่มี เจ้าของร้านเป็นอาตี๋ท้วมๆ มารับออเดอร์ นางก็ถามว่าพวกเรามาจากไหน พอบอกว่ามาจากประเทศไทย นางก็พูดไทยใส่เลย แนะนำอาหารเป็นภาษาไทยด้วย นางบอกว่านางเป็นเชฟอยู่ที่โรงแรมอนันตรามาหลายปี
panorama cottage
อย่าถามว่าสั่งอะไรไปบ้าง มันเยอะมากแล้วก็ไม่มีรูป เพราะว่าหิวจัด กินเสร็จกลับบ้าน อาบน้ำนอน เช้าวันต่อมามันเป็นวันจันทร์ที่ทุกคนต้องทำงาน ใครประชุมก็เข้าประชุมไป ใครรับโทรศัพท์งานก็รับไป พอสายหน่อยก็ออกไปทานเข้าเช้าที่ร้านแถวที่พัก วันนี้ขอจัด breakfast ชุดใหญ่หน่อย ร้าน coffee corner เป็นร้านที่ได้รับเลือก เพราะใกล้บ้านแล้วดูอาหารน่าทาน พอเดินไปถึง โอ้ววว ฝรั่งเต็มร้านเลย ของเค้าน่าจะดีจริง ชีวิตวันนี้ในบาหลีคือพักผ่อนอย่างจริงจัง ไม่วางแผน ไม่กำหนดเวลา ใครอยากทำไรทำ อยากกินไรกิน
Big breakfast with iced chocolate
เป็นการกินอาหารเช้าที่สบายใจมาก ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว เราก็ใช้ชีวิตต่อไป ทานข้าวเสร็จก็เดินกลับที่พัก มาตกลงกันว่าจะกลับวันไหนแล้วจองตั๋วใหม่ จากนั้นก็ไปพิพิธภัณฑ์บาหลี เรียกแกรบไปประมาณ 30 นาที ที่นี่เหมือนเป็นวังเก่า มีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ของเกาะบาหลี เดินชมพิพิธภัณฑ์ไป เดินคุยกันไป ใช้ชีวิตได้ slow life มากๆ เดินจนครบทั้ง 4 ตึก แล้วออกมานั่งที่สวน เวลาบ่าย 3 แดดแรงแต่ลมเย็นมาก นั่งมองว่าวที่ลอยอยู่บนฟ้า คุยเรื่องสัพเพเหระ เป็นโมเม้นท์ที่ชิลมาก
พิพิธภัณฑ์บาหลี
จากนั้นก็เรียกแกรบไปหาด Kuta หาดแถวที่พัก ที่นี่มีคนมาเรียนเซิร์ฟเยอะมาก ครูสอนเซิร์ฟหุ่นแซ่บมาก มีลานสเก็ตบอร์ดด้วย แดดยังแรงอยู่เราเลยหลบแดดมากินไอติมที่คาเฟ่ รอแดดร่มแล้วค่อยไปเดินชายหาด ชีวิตที่เพิ่งผ่าน 2 ภูเขาไฟ และ 2 น้ำตกมาหมาดๆ ไม่ต้องการอะไรนอกจากแอร์เย็นๆ และไอติมซักถ้วย
เจลาโต้ที่ดีคือดีย์
พอแดดร่มเราก็ไปเดินถ่ายรูปที่ชายหาด เดินดูท้องฟ้า เอาขาจุ่มทะเล น้ำทะเลเย็นมาก มิน่าล่ะเค้าถึงเล่นเซิร์ฟกันตั้งแต่กลางวัน จากหาดมองไปเห็นสนามบิน "ตูตกเครื่องบินได้ไงฟระ!!!" จากนั้นก็เดินกลับที่พักแวะซื้อข้าวราดแกงแบบพื้นบ้านอินโด มีไก่ทอด เนื้อทอด แกงไก่ แล้วก็ แกงเนื้อ ข้าวราดแกงคือ ใส่ในกระดาษไขเหมือนพวกข้าวมันไก่ รองด้วยใบตองอีกที ตักข้าวใส่อย่างแน่น ห่อออกมาเป็นพีระมิดเลย แล้วก็แวะซื้อน้ำขนมเข้าบ้าน แกะอาหาร ทานข้าวเย็นกัน ชนแก้ว
"...แด่วันที่ตกเครื่อง เชียร์สสสสส"
เช้าวันต่อมา ตื่นเช้ามาไปกินข้าวเช้าร้านใหม่ วันนี้กินไม่เยอะ เพราะบ่าย 2 เราจะต้องไปกิน Fat Tony ร้านเบอร์เกอร์ที่อยู่ตรงข้ามที่พัก คนแน่นตั้งแต่วันแรกที่มาถึง นังไม่ได้กินเลย เลยตกลงกันว่าจะกินก่อนกลับ ร้านนางเปิดบ่าย 2 พวกเรานี่แหละจะเป็นลูกค้าโต๊ะแรก เช้านี้เดินมากินร้าน fresco เลือกจากการที่ฝรั่งนั่งเต็มร้าน
วาฟเฟิลไก่ทอดกับคาปูชิโน่ร้อน
ที่พักให้เชคเอ้าท์ 11 โมง เลยไปนั่งกินซอฟครีม Mixue อยู่ใกล้ๆ จนกระทั่งเกือบบ่าย 2 เราก็เดินไปร้าน Fat Tony พอเข้าไปในร้าน อ้าวเฮ้ย เราไม่ใช่โต๊ะแรก แล้วจากนั้นไม่ถึง 5 นาที คนก็เต็มร้าน จากข้าวเช้า ต่อ ซอฟครีม ยังอิ่มอยู่เลย เลยสั่งแบบธรรมดาที่สุดเพิ่มเบคอน ชุดนี้แค่ 40,000 รูปี หรือประมาณ 100 บาทไทย ได้เฟร้นช์ฟรายด์มาแบบจุกๆ เนื้อแฮมเบอร์เกอร์คือดีย์ เบคอนกรอบๆ กินเสร็จบ่าย 3 ก็เรียกรถไปสนามบิน
Fat Tony single patty burger
มาถึงสนามบินแบบเวลาเหลือๆ ไปนอนรออยู่หน้าเกท วันนี้ชั้นจะต้องได้กลับเมืองไทย!!! บ๊ายบายอินโด แล้วเราจะกลับมาใหม่
เพราะชีวิตคือการเดินทาง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา