19 ส.ค. 2023 เวลา 13:26 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เขียนถึง Airbnb ไปแล้ว จะไม่เขียนถึง Booking Holding ก็กระไรอยู่ เรียกได้ว่า เป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุดของ Airbnb ก็ว่าได้
รายได้หลักของ Booking Holding มาจากการจองที่พักและโรงแรม หลังๆมีรับจองตั๋วเครื่องบินและรถเช่าด้วย
ลักษณะการทำธุรกิจ ก็คล้ายๆกับ Airbnb คือ เป็นตัวกลางระหว่างโรงแรมกับนักท่องเที่ยว แล้วกินค่า Commission แต่ว่าส่วนของ Booking เอง ก็มีเหมาห้องมาจากโรงแรมแล้วเอามาขายเองด้วย (คล้าย Amazon.com ที่มีตั้งขายเองและเป็นตัวกลาง)
Positioning ก็นำคู่แข่งอย่าง Expedia ชัดเจน คู่แข่งรายอื่นๆก็เป็นแนว Local platform ซะเป็นส่วนใหญ่
ที่จะทัดเทียมกันได้ในแง่ของ Size ก็คือ Airbnb นะแหละ แต่ว่า Supply มีทับซ้อนกันแค่บางส่วน ส่วนลูกค้าก็จะคนละ Feeling กัน
1
มองโดยภาพรวมแล้ว ส่วนตัวผมก็ชอบนะครับ ตัวนี้ TAM ใหญ่, Unit economic ดี, มี Competitive advantage ที่ชัดเจน
ถ้าให้ถือสองตัวทั้ง Booking และ Airbnb ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร แต่ถ้าจะให้เลือกแค่ตัวเดียว ผมขอถือหางทาง Airbnb มากกว่า เพราะ สำหรับ Booking แล้วนั้น มีจุดอ่อนที่ชัดเจนอยู่เช่นกัน อาจจะไม่ได้ถึงขนาดทำให้บริษัทเจ๊ง แต่ก็เป็นจุดอ่อนที่อาจจะทำให้บริษัทโตเยอะๆได้ยากก็เป็นไปได้
จุดต่างที่สำคัญมากๆของทั้งสองบริษัทคือ ลักษณะของ Supply เป็นคนละกลุ่มกัน
Supply ในที่นี้คือ คนที่เป็นเจ้าของที่พักที่เอามาลิสอยู่ใน platform นะแหละ ในขณะที่ของ Airbnb ส่วนใหญ่ มักจะเป็น individual user เป็นหลัก กล่าวคือ จะมีห้องพักแค่คนละ 1-2 ห้อง
แตกต่างจากของฝั่ง Booking ที่ส่วนใหญ่คือ โรงแรม ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีห้องพักตั้งแต่ 10-20 ห้องขึ้นไป
ความต่างตรงนี้มีความสำคัญมาก เพราะอะไร ???
นึกถึงช่วง Covid สิครับ ช่วงนั้น ถ้าใครจำกันได้ โรงแรมต่างๆออกมาลดแลกแจกแถมกันใหญ่ ส่วนบรรดานักท่องเที่ยวก็เห็นว่าถ้าจองตรงกับโรงแรม เราจะได้ส่วนลดพิเศษ หรือ ได้ของแถมมากกว่าจองผ่าน OTA อย่างพวก Booking.com หรือ Agoda
ทำให้ตอนนี้ Users ทั้งสองฝั่งของ platform ที่ใช้งานอยู่บน OTA เหล่านี้เข้าใจกันแล้วครับว่า ถ้าทำธุรกรรมเหล่านี้ ไม่ผ่านตัวกลาง เราจะได้ประโยชน์กันทั้งสองฝั่ง คนที่เสียประโยชน์คือ OTA ที่โดนตัดออกไปจากระบบนั่นเอง
ยิ่งตอนนี้ มีเครื่องไม้เครื่องมือจำนวนมากออกมาช่วยให้โรงแรมต่างๆสามารถเข้าหาลูกค้าได้ง่ายขึ้น และ จัดการระบบการจองเองได้แล้ว รวมทั้ง Social Media ก็ช่วยให้โรงแรมสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายมากขึ้นด้วย
เมื่อเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ โอกาสที่ OTA จะโดนตัดออกไปจากระบบก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าถามว่า จะถึงขนาดทำให้ OTA เหล่านี้ตายไปเลยไหม ก็คงจะไม่เช่นกัน เพราะ โรงแรมเองก็มองว่า OTA ยังคงมีประโยชน์อยู่ แต่เราคงจะไม่สามารถไปฝากชีวิตทั้งหมดของเราไว้กับ OTA ไม่ได้แล้ว เราต้องมีช่องทางของตัวเองด้วยนั่นเอง
แล้วเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับ Airbnb ไหม ก็คงจะมีบ้าง แต่จะมีใน degree ที่น้อยกว่ามากๆ เนื่องจากว่า Supply ที่อยู่ใน Airbnb ส่วนใหญ่นั้น จะเป็น individual user ที่มีจำนวนห้องพักแค่ 1-2 ห้องต่อคนเท่านั้น ไม่ได้มีขนาด 20 ห้องขึ้นไปอย่างโรงแรม เพราะฉะนั้น ในแง่ของความคุ้มค่าในการลงทุนลงแรงเข้ามาจัดการระบบจองห้องของตัวเอง ก็คงจะไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าใดนัก
ด้วยเหตุนี้ ทำให้โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบ Positioning ของ Airbnb มากกว่า Booking Holding เพราะ โอกาสในการเติบโตมีมากกว่า รวมถึง Positioning ที่ดีกว่าด้วยครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา