14 ส.ค. 2023 เวลา 08:28 • ท่องเที่ยว
เสียมราฐ

เสียมเรียบ รอบ 3 แล้วจย้า~~~ (วันที่ 1/3)

“ได้หยุด 3 วัน ไปไหนดีอะเจ๊” คำเปรยเบาๆ จากน้องสาวคนเล็กของบ้าน ที่เพิ่งได้หยุดยาวเป็นครั้งแรก หลังจากทำงานแบบ nonstop มา 3 ปี ความซวยบังเกิดแก่พี่สาวอย่างอิฉัน ที่ต้องหาที่เที่ยวให้นาง
ซึ่งโจทย์มีอยู่ว่า
1. มีวันหยุด 3 วัน
2. ต่างประเทศ
Choice มีให้เลือกไม่มาก ระหว่าง
- พม่า (“เอ็งจะไปเพื่อ มันอันตรายอยู่”: อิพี่รีบห้ามอย่างไว)
- กัมพูชา (“ไปแล้วอะ”: น้องบ่นเสียงงุ้งงิ้ง)
- เวียดนาม (“ม่ายสนใจ”: เสียงนางบ่นรอบสอง)
- สิงคโปร์ (“ไม่มีที่เที่ยววววว” เสียงนางบ่นรอบสาม)
รู้ตัวอีกทีก็แบกเป้คนละใบมาเดินแกร่วอยู่ที่สนามบินเสียมราฐ ประเทศกัมพูชาจนได้ (ต่อไปนี้จะขอเรียกเสียมราฐว่าเสียมเรียบ ตามภาษาถิ่น)
🤔 วิธีการเดินทางจาก กรุงเทพ ไปเสียมเรียบ มี 3 วิธี
1.นั่งเครื่องบินไป (เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลาเที่ยว)
2.นั่งรถบ่อนไปลง ปอยเปต แล้วหา taxi จากปอยเปต ต่อรถไปยังเสียมเรียบ หรือนั่ง local bus ที่สถานีขนส่ง (คนละ 9$) (เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาเที่ยวและต้องการ การผจญภัยอย่างแท้จริง)
3.นั่งรถบัสจากหมอชิตไปลงเสียมเรียบ แบบยาวๆ
ส่วนตัว ผ่านมาหมดแล้ว 3 วิธี และขอแนะนำ ข้อแรก เพราะไม่โดน ตม. ไถตังค์ที่ด่านปอยเปต แบบวิธีที่ 2 และ 3
ม่ะ เริ่มทริปวันแรกกัน
ลงเครื่องประมาณ 11 โมง แล้วยังไม่อยากเข้าโรงแรมเลยเช่ารถตุ๊กๆ จากสนามบินไปลงแถว Old Market เพื่อที่จะไป Cat Café
ค่ะ ทุกท่าน อ่านไม่ผิด … ที่เสียมเรียบมี Cat Café จริมๆ (“เอ็งไปเขมรเพื่อไป Cat Café เนี่ยน้า”)
cat cafe
cat cafe ที่ไปชื่อ coco cat cafe ร้านนี้ walk in ได้เลย ไม่ต้องจอง มีโต๊ะให้บริการ 3 โต๊ะ มีน้องแมว 13 ตัว (แต่วันที่ไปน้องกำลังคลอดอีก 1 ตัว ... ไปปุ๊บ น้องเบ่งคลอดปั๊บเลยจ้ะ ฮือ) ที่ร้านขายอาหารกับน้ำ แต่ราคาแอบแรง (โดนไป 11$ 😅 ) พนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษได้น้า~ เอ็นดูความพยายามเสิร์ฟอาหารไป แล้วก็ลุ้นน้องที่กำลังคลอด
ไปต่อกันที่ Café ในสวน ชื่อ “Chocolate Road Garden” เดินจากคาเฟ่แมวไปประมาณ 20 นาที ท่ามกลางอากาศร้อนประมาณ 35 องศา กับเป้คนละใบ เดินตาม Google Map ไปแบบหลอนๆ ว่าพามาผิดทางรึเปล่าว้า เพราะยิ่งเดินเหมือนยิ่งเงียบ แต่สุดท้ายก็ถึงจนได้
Chocolate Road Garden เป็นร้านอาหารในสวนที่บรรยากาศดีมาก มีบ้านทรงไทย เอ้ย เขมร ซึ่งแปลงเป็นร้านขายของที่ระลึก และมีห้องสมุดที่รวมหนังสือเก่าๆ หลากหลายภาษาไว้เพียบ เป็นร้านอาหารในสวนที่ไม่มีห้องแอร์ให้บริการ แต่ความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ๆ ที่อยู่ภายในร้านบรรเทาความร้อนจากข้างนอกได้ดี พนักงานส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ วัยรุ่น Friendly และพูดภาษาอังกฤษได้ดี ราคาอาหารไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับขนาดของอาหาร (คำเตือน Portion ใหญ่มาก พอๆ กับร้านอาหารในอเมริกา)
หลังจากกินอาการเสร็จแล้วก็ได้เวลา Check-in ที่โรงแรม ซึ่งครั้งนี้จองที่ Onederz เป็น Hostel ใหม่ ราคาสบายกระเป๋า ที่ตั้งหาง่าย อยู่แถวๆ Pubstreet ในเมืองเสียมเรียบ เดินไม่ไกลจาก 7-11 และ Starbuck ใดๆ คือไม่อดตายแน่นอน 5555
ตั้งแต่พัก Hostel มาหลายๆ ที่ รู้สึกประทับใจที่นี่มาก 1) ใหม่ สะอาด 2) Location ดี 3) มีที่พักให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบ dorm ที่นอนรวมกับชาวบ้าน และ Private Wing ซึ่งเงียบจริ๊ง 4) กิจกรรมล้านแปด ตั้งแต่ปั่นจักรยานสำรวจเมือง, movie night, pool party เหมาะสำหรับสายตี้ พนักงานพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และแต่ละคนพูดภาษาอังกฤษได้ดี แบบ ดีมากกกกกก (ก. ไก่ ล้านตัว)
หลังจากพักให้หายร้อน ก็ลงไปหน้า hostel เพื่อจองรถตุ๊กๆ ไปซื้อ Ankor Pass เพื่อเข้านครวัด นครธม (เอาจริง เดี๋ยวนี้เราสามารถซื้อ Ankor Pass Online ได้แล้ว กรอกข้อมูล ถ่ายรูป จ่ายตังค์ จบ แต่มันจะไม่ได้อารมณ์ผจญภัยเลยขอไปแบบบ้านๆ แบบนี้ล่ะจ้ะ)
🤔 Note : ราคาแล้วแต่การต่อรอง ทางนี้เช่าไปซื้อ Pass + Ankor Wat + Phanomh Bakeng 2 คน จ่ายไป 15$
🤔 Ankor Pass เป็นตั๋ว (Ticket) สำหรับเข้านครวัด นครธม รวมถึงบันทายสรี (ปราสาทสีชมพู) และกบาลสะเปียนได้ด้วย
Ankor Pass มี 3 แบบ
-แบบ 1 วัน (37$)
-แบบ 3 วัน (62$)
-แบบ 7 วัน (72$)
จ่ายเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตก็ได้
Tip:
1.มีประเด็นเรื่องวันที่เริ่มใช้ Ticket ปกติแล้ว ถ้าจะซื้อ Pass 1 วันแล้วจะเข้านครวัด นครธมพรุ่งนี้ ควรไปหลัง 4 โมง เพราะเขาจะขายตั๋วของวันพรุ่งนี้ ส่วนพนมบาเค็ง หลัง 5 โมงขึ้นฟรี
2.มีถ่ายรูปด้วยนะคะ
3.ทางไปซื้อ Ankor Pass จะออกนอกเมืองไปจิ๊ดนึง ฝุ่นค่อนข้างเยอะ
ทางนี้จบลงด้วยการซื้อ Pass แบบ 3 วัน แล้วก็รวดไปนครวัดเลย
นครวัดเปิดตั้งแต่ 5.00 – 17.30 น. ส่วนด้านบนเปิดตั้งแต่ 7.00 น. และปิดทุกวันพระ (Closed at HOLY DAY) เพราะฉะนั้น เช็ควันพระกันด้วยนะทูกค้นนนนนนน จะได้ไม่เสียเที่ยวอย่างอิฉันนนนนนน (ยิ่งพูดยิ่งเจ็บ เพิ่งมารู้เรื่องนี้ตอนไปครั้งที่ 3 😭)
🤔 คำเตือน สำหรับคุณผู้หญิง ทางเข้านครวัดจะเป็นป่า กว่าจะเจอซุ้มตรวจบัตรของเจ้าหน้าที่ ก็ใช้เวลาพักนึง อย่าไปคนเดียวเลย
มีคนเคยพูดว่า See Ankor Wat and Die (See Bagun and Live) คือเห็นด้วยตาเนื้อมาแล้วไม่รู้กี่รอบ แต่ก็ยังตายไม่ได้อะคู๊นนนนนน นี่ คือยังตะลึงกับสถาปัตยกรรมสมัยโบราณ ไม่รู้ว่าเขาสร้างได้ยังไง ยิ่งมองยิ่ง Amazing
ถ้าลองดูแผนที่ของนครวัดดีๆ จะเห็นว่ามันเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส มีน้ำล้อมรอบปราสาท ด้านหน้าคือทิศตะวันตก (note ก่อนว่านครวัดไม่ใช่วัด แต่เป็นศาสนสถานที่เป็นสุสาน เลยหันหน้าทิศตะวันตก) ที่ระเบียง 4 ทิศมีภาพแกะสลัก เข้าใจว่าเล่าเรื่องรามายณะ (ตอนเกษียรสมุทร) กับการรบของกษัตริย์กัมพูชาในสมัยก่อน ถ้ามีเวลาลองสังเกตโครงหน้าของทหาร จะเห็นว่ามีทหารไทยด้วย บางหน้าก็แอบเหมือนคนจีน (แต่ได้ยินไกด์บอกว่าเป็นเวียดนามแฮะ)
🤔 คำเตือน: ระวังลิงตรงทางเข้าและทางออก อย่าเดินถือขวดน้ำ
ที่ติดใจอีกเรื่องคือรูปแกะนางอัปสรา (แอบได้ยินไกด์เล่าว่ามีมากกว่า 1,500 รูป) ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าหน้าตาไม่ค่อยเหมือนกัน อ่านจากที่ไหนซักที่บอกว่าให้ไปเดินตามหานางอัปสราที่ทำผมคล้าย “เซเลอร์มูน” กับอัปสราที่เป็นต้นแบบ Blackpink กับพวกอัปสราหน้ายิ้ม (มีคนบอกว่ามีองค์เดียวด้วย) ใดๆ คือเจอหมด แต่ว่าก็ไม่เห็นเหมือนอย่างที่เขาว่ากัน แต่ก็ถือว่าเป็นเกมส์สนุกๆ
🤔 Note ไว้ ณ เดือนกรกฎาคม 2566 นครวัด is under renovate ค่ะ ถ่ายรูปอาจจะไม่สวยเท่าไหร่
เย็นวันแรกไปต่อกันที่พนมบาเค็ง ซึ่งเป็นแหล่งยอดนิยมของการดูพระอาทิตย์ตกดิน แนะนำว่าให้ดูเวลาก่อนว่าพระอาทิตย์ตกกี่โมง ไปก่อนเวลาซัก 30 – 45 นาที (เพราะต้องเผื่อเวลาเดินขึ้นเขาด้วย) เพราะมันร้อนมากๆ แล้วไม่ค่อยมีที่นั่ง เพราะคนเยอะจริงๆ ข้างบนพนมบาเค็งจะมีปราสาทประธานเล็กๆ องค์หนึ่ง แอบได้ยินไกด์เล่าว่า จุดนี้เคยรบกัน ตัวปราสาทองค์ประธานโดนลูกหลง มีคนยิงกระสุนใส่นัดนึง ทุกวันนี้ยังปรากฏรอยอยู่
ตอนทางขึ้นคอยสังเกตด้านขวาให้ดี (ทางลงจะอยู่ทางซ้าย) จะมีปราสาทเล็กๆ นอกสายตาองค์หนึ่งชื่อ Prasat Baksei Chamkrong (นี่เพิ่งเห็นตอนขึ้นพนมบางเค็งครั้งที่ 3 ซึ่งก็คือครั้งนี้ 555555)
จบทริปเที่ยวของวันก็มาหาอะไรกินที่ Pub Street ต่อ ส่วนตัวว่า ใน Pub Street ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารแนว Pub Bar อาหารซ้ำๆ กัน ส่วนทางนี้เดินออกไปทางโซนที่มี 7-11 จะมีร้านอาหาร (ที่ไม่ใช่ Pub Bar) ราคาอาหารจานละ 1$ 2$ ส่่วนสองคนพี่น้องซื้อมาม่าเซเว่นจย้าาาาา
ค่าเสียหายวันแรก
- ค่าตั๋วเครืื่องบินคนละ 3400 บาท
- ค่าตุ๊กๆ เข้าเมือง 2 คน 9$
- cat cafe: 11$
- ค่าอาหาร Chocolate Garden Cafe: 24$
- ค่ารถเหมาไปซื้อ Pass + Ankor Wat + Phanomh Bakeng 2 คน: 15$
- ค่า Ankor Pass คนละ 67$
- ค่าอาหารเย็น 5$
- ค่าโรงแรม (2 คืน) 40$
ค่าเสียหายต่อคน (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน) 119$
🤔 Note แลก Bank Dollar Bank ย่อยไปเยอะๆ นาจา ทีนี่จ่ายเงินดอลลาร์ แต่ทอนเป็นเงิน เรียล นะแม่ แล้วก็ไม่รับเหรียญดอลลาร์นะจ๊ะ T^T

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา