21 ส.ค. 2023 เวลา 23:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

"ความเสี่ยง" ของพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ "เพิ่มขึ้น" อาจทำให้มีการ "เทขายในระยะสั้น"

จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการบอกเล่าสาเหตุที่ว่าทำไม Hedge Fund ถึง Short Sell ในพันธบัตรสหรัฐฯ ในช่วงนี้
เพื่อนๆหรือนักลงทุนสามารถอ่านได้ที่ https://www.blockdit.com/posts/64d369d3e4b2e3683550e65f
ครั้งนี้เลยจะมาวิเคราะห์กันต่อว่ามีปัจจัยสำคัญอะไรอีกบ้าง ที่จะส่งผลต่อผลตอบแทนและราคาของพันธบัตรสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้พันธบัตรสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากการปรับลดความน่าเชื่อถือและท่าทีในการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
สาเหตุเหล่านี้เองที่ทำให้เกิด "ความผันผวน" ของผลตอบแทนและราคาของพันธบัตรสหรัฐฯ ในช่วงก่อนหน้านี้
แต่ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นไม่ได้จบเพียงเท่านี้ ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่อาจบ่งบอกว่ามีแนวโน้มที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อาจ "ปรับตัวสูงขึ้น" ไปอีก และกดดันให้มีการ "เทขาย" พันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีกในระยะสั้น
1
ปัจจัยอื่นที่คาดว่าอาจทำให้เกิดความผันผวนมากขึ้นในพันธบัตรสหรัฐฯ ได้แก่
  • นอกจาก BOJ ยังมี PBOC
นอกจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า จน "อาจจะ" ทำให้ BOJ ต้องตัดสินใจขายพันธบัตรสหรัฐฯ เพื่อนำเงินส่วนนั้นไปช่วยเรื่องค่าเงินเยนที่อ่อนค่าแล้ว
ในระยะนี้เรายังได้เห็นการ "อ่อนค่าของเงินหยวน" อีกด้วย แต่สิ่งที่เงินหยวนมีไม่เหมือนกับเงินเยน ก็คือ ประเทศจีนนั้นมีอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ถือว่าปกติหรือค่อนข้างต่ำ โดยอยู่ที่ 0.80 %
บวกกับการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายที่เพิ่งมีการประกาศจากรัฐบาลจีน เนื่องจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่ตกต่ำภายในประเทศ
ทำให้ประเทศจีน
1. ไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอะไรแล้ว
2. จีนเป็นประเทศผู้ผลิต แต่สถานะการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกไม่ได้ดี ความต้องการในการนำเข้าสินค้าจากจีนจึงลดลง
สองสาเหตุหลักนี้ทำให้ค่าเงินหยวนของพวกเขา "อ่อนค่าลงอย่างมาก" จึง "อาจจะ"
ทำให้ธนาคารกลางจีน (PBOC) ตัดสินใจขายพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มจากที่ปกติก็ขายมาตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพื่อนำเงินส่วนนั้นไปช่วยเรื่องค่าเงินหยวนที่อ่อนค่า เหมือนกับ BOJ
การเทขายพันธบัตรสหรัฐฯ จาก PBOC เลยสามารถนับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ "อาจจะสามารถเกิดขึ้นได้" และจะทำให้เกิดความผันผวนในด้านผลตอบแทนและราคาของพันธบัตรสหรัฐฯ
  • การออกพันธบัตรชุดใหม่เพื่อเติมสภาพคล่องให้กับ TGA
หากเพื่อนๆหรือนักลงทุนที่ยังไม่รู้จักว่า TGA คืออะไร สามารถอ่านได้ที่ https://www.blockdit.com/posts/6491f06788e0b74834070ec6
TGA อธิบายง่ายๆ ก็คือ "บัญชีการเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ"
ตามรายงายจากกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ปัจจุบันพวกเขามียอดการขาดดุล อยู่ที่ 1.61 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีงบประมาณ 2023 ซึ่งเพิ่มขึ้น 887 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 122% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มีสาเหตุอยู่หลายประการ
1. การระบาดใหญ่ของ Covid-19 ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐฯ
2. การลดภาษีที่ผ่านมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้รายได้ของรัฐบาลลดลง
3. สงครามในยูเครน ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาลในด้านการป้องกันและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
และอื่นๆอีกมากมาย สาเหตุเหล่านี้ทำให้กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ มีการ "ขาดดุลการคลังอย่างมาก" พวกเขาจำเป็นต้องมีการ "เติมสภาพคล่อง" กลับเข้าไปในบัญชีการเงิน (TGA)
เพื่อให้กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ มีเงินไว้ใช้จ่ายตามพันธะผูกมัดทางการเงินและใช้ดำเนินการนโยบายต่างๆ ของภาครัฐ
แล้ววิธีเติมสภาพคล่องจะเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจาก "การออกพันธบัตรชุดใหม่" นั่นเอง
การกระทำนี้เหมือนเป็นการ "เพิ่มปริมาณของพันธบัตรสหรัฐฯ ในตลาด ทำให้ "อาจจะ" เกิดการ "เทขายพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นได้ในระยะสั้น" เพื่อป้องกันความเสี่ยงของนักลงทุน
ส่งผลให้ราคาของพันธบัตรสหรัฐฯ "ลดลง" และเมื่อมีคนถือพันธบัตรสหรัฐฯ น้อยลงผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ ก็จะเพิ่มขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้ก็ยังมีผลกระทบจากการทำ QT และการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ที่ทำให้กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ขาดดุลเพิ่มขึ้นไปอีก
สิ่งเหล่านี้ "ย้ำเตือน" ว่าการออกพันธบัตรชุดใหม่เป็นสิ่งที่ "มีความจำเป็น" สำหรับกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ และมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะทำสิ่งนี้
โดยสรุปแล้ว นอกจากการปรับลดความน่าเชื่อถือ และท่าทีในการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แล้ว
ก็ยังมีปัจจัยสำคัญอย่างอื่นอีกที่ "อาจเกิดขึ้นได้" อย่าง PBOC และการเติมสถาพคล่องให้ TGA และสิ่งนี้จะทำให้เกิดความผันผวนมากขึ้นในพันธบัตรสหรัฐฯ ทั้งในด้านผลตอบแทนและราคา
เพื่อนๆ หรือนักลงทุนท่านใดที่กำลังสนใจลงทุนหรือถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ อยู่ อาจต้องมีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
เพื่อประเมินสถานะการณ์อย่างสม่ำเสมอ และปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนของเรา เมื่อพบเจอกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา