29 ก.ย. 2023 เวลา 05:01 • หุ้น & เศรษฐกิจ
CRWD จัดการประจำปี Fal.Con พร้อมอัพเดทความคืบหน้าของ Solution ต่างๆให้กับลูกค้าและ Partner ฟัง รวมไปถึงอัพเดททิศทางและเป้าหมายของบริษัทให้กับ Investor ฟัง
โดยภาพรวมแล้วถือว่า ทำได้ดีมาก จะเห็นได้ว่า ช่วง 1-2 weeks ที่ผ่านมา ราคาหุ้นค่อนข้างแข็งกว่าตลาด ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจาก feedback จากงานนี้
ผมได้นั่งอ่าน Research ที่ออกมาหลังจากงานนี้ และ รีวิว investor presentation เลยตัดเอา highlight มาให้ดูกันครับ
ดูกันที่ painpoint ของ customer ก่อน ถามว่า ตอนนี้ ลูกค้า enterprise ที่ใช้งานเกี่ยวกับ cybersecurity ต้องการอะไร โดยสรุปแล้ว Key หลักๆตอนนี้ สรุปออกมาได้ 3 ข้อ ตามรูป
แน่นอนว่า ข้อ 1 Stop the Breach เป็นอะไรที่แน่นอนอยู่แล้ว เราคงไม่ต้องพูดถึงกันมาก
ความได้เปรียบในการแข่งขันของ CRWD จะอยู่ที่ ข้อ 2-3 เพราะ โดยเฉลี่ยตอนนี้ Enterprise จะใช้ product ที่เกี่ยวกับ cybersecurity อยู่ 13 products ทำให้เกิดความซับซ้อนเป็นอย่างมาก ทำให้เกิด trend vendor consolidation ที่ลูกค้าอยากจะใช้งาน platform ที่รองรับงานได้หลายอย่างจะได้ไม่ต้องดีลงานกับหลายเจ้าเกินไป รวมไปถึงช่วยในการลด Cost และ Complexity ได้ด้วย
ผมคงจะข้ามในเรื่องเชิงเทคนิคไปก่อน ไม่งั้น เด๋วจะงงกันหมด เราจะดูในเรื่องของโอกาสและการเติบโตในอนาคตของ CRWD กันเป็นหลักดีกว่า
ประเด็นสำคัญ คือ หลังจากนี้ CRWD จะโตต่อไปอย่างไร เป้าของบริษัทเป็นอย่างไรบ้าง
ตามภาพนี้เลยครับ
โดยเป้าหมายนับจากนี้ 5-7 ปี บริษัทต้องการจะโตจาก ARR 2.9B ในไตรมาสล่าสุด ไปให้ถึง ARR 10B โดยการเติบโตนี้ ก็จะมาจาก product solution ที่มากขึ้น ทำให้ขายลูกค้าเก่าได้มากขึ้น ปิดการขายลูกค้าใหม่ได้เยอะขึ้น การขยายไปต่างประเทศ และ จากการให้ Partners ช่วยขายด้วย
ที่นี่ เราลองมาดูทีละส่วนกัน
การขยายไปยังลูกค้านอก US โดยตอนนี้ ยอดขายของ CRWD มาจากใน US 69% และ นอก US 31% โดยเป้าคือ จะมีสัดส่วนเป็นประมาณ 50:50 (โตทั้งสองฝั่งนะ แต่เค้าคาดว่า ฝั่งนอก US จะโตมากกว่า)
การขายลูกค้าใหม่ New logo ซึ่งบริษัทมองว่า ณ ปัจจุบัน มีลูกค้าอยู่ 23,000 บริษัท ยังมีโอกาสอีกมากในการเติบโต โดยถ้าเทียบกับ SaaS เจ้าอื่นๆที่มีลูกค้าระดับหลายหมื่นถึงหลายแสนรายเลย ถ้าเทียบกับในกลุ่ม Cybersecurity เหมือนกัน อย่าง Palo Alto Network ที่มี 80,000 ราย หรือ Fortinet ที่มีลูกค้าถึง 680,000 ราย ก็ถือว่า โอกาสเติบโตยังมีอีกมาเลยทีเดียว
กลับมาที่ภาพใหญ่กันอีกรอบ CRWD นั้น อาจจะเป็นเจ้าตลาดในเรื่องของ EDR แต่เค้าก็มี solution อื่นๆอีกเยอะมาก ซึ่งจะทำให้เข้ากับเทรนด์ของ Vendor consolidation พอดี ที่ลูกค้ามักจะพยายามรวมออเดอร์ หรือ solution ให้แก่ Vendor เจ้าใหญ่ เพื่อลดความซับซ้อนและควบคุมค่าใช้จ่าย ซึ่งตามรูปข้างล่างนี้ จะเห็นว่าลูกค้าของ CRWD ซื้อ product หลายๆ module จาก CRWD มากขึ้นเรื่อยๆ
โดยบริษัทก็มองว่า จาก ARR 2.9B ตอนนี้ โอกาสในการขาย solution ใหม่ๆให้กับลูกค้าเดิมของเค้า มีอีกมากกว่า 16B หรือมากกว่า ARR ปัจจุบันถึง 5 เท่าเลยทีเดียว
แล้ว solution เหล่านั้นของ CRWD มีอะไรบ้างหล่ะ บริษัททำภาพออกมาให้เห็นแบบนี้ครับ พร้อมกับ TAM ของแต่ละ solution ด้วย
โดย ณ ปัจจุบันนั้น ตลาดที่ CRWD ทำอยู่ มีมูลค่าสูงกว่า 100B และ บริษัทก็คาดการณ์ว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า TAM นี้จะโตขึ้นไปสูงกว่า 225B (มากกว่าสองเท่าภายใน 5 ปี)
ทีนี้ลองมาดูในส่วนของ solution หลักๆกันบ้าง โดย CRWD มีบริการหลักคือ EDR หรือ Endpoint Detection and Response นั้น ขณะนี้ CRWD เป็นเจ้าตลาดอยู่ มี Market share เป็นอันดับ 1 บางคนอาจจะคิดว่า ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว การเติบโตอาจจะตันๆ แต่ถ้าข้อมูลที่บริษัทแจ้งมาคือ ณ ปัจจุบัน ยังมีลูกค้าจำนวน 48% ที่ยังใช้การป้องกัน Endpoint เป็น Anti Virus แบบเดิมๆอยู่ถึง 48%
การเติบโตหลักๆของ EDR หลังจากนี้ ก็น่าจะมาจากการเข้าไปกิน share จาก legacy anti virus แบบเดิมๆครับ โดยในปัจจุบัน ARR ที่มาจากส่วนของ EDR มีมูลค่าประมาณ 2.3B (TAM ของ EDR ที่บริษัทแจ้งคือราวๆ 19B)
1
นอกเหนือจาก EDR แล้ว solution อื่นๆอีก 3 ตัวที่มีสัดส่วนของ ARR เยอะจนมีนัยยะสำคัญ ได้แก่ Cloud, Identity และ LogScale โดยมีมูลค่ารวมกันมากกว่า 500m ARR
ลองมาดูแต่ละตัวกันครับ โดยในส่วนของ Cloud นั้น ณ ปัจจุบัน มี ARR ถึง 296m แล้ว โตขึ้นมาประมาณ 200% ในระยะเวลาประมาณ 1.5 ปีที่ผ่านมา และน่าจะเป็นส่วนที่ TAM มีโอกาสเติบโตมากที่สุดใน 5 ปีนี้ด้วย เพราะว่า การเติบโตของการใช้งาน Cloud ของลูกค้ายิ่งมีมากเท่าไหร่ ระบบ security ที่ดูแลก็ยิ่งมีมูลค่าสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
รองลงมา ส่วนของ Identity ซึ่งตอนนี้ บริษัทเปิดเผยว่า มีลูกค้ามากกว่า 2000 รายแล้ว และมี ARR มากกว่า 200m เรียบร้อยแล้วถือว่าโตมาเร็วใช้ได้เลย ภายในเวลา 3 ปีที่เค้าเริ่มขาย solution นี้ให้กับลูกค้า
ส่วนสุดท้ายที่เป็น highlight คือ LogScale ซึ่งเติบโตขึ้นมาในระยะเวลา 2 ปี มี ARR แล้วประมาณ 100m
โดยในส่วนของ 3 solution ที่เล่ามา CRWD วางเป้าไว้ว่า จะขยาย ARR ไปได้แค่ไหน ในอีก 5-7 ปีข้างหน้า ดูจากรูปข้างล่างได้เลยครับ
ถ้าเป็นไปตามที่เค้าคาดการณ์ ผมลองเคาะๆตัวเลขดู แสดงว่า เมื่อถือตอนนี้ ที่ ARR ราวๆ 10B ในอีก 5 ปีข้างหน้า สัดส่วนของ solution หลักๆของ CRWD จะเป็นประมาณนี้ครับ
EDR = 50%
Cloud = 25%
Identity = 10%
LogScale = 10%
อื่นๆ = 5%
นอกจากนั้น highlight อีกอันของงานนี้คือ การประกาศราคาของ Charlotte AI ซึ่งก็คือ Generative AI ของ CRWD นั่นเอง โดยบริษัทตั้งราคาไว้ที่ $20/endpoint/year (แต่นักวิเคราะห์ทำประมาณการไว้ว่า ราคาเฉลี่ยที่ขาย น่าจะอยู่ราวๆ 8-9$ เพราะ ต้องมีส่วนลดให้ลูกค้าที่ซื้อเยอะๆด้วย)
สุดท้าย ในเรื่องของผลประกอบการณ์ของ CRWD ถึงแม้ว่า ภาวะของ Macroeconomic จะไม่ค่อยสู้ดีนักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่บริษัทสามารถทำผลประกอบการได้ดีมากๆ ส่วนนึงเพราะความสำคัญของ solution ของเค้า สังเกตได้จาก pricing ที่บริษัทสามารถปิดการขายให้กับลูกค้าได้ เราจะเห็นได้ว่า ราคาขายค่อนข้างนิ่ง บริษัทไม่จะเป็นจะต้องลดราคาลงมาแข่งกับคู่แข่ง เพราะโดยลักษณะของสินค้าแบบนี้ ลูกค้าต้องการความแน่นอน ความชัวร์ของ performance มากกว่าซื้อสินค้าราคาถูกครับ
จากที่สรุปมาทั้งหมดแล้ว ทุกอย่างเลยส่งผลลงมาที่ Bottom line ที่บริษัททำได้ ถ้าดูแบบ Non-GAAP จะเห็นว่า กำไรดีขึ้นเรื่อยๆในทุกไตรมาส ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะบริษัทเน้นขายสินค้าเป็นแบบ subscription ทำให้รายได้ค่อนข้าง snowball ขึ้นมาเรื่อยๆ และเมื่อคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ทำได้ กำไรเติบโตขึ้นมาอย่างมีนัยยะสำคัญ รวมไปถึง การมีกำไรแบบ GAAP ใน 2 ไตรมาสล่าสุดด้วยครับ
ทำให้ในการประชุมรอบนี้ มีประกาศสำคัญออกมาจากทางบริษัท 2 อย่างครับ ที่ผมเชื่อว่า มีผลต่อราคาหุ้นที่แข็งในช่วงนี้
อย่างแรกคือ CRWD commit เป็นครั้งแรกว่า FY2024 หรืองบการเงินที่จะสิ้นสุดเดือนมกราคมปีหน้านี้ เราจะมีกำไร GAAP แน่นอน ทั้งๆที่ เดือนที่แล้วตอนประกาศงบไตรมาส 2 ยังไม่กล้าประกาศเรื่องนี้
เรื่องนี้เป็น milestone ที่สำคัญครับ เพราะ หลังจากบริษัทสามารถมีกำไร GAAP ย้อนหลัง 12 เดือนได้แล้ว จะทำให้บริษัทผ่านทุก critiria ของ S&P 500 index และจะมีโอกาสสูงมากที่จะถูกนำไปรวมอยู่ใน index ในช่วงราวๆ กลางปี 2024 ครับ
เรื่องที่ 2 (อันนี้ สำคัญกว่าอีก) คือ CRWD อัพเดท long term target model ใหม่ครับ
โดยหลักๆคือ มองว่า GPM จะสูงขึ้นกว่าเดิมอีก 4% สามารถไปได้ถึง 83.5% ได้เลย (@mid point)
รวมถึง สามารถคุมค่าใช้จ่ายพวก S&M และ G&A ได้ดีขึ้นด้วย
ทำให้ Operating margin แบบ non-GAAP จะสูงถึง 30% มากกว่าเดิมถึง 9% !!! รวมถึง FCF จะไปได้ถึง 36% มากกว่าเดิมถึง 5% เลยทีเดียว
โดยรวม ผมค่อนข้าง Happy กับ Fal.Con รอบนี้มากครับ ดีใจที่เค้ายอมปรับโมเดลขึ้นมาตามความเป็นจริง เพราะ เชื่อว่า บริษัทสามารถไปถึงจุดนั้นได้ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา