20 ก.ย. 2023 เวลา 13:55 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 01

ผู้เยาว์ไม่ควรอ่านสุยหู่
ชาวจีนมีข้อคิดถึงสองในสี่สุดยอดวรรณกรรมจีน
少不读水浒,老不看三国
ผู้เยาว์ไม่ควรอ่านสุยหู่ ผู้ใหญ่ไม่ควรดูสามก๊ก
ผู้ใหญ่ไม่ควรดูสามก๊ก
วรรณกรรมสามก๊กนั้นเหมือนเรียงร้อยด้วยพิชัยสงคราม เล่ห์กลทางการทูตแทรกอยู่ทั่วทุกบท จนในไทยมีคำกล่าวว่า ใครอ่านสามก๊กสามจบคบไม่ได้
1
ผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมาแล้ว มีความรู้ความเข้าใจพอว่าอะไรคือการใช้เล่ห์เพทุบาย ได้อ่านสามก๊กย่อมประเทืองปัญญา ที่ว่า ผู้ใหญ่ไม่ควรดูสามก๊กนั้น ย่อมไม่ใช่คำเตือนว่า อ่านไปแล้วจักกลายเป็นคนมากเล่ห์ หากเตือนไปเช่นนั้น คงไม่มีใครฟังกลับเหมือนไปกระตุ้นความสนใจให้หันมาศึกษา
2
วรรณกรรมสามก๊กเปิดฉากหลังจากบทกลอนนำว่า
话说天下大势,分久必合,合久必分。
กล่าวถึงแนวโน้มใหญ่ในใต้ฟ้า แยกนานแล้วรวม รวมนานแล้วแยก
เริ่มเดินเรื่องปลายยุคฮั่นตะวันออก อำนาจปกครองส่วนกลางล่มสลาย รวมนานแล้วแยก เหล่าขุนศึกแย่งชิงกันเป็นใหญ่ โจโฉล้มสกุลอ้วนสองพี่น้องอันเป็นอุปสรรคสำคัญ ครองอำนาจทางเหนือแม่น้ำฉางเจียงโดยมีศูนย์กลางอำนาจเหนือรัฐเว่ย (วุยก๊ก) ในยุครณรัฐ
1
ซุนเซ็กขยายอิทธิพลทางภาคใต้ แต่ต้องตายแต่ยังหนุ่ม อำนาจตกแก่ซุนกวนน้องชาย ส่วนเล่าปี่นั้นเร่ร่อนจนชรา หาที่ปักหลักไม่ได้ จนกระทั่งพบขงเบ้งวางยุทธศาสตร์หลงจง ให้ยึดเอาแคว้นปาสู่ (จ๊ก) เป็นฐานที่มั่น
ท้องเรื่องหลักอยู่ที่สีสันการขึ้นสู่อำนาจในช่วงนี้ แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนกันเท่าใด พอตกถึงรุ่นทายาทก็สูญเสียอย่างรวดเร็ว สกุลโจเสียอำนาจให้สกุลสุมา ขงเบ้งเบิกทางเข้าภาคกลางตลอดชีวิตก็ไม่สำเร็จต้องตายกลางศึก รัฐสู่จ๊กก๊กล่มสลายเพียงรุ่นที่สอง รัฐอู๋ง่อก๊กเกิดศึกภายในผู้เป็นใหญ่ผิดคลองธรรม ในที่สุดพ่ายแพ้ต่อจิ้น
อ่านสามก๊กไปหลายจบอาจปลงอนิจจัง ตัวละครที่โลดแล่นอย่างมีสีสัน ผ่านความลำบากมากมาย สุดท้ายเหลือแต่ความว่างเปล่า
ผู้เยาว์ไม่ควรอ่านสุยหู่
ตัวละครในสุยหู่นั้นองอาจห้าวหาญ ต่อต้านความอยุติธรรม อ้างคุณธรรมจนติดปาก สำหรับผู้เยาว์อาจประทับใจยึดถือเป็นแบบอย่าง โดยขาดประสบการณ์มากพอที่จะวิเคราะห์ว่าความห้าวหาญนั้นเต็มไปด้วยคาวเลือด ความอยุติธรรมนั้นมองจากแง่มุมของตน คุณธรรมที่อ้างถึงนั้นเป็นเพียงลมปาก
1
ซือไน่อันผู้ประพันธ์เองยังเขียนบอกเอาไว้ อย่างเช่นตอนเจ็ดดาวร่วมธรรม 七星聚义 ในตอนต้นเรื่องที่เฉาไก้รวบรวมคนมีดาวสัพพัญญูอู๋ย่งและสามหย่วนพี่น้องไปปล้นของขวัญวันเกิดที่จะส่งไปให้ราชครูไฉ้
2
学究知书岂爱财,阮郎渔乐亦悠哉!
只因不义金珠去,致使群雄聚义来。
 
ผู้รู้หนังสือยังอยากได้สมบัติ
ประมงหย่วนอัตคัดยิ่งชอบใหญ่
เงินทองไม่ชอบธรรมเป็นเหตุให้
ผู้กล้าใช้เป็นข้ออ้างร่วมชอบธรรม
1
เจ็ดดาวร่วมธรรมไม่ใช่โจรคุณธรรมที่ปล้นคนรวยไปช่วยคนจน แต่ปล้นได้ก็แบ่งกันเองแบบดำกินดำ ภายหลังทางการรู้เบาะแสจะตามจับเฉาไก้ซึ่งเป็นเป่าเจิ้ง ซ่งเจียงซึ่งขณะนั้นรับราชการเป็นยาซือรู้ข่าวเข้ารีบไปแจ้งให้หนี ด้วยยึดถือคุณธรรม แต่ซือไน่อันก็ตั้งคำถามว่า
保正缘何养贼曹,押司纵贼罪难逃。
须知守法清名重,莫谓通情义气高。
2
เป่าเจิ้งเหตุใดจึงเลี้ยงเหล่าโจร
ยาซือปล่อยโจรผิดยากหลีกหนี
รักษากฎหมายต้องมือสะอาดดี
อย่าอ้างว่ามีคุณธรรมน้ำใจ
3
แต่เหล่าตัวละครในสุยหู่นั้นล้วนเล่นพรรคเล่นพวกกันทั้งสิ้นไม่สนใจกบิลเมืองไม่ว่าฝ่ายไหน
สงฆ์ลงลายหลู่จื้อเซินนั้นปากเสียอ้าปากก็สบถคำหยาบแต่ช่วยใครก็ถึงที่สุดไม่คำนึงถึงตัวเอง หัวเสือดาวหลินชงนั้นฝีมือเข้มแข็งแต่เห็นแก่ตัวยิ่ง หลี่ขุยไม่ได้ฆ่าคนแล้วหงุดหงิดแต่เป็นคนตรงไปตรงมา อู่ซงแทบจะเป็นพระเอกของเรื่องใจกว้างชอบช่วยคนแต่เวลาขัดใจลงมืออำมหิตไม่เว้นแม้แต่คนไม่มีทางสู้ มีอยู่คราหนึ่งขาดสติไปทะเลาะกับหมาจนตกน้ำก็ยังทำ
2
ซ่งเจียงนั้นเป็นนักสร้างภาพเป็นผู้มีน้ำใจโดยการหว่านเงินจนได้ฉายาว่าฝนยามแล้ง 及时雨 ชื่อเสียงนำหน้าตัวจนคนต่างอยากรู้จัก เมื่อรวบรวมสมัครพรรคพวกได้แล้วยังชูธง ผดุงธรรมแทนฟ้า 替天行道 อ้างคุณธรรมไม่ขาดปาก แต่โดยแท้เป็นคนอำมหิตมีการแสดงออกให้เห็นตลอดเรื่อง เช่น การให้คนปลอมตัวไปฆ่าชาวบ้านผู้บริสุทธิ์นับร้อยครัวเรือนเพื่อใส่ความ อสนีบาตฉินหมิง ให้หมดหนทางไป ต้องมาเป็นพวกตน หรือการฆ่าล้างบางสกุลจู้ เพื่อริบสมบัติสกุลจู้ซึ่งเพียงพอใช้บนเขาได้หลายปี
สุยหู่จ้วนตีแผ่น้ำใจคน ตัวละครในท้องเรื่องแต่ละคนมีนิสัย การแสดงออก คำพูดคำจาแตกต่างกัน แต่ละคนมีวิวัฒนาการ มีดีชั่วในตัวเองเหมือนปุถุชนจริง ไม่ใช่ภาพนิ่งที่มักปรากฎในนิยายทั่วไปที่ตัวละครมักมีภาพอยู่ด้านเดียวว่าเป็นฝ่ายดีหรือชั่ว
1
ชาวจีนวิพากษ์วิเคราะห์วรรณคดีสุยหู่จ้วนกันมากทีเดียวแม้อาจไม่เท่ากับสามก๊ก แต่สำหรับผู้เสพวรรณกรรมไทยนั้นแทบไม่มีการวิพากษ์สุยหู่กันเลย สาเหตุหลักมาจากช่องทางการรับรู้สองช่องทางหลัก คือ จากภาพยนตร์หรือละคร หรือฉบับแปลเรื่องซ้องกั๋ง จึงเกิดการมองเห็นเพียงด้านเดียวเหมือนผู้เยาว์อ่านสุยหู่คือ เป็นเรื่องราวของเหล่าวีรบุรุษขบถชาวนาผู้ทรงคุณธรรม
ภาพยนตร์หรือละครนั้นต้องการสร้างวีรบุรุษ จึงเขียนบทให้เป็นเหล่าผู้กล้าผู้ทรงคุณธรรม แก้บทโหดร้ายหักหลังทิ้งไปหรือหาข้ออ้างให้
1
ส่วนซ้องกั๋งนั้นมีข้อจำกัดในการแปลสองจังหวะแบบเดียวกับวรรณกรรมสามก๊ก ซึ่งเป็นวิธีการถอดความในสมัยนั้นคือ ให้ผู้รู้ภาษาแปลจากภาษาจีน แล้วจึงมาเกลาสำนวนอีกครั้งจึงทำให้เนื้อหาแทบทุกตอนผิดเพี้ยนหรือขาดหายไป โดยเฉพาะบทกวีถูกละเลยทั้งหมด อย่างเช่นมังกรดั้นเมฆกงซุนเสิ้งที่เป็นนักพรตก็แปลเป็นหลวงจีน
บทกวีของซือไน่อันที่แทรกไว้ส่วนใหญ่นั้นสร้างสีสันเติมคำบรรยาย เช่นฉากการต่อสู้ระหว่างหลีกว่างน้อยฮวาหยงใช้ทวนสู้กับอสนีบาตฉินหมิงใช้กระบองเขี้ยว
1
狼牙棒当头劈下,离顶门只隔分毫;
点钢枪用力刺来,望心坎微争半指。
使点钢枪的壮士,威风上逼斗牛寒;
舞狼牙棒的将军,怒气起如云电发。
กระบองเขี้ยวเฉี่ยวกระหม่อมเพียงองศา
ทวนเหล็กแทงเฉี่ยวหน้าอกเพียงเฉียดฉิว
ขุนทวนเสียบยะเยียบเย็นใจหวิวหวิว
ขุนพลองกวาดกริ้วโกรธาดังฟ้าผ่า
1
หรือฉากอู่ซงเผชิญหน้ากับเสือบนเนินจิ่งหยาง
清河壮士酒未醒,冈头独坐忙相迎。
上下寻人虎饥渴,一掀一扑何狰狞!
2
ผู้กล้าชิงเหอยังไม่สร่างเหล้า
เมาอยู่ยังยอดเนินเผชิญมั่น
โหยหาเหยื่อเสือร้ายหิวหุนหัน
ช่างดุดันตะปบพลันกระแทกใส่
1
เหล่าผู้กล้าล้วนมีฉายา แต่อู่ซงผู้ฆ่าเสือกลับมีฉายาเรียบง่ายว่า ผู้จาริก 行者 ไม่เกี่ยวกับเสือ
打虎从来有李忠,武松绰号尚悬空。
幸有夜叉能说法,顿教行者显神通。
 
ขุนพลสยบเสือคือหลี่จง
ฉายาของอู่ซงจึงเว้นว่าง
โชคดีที่ยักขิณีช่วยชี้ทาง
สมอ้างผู้จาริกแสวงบุญ
ขุนพลสยบเสือหลี่จง เป็นอาจารย์คนแรกของมังกรเก้าลายสื่อจิ้น แต่เพลงกระบองนั้นสามัญจนหวางจิ้นอาจารย์ผู้ชี้แนะสื่อจิ้นจนเป็นยอดฝีมือ วิจารณ์เพลงกระบองที่สื่อจิ้นใช้ตอนแรกพบกันว่าเป็นเพียง กระบองลีลา 花棒 ใช้ต่อสู้จริงไม่ได้
ฉายาล้วนมีที่มาซึ่งซือไน่อันมักเขียนบอกไว้ แต่ไม่ปรากฏในคำบรรยายใดถึงที่มาของฉายา ขุนพลสยบเสือ จึงมักคาดเดากันเองว่าหลี่จงตั้งขึ้นมาเองเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือเวลาเร่ขายกอเอี๊ยะ ฉายานี้นอกจาก สยบเสือ ยังเป็น ขุนพล ด้วย
ที่มาของฉายานี้ปรากฏในบทกวีสองวรรคช่วงกลางเรื่อง ซึ่งหากข้ามบทกวีไป จะไม่รู้ที่มาเลย
打虎将军心胆大,李忠祖是霸陵生。
ขุนพลสยบเสือขวัญหาญกล้า
อย่าปรามาสหลี่จงเชื้อป้าหลิง
1
บรรพบุรุษของหลี่จงคือ หลีกว่าง 李广 ขุนพลผู้ฆ่าเสือสมัยฮั่นผู้เคยอาศัยอยู่ป้าหลิง 霸陵
ซือไน่อันมักมีตลกร้าย นอกจากเขียนประชดเรื่องคุณธรรมที่กล่าวถึงก่อนหน้าแล้ว บางครั้งก็ว่าตรงๆ เช่น ตอนซีเหมินชิ่งมอมเหล้านางพานจินเหลียน
须知酒色本相连,饮食能成男女缘。
不必都头多嘱付,开篱日待犬来眠。
 
พึงสังวรณ์สุราคู่ราคะ
ส้องเสพจะเสพสมคู่สมสู่
ตูโถวแม้เตือนตักตระหนักรู้
หมาลอดรูรั้วรั่วมาเรียงหมอน
2
บางครั้งก็ต้องตีความ เช่น ตอนหลวงจีนเผยหยูไห่ลอบขึ้นบ้านเล่นชู้กับนางพานเฉี่ยวหยุน พอเช้ากลับออกมาถูกสือสิ้วดักฆ่าตายกลายเป็นศพ
大和尚此时精血丧,小和尚昨夜风骚。
นักบวชใหญ่ในตอนนี้จมโลหิต
นักบวชนิดเมื่อคืนยังระริกระรี้
เผยหยูไห่คือ นักบวชใหญ่ลอบเข้าไปเล่นชู้เพียงคนเดียว ต้องตีความเอาว่า นักบวชนิดไหนที่ระริกระรี้
บทอัศจรรย์ในวรรณกรรมไทยที่พรรณาได้เลี้ยวลด บทนี้ของซือไน่อันก็ใช้ลีลาได้พอกัน เช่น ตอนท้ายบทหนึ่งของพานจินเหลียนกับซีเหมินชิ่ง
1
杨柳腰脉脉春浓,樱桃口呀呀气喘。
星眼朦胧,细细汗流香玉颗;
酥胸荡漾,涓涓露滴牡丹心。
เอวหยางหลิ่วไหวไหวกลางฝนสาย
ปากอิงเถาหอบหายใจรวยริน
ดารารายเม็ดเหงื่อผุดจรุงกลิ่น
ทรวงระริกรินน้ำค้างกลางโบตั๋น
สุยหู่จ้วนยังอาจนับเป็นวรรณกรรมน้ำเมา แทบทุกบทต้องมีการร่ำสุรา สุราก็มีหลากหลายประเภททั้งเหล้าใส เหล้าขุ่น เหล้ามีชื่อเสียงในแต่ละท้องที่ที่ตัวละครไปเยือน สุราวี่หูชุน 玉壶春 สุราหลานเฉียวเฟิงเยว่ 蓝桥风月 สุราชิงฮวาเวิ่ง 青花瓮 แม้ปัจจุบันยังมีอยู่ แต่จะคงอยู่เนื่องจากมีชื่อปรากฎในวรรณกรรมหรือไม่ ไม่แน่ชัด สุราแพะ 羊酒 หมักจากเนื้อแพะและสมุนไพร เป็นสุรามงคล ใช้ในพิธีการสำคัญต่างๆ
1
พอเหล้าเข้าปากแล้วมักเกิดเรื่อง หลวงพ่อจื้อเจินเรียกหลู่จื้อเซินมาเทศนาเรื่องโทษของสุรา หลังจากที่หลู่จื้อเซินเมาแล้วอาละวาดเป็นคติไว้ ตอนต้นว่า
地水火风合成人,面曲米水和醇酎。
酒在瓶中寂不波,人未酣时若无口。
ดินน้ำลมไฟสร้างคนมีเลือดเนื้อ
แป้งเชื้อราน้ำผสมบ่มเป็นเหล้า
เหล้าอยู่ดีในขวดนั้นนิ่งเนา
คนไม่เมาไม่เผยพล่ามวาจา
1
บทท้ายว่า
酒中贤圣得人传,人负邦家因酒覆。
解嘲破惑有常言,酒不醉人人醉酒。
1
ร่ำลือว่าในเหล้านั้นมีปราชญ์
แต่คนเสียชาติบ้านเมืองก็เพราะเหล้า
คำเตือนตัวเตือนตนแต่นานเนา
เหล้าไม่ทำคนเมา คนเมาเอง
1
แล้วสรุปปิดท้ายว่า
“酒能成事,酒能败事。”
“สุราบรรลุกิจได้ สุราบรรลัยกิจได้”
สุยหู่จ้วนฉบับเต็มมี 120 บท แต่มีเผยแพร่ฉบับ 100 บท และฉบับ 70 บทด้วย โดยเฉพาะฉบับ 70 บทนั้นต้นตอมาจากจินเสิ้งทั่น 金圣叹 นักวิจารณ์วรรณคดีปลายยุคหมิงต่อยุคชิง เห็นว่าสำนวน 70 บทแรกถึงตอนที่ 108 ขุนโจรรวมตัวกันครบนั้นเป็นของซือไน่อันซึ่งเขียนได้ดี แต่สำนวนส่วนหลังจากนั้นซึ่งเชื่อว่าเขียนโดยหลอก้วนจงผู้เป็นศิษย์สู้ไม่ได้ จึงตัดเอาไว้แค่นั้น
การสับเอวสุยหู่นั้นผิดประสงค์ของซือไน่อันที่ต้องการแสดงให้เห็นสัจธรรมชีวิตว่ามีรุ่งและมีร่วง แม้จะเขียนไม่จบแต่โครงเรื่องคงได้วางเอาไว้แล้ว
1
หลวงพ่อจื้อเจินให้คาถา 偈子 สี่คำแก่หลู่จื้อเซิน
遇林而起,遇山而富,遇水而兴,遇江而止。
พบดงแล้วเริ่ม พบเขาแล้วรวย พบน้ำแล้วรุ่ง พบนทีแล้วร้าง
เพิ่งเป็นจริงในช่วงต้น 3 คำ เหลือคำท้ายจะไปปรากฎในช่วงหลังของเรื่อง
ซ่งเจียงได้รับเทพทำนายจากพระแม่เจ้า 4 วรรค
遇宿重重喜,逢高不是凶。
外夷及内寇,几处见奇功。
 
พบซู่ดีหนักหนา
ปะเกาหาร้ายไม่
ต่างด้าวและโจรใน
หลากหลายได้สัมฤทธิ์
เพิ่งเป็นจริงเพียงวรรคแรกตอนพบกับซู่หยวนจิ่งในตอนระฆังทองนมัสการ ที่เหลือยังเป็นเรื่องในช่วงหลัง
จินเสิ้งทั่นกล่าวไว้ได้ดีว่า จะเข้าใจวรรณกรรมนอกจากลีลาการเขียนแล้วควรรู้จักผู้เขียนด้วย
ซือไน่อันเป็นคนในยุคปลายราชวงศ์หยวน เคยสอบเข้ารับราชการ แต่ราชสำนักหยวนเป็นมองโกล กับตนซึ่งเป็นชาวฮั่นนั้นยากจะก้าวหน้าเว้นแต่จะมีเงินทองติดสินบน ซือไน่อันจึงเขียนใส่ไว้ในตอนพวกเฉาไก้จะไปขอพึ่งเหลียงซานซึ่งมีบัณฑิตชุดขาวหวางหลุนเป็นหัวหน้าแต่กลัวเขาไม่รับ อู๋ย่งว่าเรามีทรัพย์ที่ปล้นมาได้มาก ใช้ซื้อทางได้
无道之时多有盗,英雄进退两俱难。
只因秀士居山寨,买盗犹然似买官。
 
แผ่นดินสิ้นคุณธรรมโจรมากมาย
วีรชนหมายรุกถอยยากทั้งสอง
ด้วยมีบัณฑิตเป็นหัวหน้าส้อง
เป็นโจรต้องจ่ายเช่นเป็นขุนนาง
1
ซือไน่อันออกจากราชการเร่ร่อนไปทั่ว เที่ยวคบหาผู้คนในวงนักเลงและพบว่าคนพวกนี้มีน้ำใจมากกว่าคนในราชสำนัก
金宝昏迷刀剑醒,天高帝远总无灵。
如何廊庙多凶曜,偏是江湖有救星。
 
เงินทองสิ่งมอมเมา
มีดดาบเคล้าคาวโลหิต
ฟ้าราชันสูงสถิต
สิ้นศักดิ์สิทธิ์ไร้ความหมาย
เหตุใดราชสำนัก
ชุกชุมนักมากดาวร้าย
วงนักเลงกลับกลาย
หาได้ง่ายดาวอุปถัมภ์
ปลายราชวงศ์หยวนเกิดขบถขึ้นหลายพวก ซือไน่อัน หลอก้วนจงได้เข้าไปเป็นเสนาธิการให้กับเจ้าพ่อค้าเกลือเถื่อน จางสื้อเฉิง 张士诚 สามารถยึดดินแดนส่วนหนึ่งทางใต้ได้จนตั้งตัวเป็นอ๋อง แต่จางสื้อเฉิงกลับถูกราชสำนักหยวนเกลี้ยกล่อมให้สามิภักดิ์ ทิ้งปณิธานไปรับตำแหน่งไท่เว่ย สองศิษย์อาจารย์คงมีความรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง ไปปรากฎในตอนซ่งเจียงพร่ำแต่จะขอรับนิรโทษกรรม ทำให้หลี่ขุย หลู่จื้อเซิน อู่ซง ต่างไม่พอใจจะขอแยกทาง
2
สองศิษย์อาจารย์แยกทางจริงและนำประสบการณ์มาจารึกเป็นสองวรรณคดีเอกของจีน สุยหู่จ้วน และสามก๊ก
1
ตอนถัดไป : ปลดปล่อยวิญญานร้าย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา