ทีละนิด ๆ !!
"สังศิต" บ๊ายปฏิรูปตำรวจ ตั้งเคพีไอโปร่งใส 6 เดือนเจ๋งเวอร์ พัฒนาไปด้วยกัน
นายกฯ เศรษฐา ถึงเวลาทุบก้อนเค้กแห่งผลประโยชน์รั้วปทุมวัน ลดกำลังพลกองบัญชาการ เพิ่มอัตราเจ้าหน้าที่ตร.ประจำสถานีตำรวจ สะกิดฝ่ายค้านก้าวไกล-ประชาธิปัตย์เขย่ารัฐบาลเร่งสะสางวงการสีกากี
แฟนพันธุ์แท้พี่รวจ “รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์” ประธานคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา และอดีตกรรมการผู้ทรงวุฒิในคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง) มือวิจัยระดับเซียนตีแผ่ความเป็นองค์กรตำรวจเชิงลึกหลากหลายแง่มุม
เกาะติดมากว่า 30 ปี เราไปวิจารณ์ แนะนำเขาด้วยความรัก ความห่วงใย ความปรารถนาดี อยากให้องค์กรตำรวจเป็นที่รักของประชาชน เป็นที่นับถือ อยากเห็นการให้โอกาสตำรวจที่ทำงานจริง ๆ ไม่ให้น้อยอกน้อยใจ ได้มีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพ
“--- ผมโดนผบ.ตร.ฟ้องมาไม่รู้กี่คน ๆ โดนมาตลอด จนกระทั่งมาเป็น สว. ยังโดนอยู่เลย บางคนที่เคยฟ้อง เวลานี้ก็มาเป็นสว.อยู่ด้วยกัน เขามองว่าเป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีทุกที เอ่อ...ทุกอย่างกลายเป็นไปใช้กฎหมายในทางที่ไม่สมควร ไม่ดูเจตนา...คนที่อยากเห็นตำรวจ กลายเป็นองค์กรที่มีความสุจริต แล้วให้บริการแก่ประชาชน...เขาต้องเข้าใจอย่างนี้นะ ---”
องค์กรตำรวจมีลักษณะพิเศษอันหนึ่ง !!
ไม่เคยมีตำรวจที่มีความคิดต้องการปฏิรูปองค์กรปรากฏตัวออกมาเลย ซึ่งต่างจากองค์กรราชการอื่น ๆ ตำรวจเป็นองค์กรที่สามารถหลอมรวมเป็นวัฒนธรรมอันเดียวกันได้ และต่อต้านการเปลี่ยนแปลงในทุกรูปแบบ
เราจะเห็นได้ว่าใครไปแตะต้ององค์กรตำรวจจะโดน...ฟ้องหมิ่นประมาท
หากรัฐบาลจะเสนอให้ทำสิ่งผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย จะอ้างเหตุผลเรื่องศีลธรรมต่าง ๆ ไม่ให้ทำ เพราะไปกระทบกับเศรษฐกิจใต้ดิน (Underground Economy) ที่กองผลประโยชน์รวมกันแล้ว...มโหฬาร
สมัยทำวิจัยเกี่ยวกับผลประโยชน์ใต้ดินของตำรวจ 20 ปีที่แล้ว ยังเป็นเศรษฐกิจขนาดเล็ก แค่หวยใต้ดิน – บ่อนการพนัน แต่ทุกวันนี้เป็นทุจริตออนไลน์ ขนาดสิ่งผิดกฎหมายใหญ่ขึ้นเยอะ
อีกอย่างองค์กรตำรวจทั้งโลกเหมือนกัน คือเป็นองค์กรพลเรือน มีหน้าที่ให้บริการประชาชน (น้ำเสียงทอดยาว) และมีการกระจายอำนาจไปยังจังหวัดต่าง ๆ !!
ตำรวจต้องฝึกฝนจิตใจที่อยากบริการประชาชน ไม่ว่าจะเป็นจราจร ใครเดือดร้อนมา ไม่ใช่ไปเรียนรู้กฎหมายทุกอย่างเนี่ยเป็นเรื่องของอาชญาวิทยาไปหมด และมองอะไรเป็นอาชญาวิทยาไปหมด ก็จะปฏิบัติต่อประชาชนด้วยความรุนแรงเกินไปหรือเปล่า !?
ที่สำคัญการรวมศูนย์อำนาจเป็นเหมือนรวมกองทัพไว้ที่เดียว ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการต่าง ๆ ก็เป็นเครื่องมือของกทม.เท่านั้นเอง เพราะการรวมศูนย์ทำให้เกิดกองบัญชาการมากขึ้น เพิ่มจำนวนนายพล นายพัน
ประโยชน์ของประชาชนไม่ได้อยู่ที่กองบัญชาการ... ต้องอยู่ที่สถานีตำรวจ (สน.) !!
แต่ถ้าเขาไม่ยอมแล้ว เปลี่ยนไม่ได้หรอก !!
หัวใจการปฏิรูปตำรวจ !?
“--- ตำรวจมีความได้เปรียบมากกว่าข้าราชการประเภทอื่น...มือหนึ่งถือกฎหมาย เป็นขั้นแรกของกระบวนการยุติธรรม – อีกมือถืออาวุธ ซึ่งอาชีพอื่นไม่มี ทหารมีแค่อาวุธ แต่ไม่มีกฎหมายอะไรไปบังคับใช้กับประชาชน ---”
1.ต้องทำลายระบบความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์แบบดั้งเดิม
- ความสัมพันธ์แบบพวกพ้องจากสถาบันการศึกษาเดียวกัน แบบเครือญาติไม่ถูกทำลาย การพิจารณาเลื่อนตำแหน่งต่าง ๆ จะไม่เป็นธรรม
- ความเกี่ยวพันกับนักการเมืองค่อนข้างมาก และอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของนักการเมือง มีโอกาสเจริญก้าวหน้ามากกว่าเพื่อนร่วมวิชาชีพ ตำรวจน้ำดีถูกเอารัดเอาเปรียบ
- อำนาจที่เข้าไปยุ่งกับการแต่งตั้งผบ.ตร. มีหลายอำนาจที่ทับซ้อนกัน แทรกแซงได้
2.ต้องทำลายระบบการทุจริตของตำรวจ
- ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินทอง – เศรษฐกิจใต้ดิน...มหาศาล
- โอกาสทุจริตทำได้ตั้งแต่เป็นชั้นผู้น้อย ตำแหน่งใหญ่ก็มากขึ้น
- ผู้มีอิทธิพล ให้การคุ้มครอง ดูแล
สิ่งเหล่านี้กระทบต่อความสามารถทางเศรษฐกิจไทย – งบประมาณประเทศเปล่าประโยชน์ ที่ต้องเอามาซ่อมแซมถนนจากการเก็บส่วย
ตอกลิ่มความศรัทธา ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อสำนักงานตำรวจ...ขาลงอย่างรุนแรงเป็นประวัติการณ์ !!
หลายคดีเกี่ยวข้องกับผู้ก่ออาชญากรรมชัดเจน และกลายเป็นองค์กรอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ทางสังคมเสียเอง
ฉะนั้นความจำเป็นที่ต้องมีการปฏิรูประบบตำรวจ ให้มีความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล จึงเป็นวาระเร่งด่วนของประเทศอย่างแท้จริง
ทำแบบนี้ได้ถึงจะเรียกเป็นการปฏิรูป !!
สิ่งสำคัญสุด…ต้องมีรัฐบาลที่เด็ดเดี่ยว และเอาจริง !!
ผ่านมา 2 ยุคทหาร...ยังทำไม่ได้ !?
ยุครัฐบาล “พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์” ต้องการปฏิรูป แต่สู้อำนาจตำรวจไม่ได้ เพราะตำรวจรวมตัวกัน ซึ่งเป็นระบบความสัมพันธ์ระหว่างคนที่เกษียณไปแล้ว กับคนที่ยังรับราชการอยู่ มันมีความสัมพันธ์เชิงเครือญาติ เชิงอุปถัมภ์ เชิงผลประโยชน์กันอยู่...สุดท้ายรัฐบาลยอมแพ้
ส่วนสมัยรัฐบาล “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ท่านตัดสินใจประนีประนอม ให้ตำรวจเป็นคนร่าง พ.ร.บ.ปฏิรูปตัวเอง !! เข้ากรรมาธิการแค่มาตรา 1 ยังโหวตไม่ผ่านเลย
มาถึงรัฐบาลเศรษฐา 1 (นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน) เป็นนักการเมืองแต่ยังไม่ถึง 100 % เหมือนเข้ามาบริหารให้ครม.เดินไปได้ มีความต้องการปรับปรุงระบบตำรวจให้ดีขึ้น ผลักดันแนวคิดเศรษฐกิจต่าง ๆ
ท่านใช้คำว่า #พัฒนาร่วมกัน !!
แนะรัฐบาลเศรษฐา 1 พัฒนาระบบตำรวจไปด้วยกัน !?
1. ต้องทุ่มแทกับการแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนก่อน สร้างความชอบธรรมว่า...ท่านสามารถเป็นผู้นำประเทศตัวจริงได้ เพื่อให้คะแนนนิยมสูงมากพอ เพราะตอนนี้คะแนนนิยมยังไม่สูงพอที่จะทำ...เรื่องใหญ่
2. หลังสถานะทางการเมืองท่านเข้มแข็ง ก็มาดูว่าจะทำอะไรกับระบบตำรวจให้ดีขึ้นกว่าเดิมบ้าง มันไม่ถึงขั้นปฏิรูป เรื่องปัญหาใหญ่ ๆ เช่น แก้กฎหมาย – ความสัมพันธ์แบบเล่นเส้นเล่นสาย...ปล่อยไปก่อน
3. เริ่มต้นจากการทำเรื่องเดียว…อย่างน้อยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบในบางด้านชัด ๆ เพื่อให้ประชาชนมองเห็นว่า...รัฐบาลนี้เอาจริง
4. ตัวอย่างพุ่งไปที่...การควบคุมการทุจริต !!
5. ผบ.ตร. นั่งเป็นประธาน ให้ตำรวจบอกมาเลยจะทำเรื่องอะไรบ้างให้เกิดความโปร่งใส สะอาดขึ้น ภายในเวลากำหนด เช่น ภายใน 6 เดือน หรือ 1 ปี เป็นต้น
6. แล้วมาชี้วัดดูสิว่า...ผลการประเมินจากก่อนหน้านี้กับหลังทำ ประชาชนประเมินอย่างไร – รัฐบาลประเมินแล้วเป็นอย่างไร...ดีขึ้นไหม !?
7. และนำมาเป็นเกณฑ์ประเมิน ผบ.ตร. คนต่อไปด้วย เพราะคนที่จะมาทำงานกับรัฐบาล ต้องทำให้เห็นว่า...ถ้ามาเป็นผู้นำองค์กรแล้ว เขาจะเพิ่มความโปร่งใสให้แก่องค์กรตำรวจได้จริง
8. ตัวอย่างต่อมา...เป็นนโยบายลงไป เรื่องการให้บริการประชาชน...เรื่องนี้สำคัญที่สุดนะ !!
9. ทำให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยขึ้น เพิ่มสายตรวจต่าง ๆ ทำงานมากขึ้น กระฉับกระเฉง – มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น การไฟฟ้านครหลวง - กทม. ลงไปดูพื้นที่เกิดอาชญากรรมบ่อย ๆ ไฟฟ้าสว่างพอไหม มีมุมอับต้นไม้รกไหม
10. ลดจำนวนตำรวจที่ไปคอยตามผู้หลักผู้ใหญ่ นายพลเกษียณ เทกำลังตำรวจไปไว้ที่สน. ช่วยกันป้องกันเหตุ ไม่ให้เกิดผู้ร้าย เกิดอาชญากรรมต่าง ๆ ทำให้ประชาชนอุ่นใจ
เอาทีละนิด ๆ ๆ ขอให้เป็นการพัฒนาร่วมกัน เชื่อว่าประเทศไทยจะน่าอยู่ขึ้น !!
กลไกสภา เขย่าปฏิรูปตำรวจได้ !?
ต้องมาจาก สส. พรรคฝ่ายค้าน แม้เวลานี้เป็นเสียงข้างน้อย แต่จำนวนก็ไม่ใช่น้อยมีแบ็คอัพจากการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1
ถ้าจับมือกันตรวจสอบจะแข็งขัน มีแรงเขย่า เพราะในสภาถ้าเกิดมีการเคลื่อนไหวกันจริงจัง รัฐบาลก็นั่งก้นไม่ติดแล้ว
แต่ไม่แน่ใจว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเอาด้วยหรือเปล่า เขาเป็นประธานกรรมาธิการตำรวจ
ต้องคอยดู !! ---//---
“--- วาระประชาชน อยากเห็นการปฏิรูปองค์กรตำรวจมาเป็นเวลาที่ยาวนาน ประชาชนเดือดร้อน ผิดหวังตลอด เพราะไม่สามารถพึ่งพาตำรวจได้จริง
นี่คือบันไดขั้นแรกของกระบวนการยุติธรรม !!
ระบบของเราให้ตำรวจเบ็ดเสร็จ ถ้ามันบิดเบี้ยวไป ก็จะบิดเบี้ยวกันไปตลอดกระบวนการ
สำนวน > วินิจฉัย > ตัดสินต่าง ๆ ไม่เกิดความเป็นธรรมได้จริง
เพราะสำนวนทั้งหมดมาจากตำรวจ โดยอัยการไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง
ซึ่งไม่เหมือนกับต่างประเทศ ถ้าเป็นคดีอาชญากรรม อัยการต้องมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นทันที
เป็นแรงถ่วงดุลกันในการตรวจสอบ ---”
.
#WhoChillDay
3 ต.ค. 2566
ขอบคุณที่เข้ามาติดตามอ่านทุกเรื่องราว
และทักทาย WhoChillDay นะคะ
#สังศิต พิริยะรังสรรค์ #ตำรวจ
#รัฐบาลเศรษฐา 1 #เศรษฐกิจใต้ดิน
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
