Aging Society : สุขภาพดีและมีความสุขในชีวิตเต็มเปี่ยม

รู้หรือไม่ ? ปัจจุบันจำนวนผู้สูงอายุในไทยเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จากสถิติจำนวนประชากร 66 ล้านคน มีผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปมากถึง 6.5 ล้านคน ถือได้ว่าเรามีผู้สูงอายุมากเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน
จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติระบุว่า ประชากรโลกที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 1 ใน 5 แต่ละประเทศในโลกจะเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงวัยในสัดส่วนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ดูได้จากความเจริญทางสังคม ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ นอกจากนี้ได้มีการกำหนดสังคมผู้สุงอายุเอาไว้ 3 ระดับ ประกอบด้วย
1. Aging Society สังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ประมาณ 10% ของจำนวนประชากรทั้งหมด
2. Aged Society สังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ประมาณ 20% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ถือเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์
3. Super-Aged Society สังคมที่มีประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไป มากกว่า 20% ของจำนวนประชากรทั้งหมด เรียกว่าสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มที่
วันนี้ Maxxma นำเคล็ดลับดี ๆ มาแชร์ให้กับคนที่ต้องดูแลผู้สูงอายุหรือกลุ่มเปราะบางให้เข้าใจและดูแลคนเหล่านี้ได้อย่างมีความสุข
1) หมั่นออกกำลังกาย
สิ่งสำคัญ 3 อย่างที่ต้องดูแลให้ดี นั่นก็คือ เวลา, ความสัมพันธ์ และสุขภาพ เพราะเมื่อหายไปแล้ว นำกลับคืนมาได้ยาก ผู้สูงอายุที่มักจะอยู่แต่ในห้อง ก็มักจะคิดฟุ้งซ่าน หากจัดสรรเวลาให้ออกกำลังด้วยการเดิน, วิ่ง จะทำให้เลือดสูบฉีดได้ดี ผู้เขียนออกไปวิ่งตอนเช้า จะเห็นคนสูงวัยเริ่มจับกลุ่มกันเพื่อมาออกกำลังกาย บางคนเดินออกกำลัง บางคนวิ่ง บางคนเต้น เป้าหมายก็เพื่อทำให้ร่างกายได้เหงื่อ เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น จะยิ่งส่งผลให้สุขภาพแข็งแรง
มนุษย์เรานี้ยอมสูญเสียสุขภาพเพื่อทำให้ได้เงินมา แล้วต้องสูญเสียเงินตราเพื่อฟื้นฟูรักษาสุขภาพ แล้วยังเฝ้ากังวลกับอนาคต จนไม่มีความรื่นรมย์กับปัจจุบัน ผลที่เกิดขึ้นจริงๆ ก็คือ เขาไม่ได้อยู่กับปัจจุบันหรือแม้กระทั่งอยู่กับอนาคต เขาดำเนินชีวิตเสมือนหนึ่งว่า เขาไม่มีวันตาย และแล้วเขาก็ตายอย่างไม่เคยมีชีวิตอยู่จริง
ท่านดาไลลามะ องค์ที่ 14
2) ทานอาหารที่เป็นประโยชน์
ผู้สูงอายุเป็นวัยที่ร่างกายมีความต้องการต่อการใช้พลังงานลดน้อยลง เนื่องจากมีกิจกรรมที่ทำได้ไม่มากส่งผลให้แต่ละวันใช้พลังงานลดน้อยลง ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องควรลดการบริโภคในกลุ่มของแป้ง น้ำตาล และไขมันลง รวมถึงอาหารประเภทของผัด ของทอดที่ใช้น้ำมัน เพื่อลดการสะสมเนื่องจากไม่ถูกดึงนำไปใช้ ให้เน้นอาหารจำพวกโปรตีนจากเนื้อปลามากขึ้น และเปลี่ยนมาใช้อาหารประเภทต้ม นึ่ง ย่าง อบ เป็นหลัก
นอกจากนี้ในกลุ่มผู้สูงอายุยังมีแนวโน้มขาดสารอาหารโดยเฉพาะแคลเซียม สังกะสี และเหล็ก ซึ่งมีอยู่มากในอาหารประเภทนม ถั่วเหลือง รวมถึงในกลุ่มของผัก ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ ดังนั้นจึงแนะนำให้ผู้ดูแลปรับเปลี่ยนโดยการนำอาหารเหล่านี้มาทำเป็นอาหารมื้อหลักของผู้สูงอายุ และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานจัด หรือเค็มจัด เพราะเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน และควรพยายามให้ผู้สูงอายุดื่มน้ำอย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อลดภาวะท้องผูก และช่วยให้ระบบทางเดินอาหารและลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
3) อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี
ผู้สูงอายุควรอยู่ในสภาพที่เอื้ออำนวยต่อการอยู่อาศัย อากาศต้องถ่ายเท มีอากาศที่สดชื่นเพื่อช่วยปัญหาสุขภาพจิตใจ เนื่องจากผู้สูงอายุโดยส่วนใหญ่ไม่ได้ออกไปไหน เวลาส่วนใหญ่จึงอายุที่บ้าน เพราะฉะนั้นบ้านที่พักอาศัยจึงไม่ควรกลิ่นเหม็นๆ อับหรือสิ่งของล่วงหล่นตามพื้นบ้าน ควรมีการปลูกต้นไม้ ปรับภูมิทัศน์ภายในบ้านให้ปลอดโปร่ง สะอาด โดยเฉพาะบ้านที่มีฝุ่น ย่อมจะส่งผลต่อระบบการหายใจ
อีกส่วนหนึ่งคือรังสีอันตรายจากแสงแดด แน่นอนหากรับในปริมาณที่เหมาะสม เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หากเราในปริมาณที่มากไปย่อมส่งผลต่อดวงตา และผิวหนังอย่างหลักเลี่ยงไม่ได้ หลายบ้านที่มีผู้สูงอายุต้องดูแล จึงหันมาติดฟิล์มกรองแสง ช่วยลดฝุ่นเพราะไม่ต้องติดผ้าม่าน ช่วยป้องกันรังสีอันตรายที่เกิดจากแสงแดด และที่สำคัญติดครั้งเดียว ใช้ได้นานนับ 10 ปี จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดูแลคแนสูงวัย ให้ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีๆ
นอกจากนี้นควรพาผู้สูงอายุออกไปสัมผัสอากาศที่บริสุทธ์บ้าง เช่น พาไปเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัด ที่มีธรรมชาติงดงาม เพื่อดูแลสุขภาพระบบทางเดินหายใจ จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรค หรือหากไม่สะดวกไปต่างหวัด อาจเลือกเป็นสวนสาธารณะใกล้ๆ เพื่อให้ผู้สูงอายุเปิดหูเปิดตา และสัมผัสกับอากาศที่บริสุทธิ์
4) ชวนทำกิจกรรมร่วมกัน
ผู้สูงอายุควรมีกิจกรรมทำ หรือช่วยให้ผู้สูงอายุได้มีโอกาสพบปะเพื่อน หรือพูดคุยกับญาติสนิท เพื่อนวัยเดียวกัน โดยอาจจัดกิจกรรมนัดพบ เชิญเพื่อนฝูงญาติมิตร มาสังสรรค์ที่บ้าน หรือพาผู้สูงอายุออกไปเยี่ยมเยียนเพื่อนบ้าง พาไปวัด หรือเข้าชมรมทำกิจกรรมต่างๆ การที่ผู้สูงอายุมีกิจกรรมหรืองานอดิเรกทำจะช่วยชะลอความเสื่อมถอยของระบบประสาทและสมอง อีกทั้งยังลดโอกาสเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุได้อีกด้วย
Maxxma เราเป็นแบรนด์ฟิล์มกรองแสงที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี เข้าใจและเข้าถึงความต้องการของคนในสังคม และมองเห็นว่า กลุ่มคนสูงวัยก็เป็นสมาชิกในสังคมที่ละเลยไม่ได้ จำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจและดูแลอย่างใกล้ชิด หากทำให้ครอบครัวแฮปปี้ คนในสังคมก็แฮปปี้ตาม โลกเร้า สังคมร้อน ขอพื้นที่ให้บ้านเย็น เพื่อความสุขของคนในบ้านกันเถอะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา