Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Amy.me
•
ติดตาม
28 ส.ค. 2023 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
อ่านประวัติศาสตร์ประเทศเกาหลีเหนือ จาก 6 ผู้แปรพักตร์
Nothing to envy ในดินแดนไร้แสง
"จงดำเนินชีวิตตามแบบของเราเถิด "
"เราจะทำตามที่พรรคบอก "
"เราไม่จำเป็นต้องอิจฉาใครในโลกนี้"
ข้อความ propaganda เกาหลีเหนือ
เพลง ยิงไอ้แยงกี้ชาติชั่ว เป็นเพลงที่สอนในวิชาดนตรีของเด็กๆ ซึ่งเป็นเพลงที่เด็กร้องกันทั่วไปในเกาหลีเหนือ
"ศัตรูของเราคือไอ้มะกันชาติชั่ว
พวกมันพยายามยึดปิตุภูมิอันงดงามของเรา
ด้วยปืนที่ข้าทำเองกับมือ
ข้าจะยิงพวกมัน ปัง ปัง ปัง"
ขอปูพื้นก่อนว่าความเป็นมาเกาหลีก่อนจะแยกประเทศเป็นยังไง
เดิมเกาหลีคือโชซอนประเทศเดียว เหมือนที่เราดูหนังพีเรียดเกาหลีกันเลย
ประมาณปี 1910 ญี่ปุ่น มายึดเกาหลี จากนั้นปี 1945 ญี่ปุ่น ยอมแพ้สงคราม ถอยทัพกลับทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองในเกาหลี เพราะไม่มีคนปกครอง เมกาก็ไม่ได้มีแผนจะเอาเกาหลีไปทำอะไร แต่ตอนนั้นโซเวียตได้เข้าครองดินแดนส่วนบนของเกาหลีเเล้วก่อนญี่ปุ่นถอยทัพแปบนึง
พอโซเวียตได้ทางเหนือไปแล้ว เมกาก็ไม่อยากไปแย่ง แต่ตอนนั้นเมกาประจำอยู่กรุงโซล เลยแบ่งเส้นเอาเลยทีเส้นขนาน38 โดยไม่ได้ใช้เส้นทางธรรมชาติแบบประเทศอื่น
ตอนนั้นคนเกาหลีก็มีการโยกย้าย อพยพไปเหนือหรือใต้ ฝั่งเหนือมีคิมอิลซุง เป็นผู้นำ และอีซึงมัน เป็นผู้นำฝั่งใต้ ทำให้บางคนก็ต้องพรากจากครอบครัว รวมทั้งเกิดสงครามระหว่างเหนือใต้มาตลอดกว่าจะจบสงครามก็มีคนล้มตายไปมาก และผู้คนที่ถูกแบ่งแยกก็ไม่มีวันได้เจอกันอีกต่อไปจนถึงปัจจุบัน
เนื้อหาในเล่มเป็นการบอกเล่าเรื่องราวจริงของผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือ 6 คน ที่สัมภาษณ์โดยคนเขียนหนังสือเล่มนี้ เป็นชาวอเมริกัน ที่ทำงานเป็นนักข่าวที่กรุงโซล ซึ่งมีการปิดบังชื่อจริงของเหล่าผู้แปรพัตร์ และใช้เป็นชื่ออื่นแทน ที่จริงเล่มนี้ภาษาอังกฤษเขียนมาตั้งแต่ปี 2009 และพึ่งเอามาแปลไทยปี2022 แต่เนื้อหาสนุกเหมือนอ่านนิยาย ผู้แปลแปลได้ดีมาก อ่านไหลลื่นมากๆ
เท้าความเกาหลีเหนือว่าเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ที่นับถือผู้นำเหมือนเป็นพระเจ้า ในประเทศ ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่ภาพของผู้นำต้องสว่างไสวตลอดเวลา ห้ามใครกล่าวถึงผู้นำในทางที่ไม่ดี ไม่งั้นถูกจับไปอยู่ในสถานกักกัน โดนลงโทษให้ใช้แรงงาน ถ้าเห็นใครพูดไม่ดีใส่ผู้นำ สามารถเอาไปฟ้องทางการได้เลย ประชาชนเป็นตำรวจกันเอง ทุกคนต้องติดรูปผู้นำทุกบ้าน ต้องเอามาทำความสะอาด มีทางการคอยตรวจ ถ้ารูปสกปรกจะโดนทำโทษ ผู้นำคือผู้ให้ชีวิต
ประเทศเกาหลีเหนือที่มีอาหารการกินที่พรรคแจกคือประเสริฐที่สุดแล้ว เพราะเค้าจะรับรู้ข่าวแค่ที่พรรคต้องการ เข้าใจกันว่านอกประเทศมีสงคราม ไม่มีแม้กระทั่งอาหารแบบที่พวกเค้ามี ถึงแม้จะได้หัวมัน 1 ก้อน ก็คือเป็นบุญคุณผู้นำ ต้องเทิดทูนบูชา
เกาหลีเหนือมีช่วงที่คนตายเพราะขาดอาหารถึง 2 ล้านคน แต่ก็ยังโดนปิดข่าว การเห็นคนตายข้างถนนเป็นเรื่องปกติ และผู้คนไม่เข้าใจคำว่า เห็นอกเห็นใจ เพราะไม่มีคลังคำศัพท์นี้ในหัว แต่ตอนที่คิมอิลซุงตาย มีคนร้องไห้กันจนเป็นบ้า บางคนฆ่าตัวตายตามไปเลยก็มี ถือว่าการ propaganda ได้ผลอย่างมาก เหมือนหนังสือ 1984 ที่เล่าถึงประเทศดิสโทเปีย
เรื่องราวของผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือ 6 คน ไม่ได้รู้จักกันทุกคน แต่ได้ร้อยเรียงเรื่องได้เนียนกริบ ไหลลื่นมากๆ
เริ่มด้วย ผู้ชายคนนึงเป็นทหารเกาหลีใต้ ตอนที่เกิดสงครามเกาหลี เค้าถูกจับมาเป็นเฉลยในเกาหลีเหนือ โชคร้ายมากเพราะชีวิตเกาหลีใต้ของเค้าก็จบลง และต้องใช้ชีวิตในเกาหลีเหนือ แต่งงานมีลูก แต่ไม่สามารถบอกใครได้ เพราะการที่เป็นเกาหลีใต้ คือความแปดเปื้อน ไม่ยอมรับ ไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์ รวมทั้งไม่สามารถสืบหาสายตระกูลในเกาหลีเหนือได้ ทำให้ลูกๆของเค้า ถึงแม้จะเรียนเก่งก็ไม่สามารถถูกคัดเลือกให้ทำงานในตำแหน่งดีๆได้ เพราะในเกาหลีเหนือ สายเลือดบริสุทธฺ์สำคัญมาก
เค้ามีลูกสาวคนนึง ที่เป็นเด็กที่ความคิดไม่เหมือนเกาหลีเหนือทั่วๆ ไป ก็มีความรักกับชายหนุ่มอีกบ้าน โดยชายหนุ่มมีสายเลือดสูงส่งและร่ำรวย แต่การรักกันของหนุ่มสาวในเกาหลีเหนือคือไม่สามารถทำได้อย่างเปิดเผย ผู้หญิงโดนจำกัดสิทธิเยอะมาก ขี่จักรยานไม่ได้ด้วย ถ้าจะเจอกันก็คือต้องแอบมาเจอกันข้างนอกตอนดึก ไม่งั้นเดี๋ยวมีคนเห็น และทำได้แค่พูดคุยกันห่างๆ และไม่สามารถบอกความในใจกันได้
หรือคุณนายบ้านนึงเป็นคนรักและเทิดทูนผู้นำมาก แสดงให้เห็นถึงความอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว และบูชาตัวบุคคลสุดขีด แต่ก็ผ่านเรื่องราวต่างๆ จนยอมแปรพักตร์ และเปลี่ยนไปเป็นอีกคนนึงที่มีความคิดใหม่ได้
เส้นทางการหลบหนีของผู้แปรพักตร์ ส่วนมากจะไปทางประเทศจีน รอให้แม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็งและติดสินบนทหาร และแอบเดินข้ามไปเข้าประเทศจีน โดยต้องระวังไม่ให้โดนทหารจีนจับได้ ถ้าถูกส่งตัวกลับคือไปใช้แรงงานที่ค่ายกักกัน ถ้าบ่อยๆเข้าก็อาจถูกทรมานจนตายได้ พอไปจีนก็ต้องไปหางานทำเพื่อให้มีข้าวกิน มีเงินใช้หนีต่อไป ส่วนมากถ้ามีเงินพอ ก็จะจ้างให้ปลอมพาสปอร์ด เพื่อบินจากจีนไปเกาหลีใต้เลย และแค่ไปบอกคนที่สนามบินเกาหลีใต้ ทุกคนก็พร้อมจะพาไปยังเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้แปรพักตร์
ถ้าไม่มีเงิน ก็อาจจะต้องเดินไปมองโกลเลีย หรือ เดินผ่านประเทศลาวเข้ามาประเทศไทย อยู่ในคุกไทยแปบนึงเพราะเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย และจะถูกส่งตัวไปเกาหลีใต้ฟรี ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีที่ต่างกันไป
เมื่อได้ไปเกาหลีใต้ในฐานะผู้แปรพักตร์ ก็ต้องเข้าคอร์สอบรมการใช้ชีวิต เพราะเกาหลีเหนือเหมือนถูกแช่แข็งไว้ตั้งแต่ปี 1950 แต่เกาหลีใต้พัฒนาไปไกลมากแล้ว เป็นประเทศอันดับต้นๆของโลก ทำให้การใช้ชีวิตไม่ได้ง่าย บางคนที่ปรับตัวไม่ได้ก็มีถึงขั้นอยากกลับไปรับโทษที่เกาหลีเหนือเลยทีเดียว ครอบครัวของผู้แปรพักตร์ก็อาจถูกรับโทษได้เช่นกัน แต่ไม่มีใครสามารถเอาเรื่องราวโหดร้ายเหล่านั้นออกจากเกาหลีเหนือมาเล่าให้เราฟังได้เลย
สุดท้ายยังมีรายละเอียดอีกมากมายในเล่ม ที่เล่าออกมาได้ไม่หมดจริงๆ เพราะเยอะมาก อยากให้ทุกคนได้ลองอ่านดูค่ะ
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
History book
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย