27 ส.ค. 2023 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์

จักรพรรดิปูยี จักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีน มาเป็นสามัญชนได้ยังไง

เนื่องจากเล่มนี้เป็นหนังสือที่ปูยีเขียนเอง สำหรับคนที่อยากอ่านตัวเล่มเอง เราคิดว่าจะมีสับสนบ้าง เพราะมีเขียนสลับเวลาไปมา อาจจะยกเหตุการณ์มาตามอารมณ์ตัวเองเลยมีแอบงง และมีช่วงน่ารำคาญ ตรงการเมืองที่มันค่อนข้างเห็นแก่ผลประโยชน์ตัวเองของพวกชนชั้นศักดินา แต่เราลองเอามาเรียบเรียงให้เป็นเรื่องราวที่เข้าใจง่ายประมาณ 6 ช่วงชีวิตของปูยี ลองไปอ่านกันได้เลยยย
ช่วงที่ 1
ปูยี เป็นใคร ทำไมได้ครองบัลลังค์
-ปูยีเป็นหลานของ กวงซวี่ จักรพรรดิคนที่11ของราชวงศ์ชิง โดยพ่อปูยี เป็นน้องคนละแม่ของกวงซวี่ และกวงซวี่ไม่มีลูก ซูสีไทเฮาเลยให้รับปูยีเป็นลูกบุญธรรม
-กวงซวี่ต้องการปฏิรูปให้ทันสมัย แต่ซูสีไทเฮาไม่ยอม เลยถูกยึดอำนาจโดยซูสีไทเฮาแล้วเอากวงซวี่ไปขังไว้จากนั้นก็ตาย ว่ากันว่าที่จักรพรรดิกวงซวี่ตายเพราะเพราะซูสีไทเฮาวางยา เพราะมีการตรวจพบสารหนูในร่างกายที่มากกว่าปกติถึง2,000เท่า
-ปูยีตอนอายุ2ขวบ 10เดือน ซูสีไทเฮาแต่งตั้งให้เป็นจักรพรรดิ เพราะเป็นเด็กจะได้บงการได้ง่าย แต่หลังจากแต่งตั้งได้ไม่นาน ซูสีไทเฮาก้ตาย และองค์ชายไจ้เฟิง ที่เป็นพ่อปูยี เลยมาเป็นผู้สำเร็จราชการแทน
ช่วงที่ 2 ชีวิตก่อนถูกถอนจากบัลลังก์
-ด้วยความเป้นจักรพรรดิเลยถูกเลี้ยงเเบบโอรสสวรรค์ มีคนคอยปรนิบัติรับใช้ตลอดเวลา ทำให้ไม่ต้องทำไรเองทั้งนั้น
-ล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อ คือมีคนทำให้ทั้งหมด
-สั่งได้ทุกคน ใครทำให้ไม่พอใจ สั่งโบยสั่งฆ่าได้หมด
-หรือสั่งให้ขันทีทำไรก็ต้องทำ เช่น กินเศษแก้ว กินเศษไม้ ใครขัดขืนไม่ได้ก็เลยคิดว่าตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของทุกอย่าง
-ปูยีมีแม่นม ที่ให้นมปูยีมาจนถึง8ขวบ เป็นคนเดียวที่ปูยีเชื่อฟัง และเค้าพึ่งรู้ตอนโตว่าแม่นมสูญเสียลูกแท้ๆของตัวเองเพราะต้องมาทำงานเป็นเเม่นมของตน
-ปูยียังเป็นเด็กเลยมีพ่อเป็นผู้สำเร็จราชการแทน จนถึงปี1911 หลังจากนั้นพระนางหลงวี่ เป็นหลานซูสีไทเฮา และเป็นมเหสีของกวงซวี่(จักรพรรดิองค์ก่อน) เป็นผู้ควบคุมอำนาจแทนเพื่อเผชิญหน้ากับการปฏิวัติซินไฮ่และเป็นคนลงนามในปูยีสละราชสมบัติ
-ตอนที่สละราชบัลลังก์ ปูยีมีอายุ6ขวบ
ช่วงที่ 3 ปูยี หลังถูกถอนจากบัลลังก์
- ปูยีเหลือเพียงตำแหน่งในราชวงศ์และได้รับการสนับสนุนเงินจากรัฐบาลสาธารณรัฐปีละ4ล้านเหรียญ และให้มีอำนาจแค่ในพระราชวังต้องห้ามส่วนเหนือ ก็คือตำหนักส่วนพระองค์และพระราชวังฤดูร้อนอี้เหอหยวนได้เท่านั้น
- ปูยีตอนนั้นเองก็ใช้ชีวิตเป็นเจ้าชีวิตคนในวัง ทำนิสัยแบบเดิมคือไม่มีใครสามารถว่ากล่าวได้ โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าข้างนอกวัง มันไม่เหมือนเดิมแล้ว
- ปูยีก็ได้รับการเรียนจากอาจารย์ทั้งชาวจีนและชาวฝรั่งชื่อ จอนสตัน มาเรื่อยๆ และได้ให้น้องชายกับลูกพี่ลูกน้องจากนอกวังเข้ามาร่วมเรียนด้วย จะได้ไม่เหงา
- ทีนี้น้องชายแท้ๆของปูยีใส่เสื้อสีเหลือง ทำให้ปูยีโกรธน้องมาก เพราะสีเหลืองเป็นสีของจักรพรรดิเท่านั้น คนอื่นไม่สามารถใส่ได้ แต่น้องชายก็บอกว่าข้างนอกเค้าก็ใส่กันทั่วไป ทำให้ปูยีเริ่มเอะใจ และเอาสิ่งที่สงสัยไปถามอาจารย์ฝรั่งคือ จอนสตัน เพราะถ้าถามข้าหลวงคนจีนก็ไม่ค่อยมีใครยอมบอก บอกแต่ว่าปูยียิ่งใหญ่ที่สุด ไม่มีใครมาเหนือโอรสสวรรค์ได้
- ปูยีถึงกับปีนกำแพงวังต้องห้ามเพื่อดูว่าข้างนอกเป็นยังไงแต่ก็มองเห็นได้ไม่ไกล ด้วยเพราะสายตาสั้น และตอนนั้นก็ลงจากหลังคาเองไม่ได้ด้วย
- อาจารย์ฝรั่งเลยเป็นคนบอกเรื่องราวความเป็นไปของโลกภายนอกวังต้องห้าม ที่กลายเป็นสาธารณรัฐ และมีผู้ปกครองรัฐอีกคนนึง
- ปูยีเลยรู้ว่าตัวเองเหมือนไม่ใช่ผู้ปกครองคนเดียวของแผ่นดินอีกต่อไป
ช่วงที่ 4 ปูยี ถูกให้ออกจากพระราชวัง แล้วไปไหนต่อ
-เมื่อด้านนอกวังเป็นสาธารณรัฐ กลับมีกลุ่มคนที่อยากจะให้ระบอบจักรพรรดิกลับมาเเบบเดิม แต่ทำการไม่สำเร็จ ทำให้ฝ่ายสาธารณรัฐขับไล่ปูยีออกจากวังต้องห้าม
-ปูยีไปเทียนจินโดย ความช่วยเหลือของญี่ปุ่นและไปเป็นหุ่นเชิดให้ญี่ปุ่น โดยเป็นจักรพรรดิที่จักรวรรดิแมนจูกัว
-พอญี่ปุ่น แพ้สงครามโลกครั้งที่2 ปูยีที่กำลังจะหนีก็โดนโซเวียตจับกุมตัว เพื่อใช้ต่อรองทางการเมือง จึงส่งตัวปูยีกลับไปให้รัฐบาลจีนคอมมิวนิสต์ ก่อนที่จะถูกควบคุมตัวเป็นนักโทษทางการเมืองและไปอยู่ในค่ายกักกันในประเทศจีน
ช่วงที่ 5 ปูยี กลายเป็นนักโทษทางการเมือง
-ปูยีคิดตลอดว่าต้องตายแน่ๆ เหมือนพระเจ้าซาร์ของรัสเซีย ที่ถูกฆ่าทั้งตระกูลหรือ พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ของฝรั่งเศสที่โดนตัดคอ ต้องไม่มีใครไว้ชีวิตคนในราชวงศ์แน่ๆ
-แต่กลายเป็นว่า ปูยีและราชวงศ์ได้รับการไว้ชีวิตและไปเข้าค่ายกักกันเพื่อปรับทัศนคติ และยอมรับในลัทธิคอมมิวนิสต์
-ในค่ายปูยีต้องทำทุกอย่างเอง เพราะในค่ายจะมีการสอนเกี่ยวกับคอมมิวนิสต์ และให้เขียนบันทึกความผิด และทุกคนไม่มีใครเป็นนายบ่าว ทุกคนเท่าเทียมกัน รวมทั้งข้ารับใช้เอย ญาติๆปูยีเอง พอได้เข้าอบรมก็คิดขึ้นมาได้ว่า ไม่จำเป็นต้องรับใช้ปูยีอีกต่อไป และปูยีก็ไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่รวมกับญาติและข้ารับใช้เดิม ต้องไปอยู่กับคนอื่น
-การทำปูยีทำไรเองไม่เป็นเลย ทำให้ทำทุกอย่างช้ากว่าคนอื่น ติดกระดุมก็ติดไม่ได้ ผูกเชือกรองเท้าไม่ได้ ซักผ้าไม่ได้ ทำให้โดนบูลลี่อยู่เสมอ เหมือนพึ่งมาฝึกทักษะการใช้ชีวิตประจำวันตอนอายุ50 ไม้แก่ก็ดัดยากหน่อย
-เหมาเจ๋อตุง ต้องการเปลี่ยนให้ปูยีที่เป็นจักรพรรดิ ซึ่งมันเป็นสัญลักษณ์ของศักดินา ให้กลายมาเป็นสามัญชน และใช้ชีวิตแบบคนสามัญให้ได้ เพื่อเป็น propaganda ว่า แม้แต่จักรพรรดิก็สามารถใช้ชีวิตปกติในระบบคอมมิวนิสต์
-ซึ่งเหมาก็ทำสำเร็จ หลังจากการอยู่ในคุกมา 10ปี ปูยีก็ยอมรับชีวิตแบบสามัญชน พลเมืองจีน และเกิดความศรัทธาในระบอบการปกครองใหม่ ที่สามารถทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคน ดีขึ้นมากกว่าระบอบจักรพรรดิ
ช่วงที่ 6 ปูยี เมื่อเป็นสามัญชน
- หลังออกจากค่ายกักกัน เพราะทำไรไม่เป็นเลย ก็เลยได้งานในสวนพฤษศาสตร์ และเค้าก็ทำหน้าที่ได้ดี รับเงินเดือนที่ไม่ได้มาก แต่ก็พอในการใช้ชีวิต
- การใช้ชีวิตก็จะลืมเส้นทาง ลืมของ ลืมนู่นนี่ตลอดเวลา เพราะไม่เคยต้องจำอะไรเอง เคยเดินๆทางปกติก็หลงทาง และไปไหนต่อไม่ได้จนคนต้องมาช่วยพากลับบ้าน
- เมื่อเกิดการปฏิวัติวัฒนธรรม เกิดยุวชนแดงขึ้น โดยเป็นกลุ่มที่ต้องการทำลายสัญลักษณ์ของศักดินา ปูยีก็เป็นคนที่ถูกเพ่งเล็งและตามฆ่า แต่คนทางพรรคคอมมิวนิสต์ได้ช่วยเหลือไว้ ทำให้รอดชีวิตมาได้
- แต่สุดท้ายล้มป่วยด้วยมะเร็ง และไม่ได้รับการรักษาที่ดี เพราะความที่หมอไม่รักษาเพราะไม่อยากมีส่วนร่วมกับระบบศักดินาที่เลวร้าย ปูยีจึงตายในวัย 61 ปี

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา