17 ก.ย. 2023 เวลา 07:43 • ท่องเที่ยว
Castle Combe

ขับรถตะลุยเดี่ยวเที่ยว Castle Combe แถมด้วย Tips สำหรับการไปเที่ยว Cotswolds

Chapter 64/6: Castle Combe
มาถึงวันสุดท้ายที่ Cotswolds แล้ว เอาจริงๆ ยังไม่อยากกลับเลยอยากอยู่เที่ยวต่อเพราะยังมีอีกหลายหมู่บ้านที่ต้องตัดทิ้งไปจากลิสเพราะเจอฝนตก ไม่ว่าจะเป็น Burford, Upper / Lower Slaughter, Blockley และอีกหลายๆ ที่ เสียดายมากกกก แต่คิดว่าโอกาสหน้าถ้าได้มาอีกจะไปเก็บที่เหลือให้ได้แน่นอน
 
แพลนวันนี้สบายๆ แค่หมู่บ้านเดียวพอเพราะจะต้องกลับเข้าลอนดอนและเอารถไปคืนก่อน 5 โมงเย็น และเส้นทางไปหมู่บ้านนี้จะฉีกไปจากที่อื่นๆ ก็เลยเอาเป็นที่สุดท้ายสำหรับปิดทริป Cotswolds ซะเลย หมู่บ้านนี้คือ Castle Combe ค่ะ
เราออกจาก Cheltenham 11 โมงเช้าใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเลยกว่าจะถึง Castle Combe พอไปถึงหมู่บ้านเราขับผ่านจุดจอดรถแบบเสียตังค์แล้วนะ แต่อยากลองเสี่ยงดูว่าจะได้ที่จอดที่อื่นมั้ย ก็ตามคาดค่ะ…ไม่มีเลย 😭 สรุปเลยกลับมาจอดที่เดิม
คราวนี้เจอตู้เก็บตังค์ที่เป็นมิตรหน่อย จ่ายตังค์ง่ายมาก วิธีการก็แค่
  • 1.
    Download App MIPERMIT จาก QR Code ที่อยู่ข้างตู้
  • 2.
    เลือกเบอร์ตู้ที่จะจ่ายเงิน (Location Number ที่แปะอยู่ข้างตู้)
  • 3.
    เลือก Pay to park ใส่เลขทะเบียนรถ ใส่เวลาที่ต้องการจอดตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง
  • 4.
    ใส่เบอร์บัตรเครดิตเพื่อจ่ายตังค์
  • 5.
    พอหน้าแอพขึ้นโชว์ว่า Payment Successful แบบนี้ก็เป็นอันเสร็จ
ง่ายมะ ป่ะ…ได้เวลาไปเดินเล่นกันละ
จากที่จอดรถต้องเดินขึ้นเขาลงเขาเล็กน้อยประมาณ 10 นาที ทางเดินจะดูเป็นป่าๆ นิดหน่อยแต่ไม่น่ากลัว เดินไปเดี๋ยวๆ ก็จะเจอนักท่องเที่ยวประปรายให้พอได้อุ่นใจ
ถึงตัวหมู่บ้านแล้ว
Castle Combe
Castle Combe เป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ในเขต Wiltshire (วิลต์เชียร์) มีแม่น้ำ Bybrook ไหลผ่าน มีประชากรแค่ประมาณ 350 คนเท่านั้นเอง
เมื่อเข้ามาใน Castle Combe จะเจอกับ Market Cross ลานตลาดเล็กๆ สำหรับให้บรรดาพ่อค้าเข้ามาทำการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ากัน
Castle Combe
ใกล้ๆ กับ Market Cross จะเจอกับ St Andrew's Church ซึ่งถูกสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13
St Andrew's Church
ภายในโบสถ์มีรูปจำลองของ Sir Walter de Dunstanville บารอนแห่ง Castle Combe ด้วย และสังเกตุเห็นมั้ยว่าที่ขาของรูปปั้นไขว้กันอยู่ด้วยนะ
Sir Walter de Dunstanville
การไขว้ขาเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกให้รู้ว่าท่านบารอนผู้นี้ได้ไปรับใช้ศาสนาในการร่วมรบในสงครามครูเสดนั่นเอง
เดินออกไปด้านหลังโบสถ์เป็นสุสานล้วนๆ แล้วเชื่อมะสุสานที่นี่อยู่ติดกะโรงแรมเลยค่า
เดินทะลุมาด้านหลังโบสถ์จะเจอกับโรงแรม
วันที่เรามาเป็นวันจันทร์ด้วยเลยคนน้อยๆ ดี
บรรยากาศภายใน Castle Combe ฝนกำลังจะตกอีกแล้ว
ที่นี่จะมีสะพานเล็กๆ น่ารักอยู่อันนึงที่คนชอบมาถ่ายรูปกัน แต่ตอนที่เราไปเจอครอบครัวนึงนั่งครองสะพานกันนานมากไม่ไปไหนเลย เลยไม่ได้ถ่ายรูปสะพานโล่งๆ มาฝากเลย ไม่เป็นไรถ่ายจากด้านหลังเป็นที่ระลึกก็ได้ สวยเหมือนกัน
Castle Combe
Castle Combe เป็นหมู่บ้านเล็กๆ เหมือน Bibury เลย เดินเล่นประมาณชั่วโมงเดียวก็ทั่วแล้ว
เดินกลับมาถึงรถฉิวเฉียดเลยเพราะจ่ายค่าจอดรถไปแค่ชั่วโมงเดียว ตอนนี้ก็ได้เวลากลับเข้าลอนดอนกันแล้วค่า ให้ดูถนนใน Cotswolds เหมือนถนนต่างจังหวัดบ้านเราเลยแหละ แต่ถนนที่นี่ค่อนข้างดีเลยนะเรียบมากไม่ค่อยเจอเป็นหลุมเป็นบ่อ
ก่อนคืนรถไม่ลืมแวะปั๊มน้ำมันในสนามบินเพื่อเติมน้ำมันคืนก่อน
ขอบคุณรถคู่ใจคันนี้ที่เป็นเพื่อนร่วมทางที่แสนดีของเรา
อ้อ…จะบอกว่าสนามบินส่วนใหญ่จะมีปั๊มน้ำมันอยู่ข้างในด้วยนะ ลองหาปั๊มที่ใกล้จุดคืนรถดู เราว่าสะดวกดี
ขั้นตอนคืนรถนี่ง่ายโฮก แค่เข้าไปตามป้ายที่บอก เอากุญแจรถให้คนรับรถ เซ็นเอกสารคืนรถ จบ (ถ้าไม่มีอะไรเสียหายต้องเคลมนะ) ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที
จากนั้นก็นั่งรถ Shuttle Bus จากจุดเช่ารถกลับไปที่ Terminal เดิมเพราะเราจะไปขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Elizabeth Line กลับเข้าเมืองไปลงที่ Tottenham Court Road
Wow…ข้างในตู้สวยและใหม่มากๆ
ค่ารถไฟเข้าเมืองของ Elizabeth Line จะแพงกว่า Piccadilly Line พอสมควรและเราขึ้นช่วงเวลา peak time (ประมาณสี่โมงเย็น) ซึ่งเป็นช่วงที่คนใช้เยอะด้วยราคาก็จะแพงขึ้นอีก อยู่ที่ 13.30 ปอนด์ แต่สายนี้ใช้เวลาในการเดินทางแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงเอง ในขณะที่ถ้าขึ้น Piccadilly Line จะต้องใช้เวลาชั่วโมงนึง
ตัวสถานีที่เชื่อมต่อ Elizabeth Line จะสวยและใหม่มาก
สถานีที่เชื่อม Elizabeth Line จะมีบันไดเลื่อนและลิฟต์ครบไม่ต้องยกกระเป๋าขึ้นบันไดให้เหนื่อยเหมือน Piccadilly Line ดีมากเลย
ถึงแล้ว…เดินออกมาจากสถานี Tottenham Court Road ก็เจองานแสดงแสงสีเสียง The Space In-Between พอดี (ดูงานแสดงสวยๆ ในคลิปข้างใต้ได้เลยค่ะ)
ของจริงสวยมากๆ
จากสถานีเราเดินประมาณ 10 นาทีก็ถึงบ้าน Airbnb ที่เดิมที่เคยมาพักในย่าน SoHo
safe & sound ถึงที่พักที่ลอนดอนละจ้า
Mission Cotswolds ของเราสำเร็จด้วยดี 🎉 ขับรถไปทั้งหมด 570 กม. เองขำๆ 🤪 มื้อเย็นฉลองความสำเร็จที่กลับมาลอนดอนแบบสวยๆ ด้วยการไปกินก๋วยเตี๋ยวหม่าล่าแถวบ้านซะเลย
อร่อยมาก 😋 เอ๊ะ! หรือหิว
และตามสัญญา รวม Tips สำหรับคนที่จะเดินทางไปเที่ยว Cotswold ค่ะ จากประสบการณ์ของเราเองล้วนๆ บางเรื่องก็ควรรู้ บางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องรู้ 🤣 แต่ก็อาจจะเป็นประโยชน์นะจ๊ะ
  • 1.
    การเดินทางไปเที่ยว Cotswolds ทำได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็น
  • ซื้อทัวร์จากลอนดอนที่มีทริปและจำนวนวันให้เลือกได้ตามใจชอบ
  • มาด้วยรถสาธารณะซึ่งอาจจะต้องเดินทางหลายต่อหน่อย เท่าที่ดูมีเที่ยวรถไฟจากลอนดอนไปลงหมู่บ้านใน Cotswolds หลายที่เลย แต่เวลาเดินทางระหว่างหมู่บ้านก็อาจจะต้องใช้รถแท็กซี่มั่ง รถบัสมั่ง
  • เช่ารถขับเอง ซึ่งเราเลือกขับรถมาเองเพราะสะดวกสำหรับเราที่สุด
2. การเช่ารถ สามารถเช่ารถจาก Heathrow Airport เลยประหยัดเวลาเดินทางด้วยเพราะไป Cotswolds ต้องมาทางนี้อยู่แล้ว
 
เราเช่ารถกับ Budget และนั่ง Shuttle bus ของ Budget มาที่ศูนย์รับรถ (ดูให้ดีเพราะบางเจ้าอาจคิดค่ารถ Shuttle bus ด้วยแต่ของ Budget ไม่มี) ตอนเช่ารถเสร็จเค้าจะเมล์มาคอนเฟิร์มและบอกข้อมูลให้ว่าต้องมาขึ้นรถที่ไหน อย่างของเราลงเครื่องที่ Terminal 2 ก็มาขึ้นรถที่ Bus Stop 7-8 โดยรถจะเวียนมารับทุกๆ ประมาณ 10 นาที
ตอนคืนรถก็คืนที่เดิมที่ไปรับเลย จะมีช่องสำหรับคืนรถโดยเฉพาะ และจะมี จนท. ยืนรับรถอยู่ ตรวจสภาพเสร็จ (เค้าแค่เดินดูรอบๆ เอง) ก็เซ็นชื่อ…จบ
เติมน้ำมันขากลับ เราหาปั๊มที่อยู่ใน airport เลย จิ้ม Google Map เข้าไปเจอแน่นอน มีหลายปั๊มด้วย
อ้อ ! ในการเช่ารถ นอกจากต้องมีใบขับขี่สากลแล้ว อย่าลืมเอาใบขับขี่ตัวจริงของประเทศไทยไปด้วยนะ ไม่งั้นเช่ารถไม่ได้ !!!
3. การขับรถที่อังกฤษไม่ยากเลย เพราะมีป้ายบอกทางชัดเจนตลอดเวลา และเมื่อไหร่ที่เข้าเขตจำกัดความเร็ว GPS ของรถหรือใน Google Map ก็จะขึ้นเตือนให้รู้ทุกระยะ
และเอาจริง GPS เราว่าไม่จำเป็นต้องเช่ามาเลย สามารถใช้ Google Map ได้ ที่นี่มีสัญญาณตลอด และบางทีในรถที่เช่าก็มี GPS มาให้ด้วย
 
4. ขับรถบน Motor Way ง่ายและมันส์มากแค่ต้องรักษากฎจราจร รักษาความเร็วตามที่กำหนด ถ้าขับช้าก็อยู่เลนซ้ายเลย เลนขวาสุดมีไว้ให้สำหรับแซงเท่านั้น แซงเสร็จก็ควรกลับเข้าซ้ายไม่ขับจอดแช่เหมือนบ้านเรานะ
5. ถนนระหว่างหมู่บ้านต่างๆ ใน Cotswolds ส่วนใหญ่จะเป็นถนนเล็กๆ 2 เลนเท่านั้น แล้วสองข้างทางก็จะเป็นพงหญ้าสูงๆ แล้วก็ไม่ใช่ทางตรงๆ ด้วยนะ เดี๋ยวก็เลี้ยวซ้ายเดี๋ยวก็เลี้ยวขวา เราจะมองไม่ค่อยเห็นรถที่สวนมาล่วงหน้าเพราะหญ้าข้างทางมันบัง แถมบางครั้ง map ก็พาเราไปทางลัดซึ่งเป็นถนนเลนเดียวอี๊กกก ถนนเหมือนต่างจังหวัดบ้านเราเป๊ะ ขับละจะแปลกใจ นี่เราอยู่อังกฤษหรืออยู่วังน้ำเขียวนะเนี่ย 🤣 ค่อยๆ ขับไป ปลอดภัยค่ะ เรารอดมาแล้ว
6. ขับรถที่อังกฤษจะเจอ Round-About หรือวงเวียนเยอะมากๆ ตั้งสติดีๆ เพราะออกผิดชีวิตเปลี่ยน ค่อยๆ ขับตาม Google Map ไปไม่ต้องรีบ และวงเวียนมีทั้งบนถนนหลักอย่าง Motor Way ถนนในเมือง ถนนในหมู่บ้าน บางที่เป็นแค่รูปวงกลมบนถนนด้วยซ้ำ แต่ไม่ต้องกังวล Google Map มันจะบอกเราเอง
 
วิธีขับต้องให้รถที่อยู่ในวงเวียนไปก่อนเสมอ เพราะรถข้างในเค้าจะไม่ชะลอ ถ้าเราทะเล่อทะล่าเข้าไปอาจเกิดอุบัติเหตุได้ เพราะฉะนั้นดูให้ดีๆ
7. การให้ทางกัน ถ้าเจอรถบนถนนแคบ เราจอดหยุดให้คันอื่นไปก่อนได้ หรือถ้าเค้าเป็นทางหลักก็ให้เค้าไปก่อน วิธีบอกขอบคุณเค้าจะยกมือให้ (ตลอดเวลาที่ขับ เราไม่เคยเจอใครไม่ยกมือขอบคุณเลยนะ มันเป็นมารยาทเลย)
8. หมู่บ้านส่วนใหญ่ที่เราไปจะมีที่จอดรถฟรี สามารถจอดตามจุดจอดหรือริมฟุตบาทได้เลย
 
อ้อ! ถ้าจอดริมฟุตบาทต้องจอดให้อยู่ภายในเส้นประสีขาวด้วยนะ (นั่นแสดงว่าตรงนั้นจอดได้) แต่ถ้าหาที่จอดไม่ได้ก็ค่อยไปจอดตามจุดจอดที่เสียตังค์
แล้วจะรู้ได้ไงว่าที่ไหนต้องเสียต้องตังค์ค่าจอด ก็มองเอาจากรถข้างๆ ว่าเค้าวาง ticket ไว้ที่หน้ารถหรือเปล่า ถ้าที่ไหนมีเก็บค่าจอดรถ รถทุกคันก็จะวาง ticket ไว้ข้างหน้ารถด้านคนขับค่ะ
9. วิธีจ่ายค่าจอดรถ ส่วนใหญ่จะเป็นตู้หยอดเหรียญหมดเลยจ่ายด้วยบัตรเครดิตไม่ได้ เราไม่ได้เอาเหรียญมาเลยเกือบซรวย ที่เจอว่าต้องจ่ายค่าจอดรถก็มีที่ Broadway Tower อันนี้สามารถเดินเข้าไปจ่ายด้วยบัตรเครดิตในร้านขายของได้เลย และก็ที่ Castle Combe อันนี้จะมีตู้เก็บเงิน (ตามรูปข้างบน) สามารถจ่ายผ่าน app ได้เลย บางหมู่บ้านถ้าไปวันอาทิตย์ก็ให้จอดฟรีด้วยนะอย่างที่ Cirencester
10. ห้องน้ำสาธารณะมีทุกหมู่บ้าน และค่อนข้างสะอาด แต่เก็บค่าเข้านะจ๊ะ 0.40 P (ประมาณ 20 บาท) รับแต่เงินสดไม่มีทอนด้วย และจ่ายด้วยบัตรเครดิตไม่ได้ เพราะฉะนั้นติดเหรียญไปด้วยเด้อ
11. ควรวางแผนเส้นทางดีๆ เพราะแต่ละหมู่บ้านใกล้กันก็จริง แต่ถ้าเราวางแผนการเดินทางไว้ก่อนจะได้ไม่ต้องเสียเวลาขับย้อนไปย้อนมา
 
ทำไงหรอ…ง่ายมาก แค่ปักหมุดที่ที่เราจะไปทั้งหมดบน Google Map และก็ดูเส้นทางเอา สลับก่อนหลังให้ดีแค่นี้เอง
12. แนะนำว่า Bourton-on-the-Water ควรไปเป็นที่แรกของวันเพราะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวสุดๆ ไปถึงซัก 10 โมงเช้าจะยังมีที่จอดรถและคนยังน้อยเดินเที่ยวถ่ายรูปสบาย ถ้าไปสายคนจะเยอะมากกก
13. คหสต. เราคิดว่าช่วงที่น่าไป Cotswolds มากที่สุดคือช่วง Summer นี่แหละ เพราะอากาศจะดีมาก (ถ้าไม่มีฝนตกนะ) แดดสวยฟ้าใส (เกือบตลอด) ถ่ายรูปงาม และที่สำคัญไม่ต้องทรมานกับความหนาวมาก
 
รีวิวที่พักที่ Cheltenham อยู่ใน Chapter ข้างล่างนี้น้า...เผื่อใครยังไม่เคยอ่าน
และ link ของบ้านที่พักอันนี้ค่ะ https://th.airbnb.com/rooms/12067493?guests=1&adults=1&s=67&unique_share_id=c44ab6ec-c19e-4d4b-a214-bbd09f4cd28c
1
เท่าที่จำได้มีประมาณนี้ แต่ถ้าใครมีคำถามเพิ่มเติมถามมาได้เลยนะคะ ถ้าอันไหนไม่รู้จะพยายามช่วยหาคำตอบให้ 😊
เราชอบการเที่ยวแบบวางแผนล่วงหน้าเพราะเราไปคนเดียวก็เลยอยากเที่ยวแบบสนุกและปลอดภัย…แต่ไม่ว่าทุกคนจะเลือกเดินทางแบบไหน ยังไง ก็ขอให้ไปเที่ยวกันอย่างมีความสุข สนุก และปลอดภัยนะคะ 😉
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า ทริปนี้นี่ภูมิใจมากเลยเพราะเราทำทุกอย่างด้วยตัวเองคนเดียวโคดรู้สึกดีเลย…เหมือนตัวเองเก๊งเก่ง 🤣 คือมันเป็นความรู้สึกว่าเอาชนะความกลัวทั้งหลายที่มีไปได้ เพราะเราเป็นคนขี้กลัวมาก กลัวตั้งแต่ไปรับรถ…จะไปถูกมั้ยว้า กลัวว่าขับรถที่ต่างประเทศจะเป็นไงมั่ง และก็โน่นนี่นั่นอีกเยอะ คือมันกลัวไปหมดอ่ะ
แต่ตลอดเวลาเราบอกกับตัวเองว่าเราทำได้น่า 😤 คนอื่นเค้าทำได้เราก็ต้องทำได้ดิ อย่าให้ความกลัวมันมาล็อกจนเราไม่เป็นอิสระ ไม่ได้ไปไหน หรือทำอะไรที่อยากทำ และเมื่อจบทริปจะรู้ว่า…นี่แหละความสุขของการเที่ยวคนเดียว มันโคดสนุกและโคดรู้สึกดีเลย
สำหรับ Blog นี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ แล้วเจอกันใน Blog ต่อไป ยังอยู่ที่อังกฤษนี่แหละแต่จะเที่ยวอยู่ในลอนดอนแล้ว อ้อ…มีที่เที่ยวใหม่ๆ มาเล่าให้ฟังหลายที่เลยน้า แล้วเจอกันค่ะ 😊
#Cotswolds #เที่ยวอังกฤษ #เที่ยวต่างประเทศ
#jwanderlust

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา