15 ส.ค. 2023 เวลา 15:07 • ท่องเที่ยว
จัตุรัสพระราชวังบักตะปูร์

Ep.4 ปักตะปุร์เมืองที่ไม่อาจหวนคืน ตอน หลงไปในเมืองมรดกโลก | เนปาลในความทรงจำ

คราวที่แล้วเราพาไปดูบรรยากาศบนรถเมล์ประเทศเนปาลกันแล้ว มาถึงตอนนี้พวกเราก็น่าจะถึงเมืองปักตะปุร์กันได้เสียที ว่าแต่...
ปักตะปุร์
ต้องลงป้ายไหน?
อ่านตอนก่อนหน้าได้ที่นี่นะ
นั่งรถออกนอกตัวเมืองกาฐมาณฑุมาเกือบ 30 นาทีเห็นจะได้ ชมบรรยากาศข้างทางจนเบื่อ จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่า รถเมล์สายนี้ไม่ได้ไปสิ้นสุดที่เมืองปักตะปุร์นี่นา มันแค่วิ่งผ่านเฉยๆ
ถึงแม้เมื่อคืนจะอาศัย WiFi ในโรงแรม ศึกษาเส้นทางบนแผนที่ google มาแล้ว แต่เอาเข้าจริงตอนนี้รถวิ่งมาถึงไหนแล้ว พวกเราเองก็ไม่แน่ใจ
เลยป้ายที่ต้องลงแล้ว
หรือยังนะ?
ไม่มีเวลาให้กังวลนานมากนัก ในขณะที่รถก็วิ่งของมันไปเรื่อยๆ หากชักช้า ไม่แน่พวกเราอาจจะเลยป้ายที่ต้องลงไปไกลแล้วก็ได้ ทางออกที่รวดเร็วที่สุดนั่นก็คือ สะกิดถามหญิงสาวชาวเนปาลที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ
เธอหันมามองเราด้วยสีหน้าที่ไม่ได้ตกใจเท่าไรนัก เธอคงพอรู้อยู่แล้วว่าพวกเราน่าจะเป็นนักท่องเที่ยว ก็แน่ล่ะสิ แขวนกล้องคล้องคอกันคนละตัวขนาดนั้น ไม่รู้สิแปลก
พวกเราถามเธอเป็นภาษาอังกฤษว่าใกล้ถึงปักตะปุร์แล้วหรือยัง ในขณะที่เธอยิ้มและฟังเราอย่างใส่ใจ เมื่อจบคำถามเธอก็ตอบกลับแทบจะทันที แต่มันดันเป็นภาษาเนปาลที่พวกเราฟังไม่รู้เรื่อง
คนพูดพยายามทำท่าทางประกอบคำอธิบาย หยุดมองเราเป็นช่วงๆ เพื่อเช็คว่าพวกเราเข้าใจสิ่งที่เธอพูดหรือเปล่า แต่สีหน้าของเราคงบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า ที่เธออธิบายมานั้นพวกเราไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว
หญิงสาวดูเป็นกังวลเล็กน้อย พลอยทำให้เราคิดว่าพวกเราอาจจะนั่งเลยป้ายมาไกลแล้วก็เป็นได้ เธอหันไปหาตัวช่วยที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดอะไรกันอยู่สองสามประโยค เขาพยักหน้าให้กับเธอ ก่อนที่เด็กผู้ชายตาคมจะหันมาหาพวกเรา
Do you want to go
Bhaktabur?
อ่านตอนทั้งหมดในซีรีย์นี้ได้ที่
ในที่สุดเราก็มาถึงปักตะปุร์จนได้ หญิงสาวและเด็กชายลงรถป้ายเดียวกันกับเรา เธอชี้ไปยังฝั่งตรงข้ามของถนน บอกว่าปักตะปุร์ก็คือที่นั่น ให้เดินตามทางนั้นไปได้เลย
มองไปตามตำแหน่งที่เธอชี้แล้วก็รู้สึกไม่แน่ใจ มันดูจะเป็นเหมือนซอยเข้าหมู่บ้านธรรมดาหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งห่างจากคำว่าเมืองมรดกโลกในความคิดอยู่ไกลโข สถานที่ท่องเที่ยวระดับนี้ทำไมทางเข้ามันดูธรรมดาเสียจริง หรือว่าพวกเธอจะเข้าใจความหมายของพวกเราผิดไป
ทางเข้าปักตะปุร์เมืองมรดกโลก ประเทศเนปาล
แต่พอเหลือบไปเห็นป้ายสีน้ำเงินเล็กๆ ที่มีตัวอักษรสีขาวเขียนเป็นภาษาอังกฤษ วางพิงเสาไฟฟ้าอยู่ข้างปากทาง
ยินดีต้อนรับสู่ปักตะปุร์
ป้ายยินดีต้อนรับที่ปากทางเข้าเมืองปักตะปุร์ เนปาล
เราก็มั่นใจได้ว่าเธอไม่ได้พาลงผิดป้าย พวกเรารีบขอบคุณคนทั้งคู่ และขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งเธอก็ตอบรับด้วยความเต็มใจ แถมก่อนจากกันยังอวยพรให้พวกเราเที่ยวกันให้สนุกด้วย
ถ่ายรูปกับเด็กชายตาคมและผู้ใหญ่ใจดีที่ช่วยพวกเราให้มาถึงปักตะปุร์ได้ถูก
ไม่รู้ว่าความจริงแล้ว ป้ายที่พวกเธอต้องการจะลงคือป้ายนี้จริงๆ ไหม หรือที่ลงตรงจุดนี้เพราะต้องการแค่ช่วยเหลือพวกเรา แต่อย่างไรก็รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจเป็นอย่างมาก ขอขอบคุณด้วยหัวใจที่พองโต
เรากับพวกเธอเดินไปบนเส้นทางเดียวกันต่ออีกสักพัก มัวแต่ถ่ายรูป หันมองนั่นมองนี่ รู้ตัวอีกทีก็ไม่เห็นคนทั้งคู่แล้ว ถึงเวลาที่พวกเราต้องคลำทางไปกันเอง
แผนที่ที่หยิบติดตัวมา เป็นแผนที่เส้นทางโดยรวมของเมืองกาฐมาณฑุ ไม่ได้แสดงรายละเอียดจนถึงตรอกซอกซอยที่ซ่อนอยู่ตามแหล่งชุมชน ดังนั้นมันจึงถูกพับเก็บไว้ในกระเป๋า ไม่ได้ถูกหยิบมาใช้
สถาปัตยกรรมในปักตะปุร์ เนปาล
พวกเราเดินตามถนนเข้าไปเรื่อยๆ ตามคำบอก ตัวอาคารตลอดเส้นทางสร้างด้วยอิฐสีแดงสูงสามถึงสี่ชั้น วางเรียงต่อกันเป็นทอดๆ บานประตูและหน้าต่างล้วนทำด้วยไม้ บางชิ้นแม้ผุพังไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังคงหลงเหลือลวดลายอันน่าตื่นตาตื่นใจ
วิถีชีวิตในปักตะปุร์ เนปาล
คนที่นั่นยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ ดูเหมือนว่าเมืองโบราณแห่งนี้จะยังมีลมหายใจอยู่ แตกต่างจากเมืองโบราณอีกหลายแห่งที่เคยไป เหล่านั้นล้วนหมดลมหายใจไปนานแล้ว ทิ้งไว้แต่เศษซากอารยธรรม ให้พวกเราได้เรียนรู้และเยี่ยมชม
ชาวเมืองประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อ
เราจะพบจุดประกอบพิธีทางความเชื่อ กระจายตัวอยู่ตลอดเส้นทางที่เราเดินผ่าน ไม่รู้จักชื่อเรียกที่ถูกต้อง แต่เห็นผู้คนต่างแวะเวียนเข้าไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอยู่ไม่ขาด
ชาวเมืองปักตะปุร์นั่งพักผ่อนหย่อนใจ
อีกสิ่งหนึ่งที่พบเห็นอยู่ทั่วทุกหัวมุมถนนในเมืองแห่งนี้ นั่นก็คือศาลานั่งเล่นเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง เหมาะกับเอาไว้นั่งชมบรรยากาศ ดูนักท่องเที่ยวเดินผ่านไปผ่านมา
เห็นแล้วก็นึกถึงหมู่บ้านของตายายในอดีต ที่จะมีศาลาแบบนี้เอาไว้นั่งเล่น พูดคุยแลกเปลี่ยนข่าวสารสัพเพเหระกันยามว่างเว้นจากงาน
ถนนที่ไต่ระดับขึ้นไปบนเนินสูง
ถนนบางช่วงแต่ระดับขึ้นไปตามเนินสูง พวกเราเห็นแล้วก็รู้สึกหอบ แต่ก็ค่อยๆ เดินเล่นกันไป เหนื่อยมากก็หยุดพัก ไล่ให้คนที่ไหวเดินนำไปก่อน ถ่ายรูปตลกๆเก็บไว้แบล็คเมล์กันเอง
ยิ่งเดินลึกเข้าไป ยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังเดินข้ามผ่านกาลเวลา แดดจ้าภายนอกดูเหมือนจะทำอะไรเมืองนี้ไม่ได้ บรรยากาศเย็นชื้นภายใน ถึงกับทำให้เราต้องตั้งฉายาให้เมืองนี้ว่า
ทางเดินในตรอกแคบเมืองปักตะปุร์ เนปาล
ปักตะปุร์
เมืองแห่งตู้เย็น
ถนนบีบเล็กลงเรื่อยๆ แต่ถึงขนาดนั้นก็ยังเห็นรถวิ่งสวนทางกันอยู่บ่อยครั้ง เส้นทางเริ่มคดเคี้ยวจนแอบหวั่นใจ หรือพวกเรากำลังจะทะลุมิติไปแล้วจริงๆ
รถใหญ่ที่วิ่งบนถนนแคบในเมืองปักตะปุร์ เนปาล
หลุดออกจากตรอกแคบก็พบกับทางเดินเส้นใหญ่ ผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมาอยู่บนถนนเส้นนี้ นักท่องเที่ยวหลากเชื้อชาติกำลังถ่ายรูปตามมุมต่างๆ บางส่วนก็จับจ่ายใช้สอยซื้อของที่ระลึก
ดูเหมือนเราจะเดินมาถึงถนนเส้นหลักใจกลางเมืองปักตะปุร์ เนปาล
เลี้ยวมาเจอรถคันใหญ่ที่ล้อทำด้วยไม้ ก็นึกขึ้นมาได้ว่า เนปาลเพิ่งผ่านเทศกาลเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ไปได้ไม่นาน ช่วงเวลาคล้ายกันกับวันขึ้นปีใหม่ไทย ต่างกันแค่วันสงกรานต์บ้านเราเล่นสาดน้ำ แต่ที่เนปาลใช้ผงแป้งหลากสีสันสาดใส่กันแทน
รถล้อไม้ยักษ์ที่เสร็จจากภาระกิจเฉลิมฉลองปีใหม่เนปาล
เราล้วนสนใจไปกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนถนนเส้นนี้ ไม่ว่าจะเป็นรถขายผลไม้ ที่จัดเรียงผลไม้ซ้อนกันไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ร้านขายขลุ่ยเคลื่อนที่ที่สามารถใช้บังแดดได้ ร้านขายเสื้อผ้าสีสันจัดจ้านที่แขวนอยู่ตามรายทาง รถขายไอติมขนาดกะทัดรัดบนจักรยานสองล้อ
ร้านขายของบนถนนปักตะปุร์ เนปาล
แต่มีรถเข็นอยู่คันหนึ่งค่อนข้างดึงดูดความสนใจเราเป็นอย่างมาก ข้างบนเป็นตู้กระจกกรอบไม้ ซึ่งข้างในอัดแน่นไปด้วยลูกกลมสีเหลือง พอจะคาดเดาได้ว่ามันน่าจะเป็นของกิน
ใจหนึ่งก็อยากลอง อีกใจก็บอกว่านี่แค่ต้นทริป หากท้องไส้เป็นอะไรไปจะลำบาก แถมไม่รู้ด้วยว่ามันสั่งยังไง ยืนรอให้มีคนเข้าไปสั่งกินจะได้แอบดู แต่จังหวะก็ช่างไม่เป็นใจเหลือเกิน
รถขายปานีปุรีในปักตะปุร์เนปาล
สรุปก็ไม่ได้กิน แถมหอบความสงสัยมากว่า 10 ปี ว่าไอ้ของในตู้นั้นมันคืออะไร จนมาถึงยุคนี้ถึงได้รู้ว่ามันคือ
ปานีปุรี (Pani puri)
นั่นเอง
เดินตามฝูงชนไปเรื่อยๆ ถ่ายภาพสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนของชาวปักตะปุร์จนเต็มอิ่ม เริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้วสิ อยากหาที่นั่งพักเอาแรง ไปนั่งที่ศาลาเรือนน้อยแบบชาวปักตะปุร์ก็ไม่เลว เดี๋ยวถ้าเจอซุ้มหน้าจะขอแวะพักสักหน่อย แต่ซุ้มหน้าที่ว่านั่นมัน...
ใหญ่มาก !!!
ศาลาพักใจ
อ่านตอนต่อไปได้ที่นี่น้า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา