[หรรสาระ By Jeans Aroonrat] จาก บิน ลาเดน สู่ฮาร์ดีป ซิงห์ นิจจาร์ ปฏิบัติการเด็ดหัวผู้ก่อการร้ายข้ามประเทศ กับมาตรฐานกฎหมายสากล???

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

หรรสาระ By Jeans Aroonrat

ยืนยันแล้ว

•

23 ก.ย. 2023 เวลา 08:29 • ข่าว

จาก บิน ลาเดน สู่ฮาร์ดีป ซิงห์ นิจจาร์

ปฏิบัติการเด็ดหัวผู้ก่อการร้ายข้ามประเทศ กับมาตรฐานกฎหมายสากล???

Blockdit Originals - บทความพิเศษ

ข่าวต่างประเทศที่ครึกโครมสุดๆในขณะนี้ หนีไม่พ้นการฟาดบารมีกันระหว่าง แคนาดา และ อินเดีย จากกรณีการลอบสังหาร ฮาร์ดีป ซิงห์ นิจจาร์ ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาวซิกข์ ผู้มีส่วนร่วมในขบวนการแบ่งแยกรัฐคาสิสถานในรัฐปัญจาบของอินเดีย

โดยเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณลานจอดรถหน้าวัดซิกข์ ในเมืองเซอร์เรย์ รัฐบริติช โคคัมเบีย ของแคนาดา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา เมื่อมีมือปืนปิดคลุมใบหน้า 2 คน เข้ามาประกบ และกระหน่ำยิงเขาจนเสียชีวิต นับเป็นคดีที่อุกอาจ สะเทือนขวัญชาวซิกข์ เชื้อสายอินเดียที่มาตั้งรกรากในแคนาดากว่า 8 แสนคน

และเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ได้บานปลาย จนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดา และ อินเดีย ที่เรียกได้ว่าลงมาถึงจุดเลวร้ายที่สุดของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง 2 ประเทศในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา เมื่อจัสติน ทรูโดว์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา ได้ออกกล่าวอย่างหนักแน่น ตามข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองของแคนาดาว่า รัฐบาลอินเดียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร ฮาร์ดีป ซิงห์ นิจจาร์ อย่างแน่นอน

ซึ่งนาย ฮาร์ดีป ซิงห์ ถือว่าเป็นพลเมืองแคนาดา ดังนั้น กรณีที่มีรัฐบาลต่างชาติมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารพลเมืองแคนาดาถึงในแผ่นดินของเรา ถือว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยของแคนาดาอย่างร้ายแรงที่ไม่อาจยอมรับได้อีกต่อไป

เมื่อผู้นำแคนาดา ออกมากล่าวชนิดที่ไม่ต่างจากยืนชี้หน้าประจานกลางสี่แยก ด้านอินเดียก็อาจอยู่เฉยๆได้ ดินแดนภารตะของเราก็ศิษย์มีครูเหมือนกัน กระทรวงการต่างประเทศอินเดียก็ออกมาสวนทันที ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาของทรูโดว์ โดยหาว่าเป็นเรื่องเหลวไหล และ เลื่อนลอยสิ้นดี อินดียเป็นประเทศประชาธิปไตยที่เคารพในหลักนิติธรรมอย่างเข้มแข็ง อย่ามากล่าวหากันง่ายๆแบบนี้

แต่เรื่องนี้ ไม่จบแค่สงครามน้ำลาย รัฐบาลแคนาดาออกคำสั่งขับนาย ภวัณ คุมาลัย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยข่าวกรองอินเดียออกนอกประเทศทันที รัฐบาลอินเดียก็โต้กลับด้วยการสั่งขับทูตอาวุโสแคนาดาประจำกรุงนิวเดลีออกนอกประเทศภายใน 5 วัน พร้อมเรียกทูตของตนกลับประเทศด้วย

วันต่อมา รัฐบาลแคนาดาก็ขึ้นประกาศเตือนนักท่องเที่ยวของตนที่จะเดินทางไปอินเดียให้ระวังภัยขั้นสุด จากความเสี่ยงต่อเหตุก่อการร้ายรุนแรงทั่วประเทศ ฝ่ายอินเดียก็เลยจัดให้จ่ะนายจ๋า ถ้าดัดจริตขนาดนั้นก็ไม่ต้องมา จัดการสั่งระงับการออกวีซ่าให้กับชาวแคนาดาทุกประเภทมีผลตั้งแต่วันพฤหัส (21 กันยายน 2023) ที่ผ่านมา

นี่คือสถานการณ์ความสัมพันธ์ด้านการทูตที่เลวร้ายสุดๆ และทำให้ตอนนี้รัฐบาลอินเดีย กับ แคนาดา เหมือนคุยกันคนละภาษา โดยทางแคนาดากล่าวหาว่าอินเดียส่งคนมาก่ออาชญากรรมร้ายแรงในประเทศคนอื่น ผิดข้อตกลง UN ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ และละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนสากลอย่างร้ายแรง แต่ฟากอินเดีย ก็กล่าวหาแคนาดาว่า สนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหวคาลิสถาน ที่ถูกขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้ายของอินเดีย ขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไม่เคยให้ และยังให้กลุ่มคนเหล่านี้พำนักอย่างมั่นคง เพื่อรอโอกาสแทรกแซง ก่อความไม่สงบในอินเดีย

นี่ขนาดยังไม่เปิดหลักฐานออกมายืนยัน 100% เลยว่ารัฐบาลอินเดียส่งมือปืนรับจ้างไปเก็บหัวหน้ากลุ่มคาลิสสถานจริงหรือเปล่า ยังเดือดขนาดนี่

แต่ถ้าเรายึดตามหลักการที่ควรจะเป็น รัฐบาลประเทศหนึ่งก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปก่ออาชญากรรม ในดินแดนประเทศอื่น หากอ้างว่าประเทศเราเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยที่เคารพในหลักนิติธรรมเป็นบรรทัดฐาน

แล้วอย่างกรณีที่รัฐบาลสหรัฐ ในสมัยบารัค โอบาม่า ส่งหน่วยรบพิเศษบุกเซฟเฮาส์ที่พักพิงของโอซามา บิน ลาเดน ในประเทศปากีสถาน เมื่อ ปี 2011 ภายใต้ปฏิบัติการ Operation Neptune Spear ที่สามารถสังหารบิน ลาเดน รวมทั้งคนในครอบครัวอีก 4 คน มีการส่งสัญญาณ Live สดมาให้ชมกันในทำเนียบขาว และออกข่าวทุกช่องทั่วโลก จนไม่อาจใช้คำว่าลอบสังหารด้วยซ้ำ ถ้าจะเปิดเผยกันซะขนาดนี้ แล้วอย่างนี้เข้าข่ายทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ และละเมิดอธิปไตยชาติอื่นได้หรือไม่?

ซึ่งรัฐบาลสหรัฐคงปฏิเสธเลยว่า มันไม่เกี่ยวกัน เพราะกลุ่ม อัลกออิดะห์ ถือเป็นกลุ่มก่อการร้าย เป็นภัยคุกคามชาวโลก อยู่ในบัญชีดำของสหรัฐ ต้องสงสัยว่าก่อวินาศกรรม 9/11 และรัฐบาลปากีสถานในสมัยนั้นอาจจะรับรู้ และ ไฟเขียวให้กองทัพสหรัฐส่งทีมสอบสังหารเข้าประเทศได้

อ่ะ แล้วอย่างกรณีการลอบสังหาร นายพล คาเซ็ม สุไลมานี ผู้นำกองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน ด้วยโดรนพิฆาต ในประเทศอิรักเมื่อปี 2020 ในสมัยของ โดนัลด์ ทรัมพ์ ซึ่งรัฐบาลอิรักไม่ได้รับรู้ แถมนำคดีขึ้นศาลอิรักว่า อดีตผู้นำสหรัฐก่ออาชญากรรมร้ายแรง ที่มีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตด้วยซ้ำ ก็ไม่เห็นมีการพูดถึงความผิดกฎหมายระหว่างประเทศ หรือละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด??

และเมื่อยกเราทั้ง 2 กรณีนี้ เปรียบเทียบกับการลอบสังหาร ฮาร์ดีป ซิงห์ นิจจาร์ ผู้นำกลุ่มเคลื่อนไหวชาวซิกข์ ถึงในประเทศแคนาดา ว่าเหมือนหรือต่างกันจุดไหน ที่จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศมีผลแตกต่างกัน?

อย่างแรก ที่ชัดคือ จำเลย ไม่ใช่สหรัฐ และดินแดนที่เกิดเหตุไม่ใช่ประเทศโลกที่ 3 ตามมาตรฐานชองชาติตะวันตก แต่ทั้งนี้ อินเดีย ในยุคสมัยนี้ ที่เรามีชาวอินเดียได้เป็นถึงรองประธานาธิบดีสหรัฐ และ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ก็ไม่ใช่ไก่กา ที่ใครจะมากดขี่ ตบหัวได้ง่ายๆ เหมือนกัน แถมรัฐบาลอินเดียก็ยังยืนว่า ฉันไม่ได้ทำนะนายจ๋า ไอ้โม่งคนไหนยิง ยูว์ก็ไปตามจับสิ

ว่าแต่ จัสติน ทรูโดว์ ผู้นำแคนาดา คิดอย่างไร ถึงออกตัวแรง เปิดศึกชนกับรัฐบาลอินเดียแบบไม่คิดจะแตะเบรคเลย ได้ปรึกษาใครแล้วหรือยัง ซึ่งสื่อต่างชาติเคยรายงานว่า จัสติน ทรูโดว์ เคยโทรไปปรึกษาเรื่องนี้กับ โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐตั้งแต่ก่อนเดินทางไปการประชุม G20 ที่กรุงนิวเดลี ในช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งครั้งนั้นเมื่อผู้นำแคนาดาต้องมาเจอหน้ากับ นเรนทรา โมดิ นายกรัฐมนตรีอินเดียที่เป็นเจ้าภาพ ก็มีบรรยากาศตึงกันพอสมควรแล้ว

พอกลับมาแคนาดาไม่ทันไร จัสติน ทรูโดว์ ก็จัดหนักกล่าวหาชุดใหญ่ใส่รัฐบาลอินเดียจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ไม่คิดจะต่อสายคุยกันระหว่างรัฐบาลก่อนหรือ ก็ชักสงสัยว่าผู้นำแคนาดา แกเลือกโทรไปปรึกษาผิดคนซะหละมั้ง