เสียมเรียบ รอบ 3 แล้วจย้า~~~ (วันที่ 2/3)
วันนี้มีแผนออกนอกเมืองเสียมเรียบ ไปที่บันทายสรี กับกบาลสะเปียน ซึ่งยัยน้องสาวไม่เคยไปทั้ง 2 ที่ เลยพาออกไปหน่อย
นัดพี่ยุทธ คนขับตุ๊กๆ ไว้ ตอน 7.30 น. เจอพี่เขาครั้งสุดท้ายเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เป็นคนขับตุ๊กๆ ที่พูดภาษาไทยได้ และไม่เคยเบี้ยวนัด และไม่พูดมาก 555 ทักทายกันเล็กน้อยแล้วแกก็พาแว้นไปที่บันทายสรี (หรือบันเตียเสรยตามภาษาถิ่น) ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 37 กิโล ใช้ Ankor Pass เข้าได้ ไม่ต้องเสียค่าเข้าเพิ่ม บันทายสรีเปิดตั้งแต่ 8.00 แนะนำว่าให้ไปเช้าๆ ก่อนทัวร์ลง
บันทายสรีเป็นศาสนสถานที่สร้างถวายพระศิวะ เป็นปราสาทที่มีสีออกชมพู เพราะทำจากหินทรายสีชมพู แต่เป็นปราสาทที่ภาพแกะสลักที่ยังชัดอยู่มาก โดยเฉพาะตรงหน้าบรรณชั้นใน จะมีรูปแกะศิวะนาฏราฏ (พระศิวะกำลังรำ) ซึ่งค่อนข้างสมบูรณ์ มีพื้นที่เดินถ่ายรูปจิ๊ดเดียว ชั่วโมงเดียวก็เก็บหมด
(“อิเจ๊ มันมีปราสาทหลังเดียวเรอะ ไม่มีที่อื่นแล้วแน่นะ”: เสียงน้องสาวบ่น)
เพิ่งมาสังเกตคราวนี้ว่า ประตูตรงปราสาทหลักด้านในต่ำมาก ตอนนั้นเลยงงว่าคนจะเข้าไปถวายของได้ยังไง แต่มาอ่านทีหลัง เขาบอกว่า ไม่ได้ให้คนเข้าไปค่ะ เขาสร้างไว้ให้รูปปั้นพระศิวะค่ะ
ขากลับแนะนำว่าให้เดินออกมาทางด้านหลัง จะวนซ้ายหรือวนขวาก็ได้ นี่เลือกไปทางซ้าย ที่เขียนว่า Botanical Garden แต่อย่าคาดหวังความสวนพฤกษศาสตร์แบบเต็มรูปแบบ อันนี้มองว่าเขาพยายามหาจุดขายเพิ่มของบันทายสรี โดยการเอาป้ายไปแปะไว้ที่ต้นไม้แต่ละต้นว่าชื่ออะไร ซึ่งก็ได้ผลกับ Nerd อย่างอิฉันนะ เพราะเวลาเห็นต้นไม้แปลกๆ ก็วิ่งเข้าไปอ่านจริงๆ 5555
นั่งตุ๊กๆ ออกนอกเมืองไปอีกชั่วโมงกว่าๆ จะถึงกบาลสะเปียน ตรงนี้ใช้ Ankor Pass เข้าเหมือนเดิม ไม่ต้องเสียตังค์เข้าเพิ่ม
(“กบาลสเปียนมีไรอะเจ๊”)
กบาลสะเปียนมีป่ามีเขาค่ะ 55555 เข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานพนมกุเลน มีคนเล่าว่าเป็นป่าต้นน้ำที่คนสมัยโบราณจะนำน้ำไปใช้ในพิธีต่างๆ เพราะถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ การเดินขึ้นกบาลสะเปียนจำเป็นต้องใช้แรงกายและแรงใจ เพราะต้องเดินขึ้นเขาระยะทางประมาณ 1 กิโล (ไม่ใช่ระยะกระจัด แฮ่) ทางเดินมีทางเดียวยังไงก็ไม่หลง เป็นทางเดินขึ้นเขาที่ไม่ยากไม่ง่ายจนเกินไป แต่ไม่ควรพาผู้สูงอายุก็คนที่มีปัญหาเรื่องการเดินมา ไม่งั้นมีโดนบ่นหูชาแน่นอน
🤔 มีคำแนะนำว่า ตอนเดินขึ้นไม่ต้องคิดอะไร ให้ Focus แค่ว่าต้องเดินขึ้น แล้วควรเตรียมน้ำมาดื่มด้วย
นี่จับเวลาเดินขึ้นเขาประมาณ 45 นาที (หยุดพักไป 2 กรุบ) ครึ่งชั่วโมงแรกไม่เจอคนเลยซักคน เข้าใจว่าเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเดียวที่มาตอนนี้ จนใกล้ๆ ถึงน้ำตก ถึงจะเห็นเจ้าหน้าที่กวาดทางอยู่ 3 - 4 คน
ข้างบนกบาลสะเปียนมีน้ำตา เอ้ย น้ำตกค่ะ 555 Highlight ของที่นี่คือรูปสลักใต้น้ำ ซึ่งไม่รู้ว่าสมัยก่อนทำได้ยังไง คิดภาพไม่ออก เคยอ่านเจอว่าเมื่อก่อนมีรูปปั้นศิวลึงค์เป็นพัน แต่ปัจจุบันเหลือแค่ฐานค่ะ Highlight อีกจุด คือให้หันหน้าเข้าหาต้นน้ำ จะเห็นรูปสลักใต้น้ำที่สวยและยังสมบูรณ์อยู่มากทั้งๆที่โดนน้ำเซาะตลอดหลายร้อยปี
ขากลับเข้าเมืองก็เกือบเที่ยงแล้ว เลยบอกพี่ยุทธว่าหิวแล้ว แกก็พาแวะร้านอาหารให้ เพราะฉะนั้นทุกคนไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรกินนะค้า ร้านอาหารร้านใหญ่ (อยู่ระหว่างกบาลสะเปียนและบันทายสรี : เปิด Map อยู่เลยรู้) อาหารจานใหญ่ รสชาติใช้ได้ ห้องน้ำดีด้วยค่ะ ค่าเสียหาย 2 คนพี่น้อง 12$
เอาล่ะ เริ่มเที่ยวรอบบ่าย สุดท้ายก็มาถึงนครธมแล้วจย้า~~
ระหว่างทางผ่านสระสรง (Sra Song) (จุดแวะดูพระอาทิตย์ขึ้นอีกที่) ก่อนที่จะเข้าประตูนครธมผ่าน Victory Gate หรือประตูแห่งชัยชนะ เจ้าหน้าที่จะตรวจ Ankor Pass เหมือนเดิม อย่าลืมชูให้เขาดูน้า~~
นครธมมีทางเข้าหลักๆ 5 ทางคือ ประตู 4 ทิศ NEWS + Victory Gate ซึ่งประตูนี้ อยู่ติดๆ กับ East Gate หรือ Gate of the Dead หรือ ประตูแห่งความตาย (สรุป ฝั่งตะวันออกมี 2 ประตู) ซึ่งแต่ละประตูจะมีรูปหน้าคนหันไป 4 ทิศ แต่ละประตูจะมีสะพานที่ประดับด้วยอสูรหยุดนาค เหมือนๆกันทุกประตู
นครธมเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัส เหมือนๆกับนครวัด (นี่ประทับใจความสี่เหลี่ยมๆ ของเขานะ) มีปราสาทบายน (Prasart Bayon) เป็นปราสาทหลัก รอบๆ ทิศเหนือ จะมีปราสาทบาปวน (Prasart Baphuon) ซึ่งมีพระนอนเป็น Highlight ข้างๆ ถัดไปทิศเหนือ จะมีปราสาท Phimianakas ซึ่งมีตำนานเก่าแก่อยู่ แล้วก็เดินออกมาทางทิศตะวันออกจะมี Elephant Terrace อยู่ เดินวนรอบๆ นี้ก็น่าจะใช้เวลาประมาณครึ่งวัน
🤔 คำเตือน: มีลิงเป็นฝูงเลยจ้า T^T
การมาบายนครั้งนี้คือบอกไม่ถูก มันดูแห้ง หรือเพราะอากาศร้อน หรือคิดไปเองไม่รู้ แต่นี่ก็ยังตะลึงกับความอลังการของเขานะ ไม่รู้สร้างได้ยังไง ยิ่งที่ทำเป็นรูปหน้าคนคือไอเดียเจ๋งมาก คนสมัยโบราณทำได้ขนาดนี้เลยเรอะ ความวิศวกรรม ความอะไรใดๆ แต่เนื่องจากตอนที่ไป ปราสาทบายนอยู่ระหว่างการบูรณะ (อีกแล้วค่า) เพราะฉะนั้นเลยขึ้นไปถ่ายรูปตรงเทวาลัยด้านบนไม่ได้ เลยได้แต่เดินวนรอบๆ เข้าประตูหน้า เจอสิงห์ปุ๊บ เดินวนซ้ายเลยจ้ะ (ปราสาทนี้เดินลำบากนิดนึงน้า)
ปราสาทบายนเป็นวัด สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ตรงระเบียงทั้ง 4 ทิศจะมีรูปแกะสลัก ที่ไปรบกับอาณาจักรจามปา และที่ขาดไม่ได้เลยคือรูปสลักนางอัปสรา ถึงจะไม่เยอะเท่านครวัด แต่ว่าสวยพอๆ กัน ส่วนรูปหน้าคน แอบได้ยินไกด์ (อีกละ 555) ว่าเป็นพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
🤔 คำเตือน ระหว่างทางอาจจะมีคนมาทักถามว่ามาจากไหน อย่าไปคุยกับเขา เดี๋ยวโดนพาทัวร์แล้วเก็บตังค์ทีหลัง
เนื่องจากว่าขึ้นเทวาลัยด้านบนไม่ได้ เลยจำเป็นต้องเดินไปที่ปราสาทบาปวนต่อ เดินมาทางหน้าปราสาทบายนแล้วตรงไปเลยจ้ะ มันอยู่ทางซ้ายมือ ตรงทางเข้าจะเห็นทางเดินยาวๆ ที่ถูกยกขึ้นมาจากพื้น (เข้าใจว่าเมื่อก่อนเป็นบึงน้ำ แล้วตรงนี้ทำเป็นสะพาน) เดินสับขาจริตนางแบบ Victoria Secret บน Terrace ไปจนสุดทางก็ต้องปีนขึ้นปราสาทค่ะ
ถ้าขึ้นไปที่ชั้น 2 จะเข้าไปในตัวปราสาทบาปวนค่ะ ตอนเดินให้ระวังนิดนึง เพราะว่า Step ตรงประตู ยกสูงมาก ไม่เหมือนที่อื่น นี่สะดุดล้ม จับกบ เลือดไหลมาแล้ว
ส่วนชั้นที่ 3 (“ไม่ขึ้นบนสุดนะว้อยเจ๊ เคยขึ้นแล้ว ไม่ไหว”: อิน้องสาวกรีดร้องโหยหวน) แต่ส่วนตัวคือ ถ้ามาแล้ว ไม่คิดจะมาอีก ก็ขึ้นไปเลยค่ะ มันสูงพอที่จะเห็นรอบๆ นครธม ถ่ายรูปสวยอยู่เด้อ
จำใจจากบาปวนมาพร้อมเลือดที่หัวเข่า เดินลงด้านหลัง เลี้ยวขวาต่อไปที่ปราสาท Phimianakas (นี่ชอบอ่านเป็นพิมานอากาศตลอด) ทางเดินมันจะเข้ารกเข้าพงหน่อย แต่ไม่น่ากลัวค่ะมากค่ะ นี่ก็เดินจ้ำๆ เอา เพราะครั้งที่แล้วมีคนเดินตาม แอบกลัว มองซ้ายมองขวาดีๆ นะคะ ถ้าไม่มีคนเดินไม่ต้องไป
ปราสาทนี่มีตำนานค่ะ ไปอ่านป้ายมา เขาเล่าว่า เป็นปราสาทที่กษัตริย์ไว้ใช้หลับนอนกับนางนาค ที่แปลงร่างมาเป็นผู้หญิง เหตุผลที่กษัตริย์ทำแบบนี้เพราะนางนาค request ว่า ถ้าไม่ทำแบบนี้ จะโกรธนะ แล้วจะทำลายเมืองซะ
ตัวปราสาทเล็กมากค่ะ แล้วก็ไม่ให้ขึ้น (หลายปีแล้ว) ซึ่งแอบไปดูตรงขั้นบันไดทางขึ้น มันก็เล็กๆ จริงๆ นั่นแหละ ถ้าเดินขึ้นคงอันตรายน่าดู ไม่รู้ว่าคนสมัยก่อนเดินขึ้นไปได้ยังไง
ไปต่อที่ Elephant Terrace มันจะอยู่ทางทิศตะวันออกของนครธมค่ะ Elephant Terrace เป็นลานยกสูงแบบโล่งๆ เดินกันยาวๆ Highlight ของตรงนี้ ไม่ใช่ทางเดินยาวๆ เหมือน Catwalk แต่เป็นตรงฐาน ซึ่งมีรูปปั้นช้างแกะสลักอยู่ค่ะ เคยอ่านเจอว่าตรงนี้มีไว้สำหรับพระมหากษัตริย์ใช้ในการทอดพระเนตรการสวนสนาม (เห็นทีจะจริง เพราะด้านหน้าเป็นลานโล่งๆ เลยค่ะ)
🤔 Note เดือน กรกฎาคม 2566 Elephant Terrace และปราสาทบายน อยู่ระหว่างการบูรณะค่ะ
ถ้ามีเวลาและไม่เหนื่อยเกินไปก็ลองเดินไปฝั่งตรงข้ามกับ Elephant Terrace ดูค่ะ จะมีปราสาทเล็กๆ อีก 2 หลัง แต่ทางนี้ขอตัวค่ะ อากาศร้อนเหลือเกิน ขอกลับโรงแรมไปพักก่อน
อาหารเย็นวันนี้ ฝากท้องไว้กับร้านอาหารเลบานอน ใกล้ๆ 7-11 แถวๆ Pub Street อาหาร portion ไม่ใหญ่มาก จานละ 1-2 เหรียญค่ะ แวะซื้อของเซเว่นแล้วก็กลับโรงแรม หลับเป็นตายเลยค่ะ
ค่าเสียหายวันนี้
- ค่าอาหารกลางวัน: 12$
- ค่าอาหารเย็น: 6$
- ซื้อของเซเว่น: 5$
- ค่าเช่ารถทั้งวัน: 45$ tip ไป 5$
เฉลี่ย 37$ ต่อคน
(ตัวเลขกลมๆ เนอะ จริงๆ ไม่ถึง) แต่ทอนมาเป็นเรียล คำนวนไม่ถูกค่ะ
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
