8 ต.ค. 2023 เวลา 12:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

James Wan ผู้กำกับพันล้านผู้เปลี่ยน “ความกลัว” ให้เป็น “เงิน”

BD Originals by Bnomics
มีใครชื่นชอบหนังสยองขวัญบ้างยกมือขึ้น! เราสามารถพูดได้เลยว่าหนังสยองขวัญนั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งประเภทของภาพยนตร์ที่ ถ้าใครชอบก็ชอบมาก ถ้าใครเกลียดก็เกลียดมากเช่นเดียวกัน หนังสยองขวัญในอุตสาหกรรมฮอลลีวูดนั้นก็มีมากมายหลายเรื่อง บางเรื่องก็น่ากลัว บางเรื่องก็ไม่
โดยหนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญจากฮอลลีวูดที่เพิ่งเข้าโรงล่าสุดก็คงจะเป็น The Nun 2 หรือผีแม่ชีจากจักรวาลสยองขวัญ The Conjuring แฟรนไซส์หนังสยองขวัญที่ทำรายได้สูงที่สุดในปัจจุบันด้วยมูลค่ากว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
จักรวาลคอนเจอริ่ง (The Conjuring) นั้น จะมีผู้กำกับและโปรดิวเซอร์มือทองประจำแฟรนไซส์ผู้มีส่วนช่วยในถ่ายทอดบทภาพยนตร์ของสองพี่น้องตระกูลเฮส์ออกมาให้เหล่าผู้ชมได้ดู
ซึ่งชื่อของผู้กำกับหนังสยองขวัญคนนั้นก็คือ “เจมส์ วาน” (James Wan) ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์มือทองแห่งอาณาจักรสยองขวัญของฮอลลีวูด และผู้กำกับพันล้านชาวเอเชียคนแรก
📌เด็กชายจากมาเลเซียผู้เขย่าขวัญคนทั่วโลก
เจมส์ วานเกิดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ปี 1977 ในดินแดนมาเลเซียบนเกาะบอร์เนียวอย่างรัฐซาราวัก โดยเป็นทายาทในครอบครัวชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน และครอบครัวของเขาก็พาย้ายถิ่นฐานมายังออสเตรเลียเมื่อเขาอายุได้ 7 ปี
ก่อนที่จะค้นพบความชื่นชอบในศาสตร์ของภาพยนตร์ เขาจึงเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยในสาขาดิจิทัลมีเดีย และเริ่มทำงานเล็ก ๆ อย่างกำกับหนังสั้นและมิวสิควิดีโอ ส่งประกวดเพื่อเริ่มสร้างประสบการณ์และชื่อเสียง
ช่วงเวลาที่เข้าเรียนมหาลัยนี้เอง เขาก็ได้พบกับเพื่อนคนหนึ่งนาม “ลีห์ แวนเนลล์” (Leigh Whannell) ทั้งคู่จึงวางแผนที่จะสร้างภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องหนึ่งขึ้นมาจากความกลัวของพวกเขา โดยลีห์เป็นคนเขียนบท และเจมส์เป็นผู้กำกับ
ทั้งสองถ่ายทำวิดีโอขนาดสั้นเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ขึ้นมา และส่งไปยังบริษัททำหนังต่าง ๆ เพื่อระดมทุน ซึ่งหนังเรื่องแรกของเขานี้เองที่จะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล
📌เกม..ตัด..ต่อ..ตาย
ตัวอย่างภาพยนตร์ขนาดสั้นที่พวกเขาทำขึ้นมาได้ไปถูกใจบริษัทโปรดิวเซอร์แห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา และได้ขอให้เขาทำออกมาเป็นหนังตัวเต็มโดยจะสนับสนุนงบให้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งคู่ก็ได้สร้างภาพยนตร์จอเงินเรื่องแรกของพวกเขาอย่าง “ซอว์ เกม..ตัด..ต่อ..ตาย” (Saw) ในปี 2004
การสร้างเรื่องซอว์นั้นเต็มไปด้วยข้อจำกัดและความกดดันมากมาย โดยมีงบเพียง 1 ล้านเหรียญฯ นักแสดงน้อยคนที่อยากจะมาแสดงจนผู้เขียนบทต้องลงไปแสดงเอง ความคาดหวังจากบริษัท ตลอดจนความคิดว่าจะขายหนังเรื่องนี้ได้หรือไม่
แต่พอหนังฉายไป ปรากฏว่ากลายเป็นกระแสขึ้นมาและผู้คนชื่นชอบมาก หนังงบ 1 ล้าน แต่กวาดรายได้ถึง 100 ล้านเหรียญฯ และกลายเป็นแฟรนไซส์หนังสยองขวัญอีกหนึ่งเรื่อง
โดยแฟรนไซส์ซอว์ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 6 ของโลกจากบรรดาแฟรนไซส์หนังสยองขวัญต่าง ๆ และเป็นการแจ้งเกิดของเจมส์ และลีห์ด้วย
หลังจากความสำเร็จของซอว์ เจมส์ และลีห์ก็ต่างได้รับโอกาสมากขึ้นในวงการภาพยนตร์ ซึ่งทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไปตามงานที่ตนเองได้รับ เจมส์ได้งานในฐานะผู้กำกับ ในขณะที่ลีห์ได้งานในฐานะนักแสดงและนักเขียนบท
สไตล์ภาพยนตร์ของเจมส์ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสยองขวัญซึ่งมักจะมี “ตุ๊กตาผี” เป็นตัวละครสยองขวัญหลัก อย่างเช่น บิลลี่ในจักรวาลซอว์ บิลลี่ในเรื่องอาถรรพ์ผีใบ้ (Dead Silence) แอนนาเบลในจักรวาลคอนเจอริ่ง เป็นต้น
1
อีกทั้งเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในหนังก็มักจะเป็นคนธรรมดาที่ต้องมาตกที่นั่งลำบากในสถานการณ์สุดสยองขวัญด้วย อีกทั้งยังมีเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้ภาพยนตร์ของเขาน่ากลัวขึ้นก็คือเสียงเพลงและเสียงประกอบต่าง ๆ ซึ่งได้นักประพันธ์มือดีอย่าง โจเซฟ บิชาร่าและชาร์ลี คลาวเซอร์มาช่วยเหลือ
📌จักรวาลนักล่าผี กับเส้นทางผู้กำกับพันล้าน
หนึ่งในผลงานจากการกำกับและอำนวยการสร้างของเจมส์ วานที่นับว่ายิ่งใหญ่และไม่กล่าวถึงไม่ได้ก็คงจะหนีไม่พ้นจักรวาลนักล่าผีอย่าง “คอนเจอริ่ง” (The Conjuring)
เดอะ คอนเจอริ่งเป็นเรื่องราวสยองขวัญที่อิงมาจากเรื่องจริงของสามีภรรยาตระกูลวอร์เรน ซึ่งเป็นนักล่าสิ่งลี้ลับชื่อดังในอเมริกาผู้มีผลงานในการปราบผีมากมาย ซึ่งในเรื่องราวของคอนเจอริ่งก็จะเป็นเรื่องราวของการพบสิ่งลี้ลับที่ทำให้เจ้าของบ้านต้องไปจ้างวานให้สามีภรรยาตระกูลวอร์เรนมาจัดการ
เดอะ คอนเจอริ่งเป็นแฟรนไซส์ภาพยนตร์สยองขวัญที่ใช้บริการเจมส์ วานเป็นประจำ ซึ่งฝีมือการกำกับและอำนวยการสร้างของเจมส์ วานก็มีส่วนสำคัญในการทำให้เดอะ คอนเจอริ่งกลายมาเป็นแฟรนไซส์หนังสยองขวัญที่สร้างรายได้มากถึง 2 พันล้าน
และกลายเป็นแฟรนไซส์สยองขวัญที่ทำรายได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ แซงหน้าแฟรนไซส์เอเลี่ยนด้วยรายได้มากกว่าถึง 2 เท่าเลยทีเดียว
📌ไม่ใช่หนังสยองขวัญก็กำกับได้
ถึงแม้ว่าเจมส์ วานจะมีชื่อเสียงมากจากการกำกับภาพยนตร์สยองขวัญ แต่ฝีมือของเขานั้นมีมากกว่าการกำกับหนังสยองขวัญ โดยเจมส์ วาน ได้มีโอกาสกำกับหนังแอคชั่นอีก 2 เรื่อง และทั้งสองเรื่องนั้นก็กวาดรายได้ไปอีกเรื่องละพันล้าน
คือเรื่องฟาสต์แอนด์ฟิวเรียส 7 และอควาแมน ซึ่งผลงานทั้งสองเรื่องนี้ ทำให้เขาเป็นผู้กำกับคนที่สองในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ในฐานะผู้กำกับมือทองที่ทำให้ภาพยนตร์ 2 เรื่องจากคนละแฟรนไซส์มีรายได้แตะ 1 พันล้านเหรียญฯต่อเรื่อง
โดยเป็นรองแค่เจมส์ คาเมรอนผู้สร้างประวัติศาสตร์เป็นคนแรกจากเรื่องไททานิคและอวาตาร
📌ความสำเร็จเริ่มต้นจากการเอาชนะความกลัว
เจมส์ วาน นับว่าเป็นอีกหนึ่งบุคลากรสำคัญผู้ทรงอิทธิพลอย่างมากในโลกของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมสยองขวัญ
โดยความสามารถและความอัจฉริยะของเขาเองที่สามารถสร้างฉากความน่ากลัวออกมาได้และกลายเป็นปรากฏการณ์ในโลกภาพยนตร์ที่ทำให้มีแฟนคลับมากมายพร้อมกับนำพาให้ “อุตสาหกรรมสยองขวัญ” ยกระดับความน่าหลงใหลและความชื่นชอบของผู้ชมได้เรื่อยมา
ถึงแม้ว่าเจมส์ วานจะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วก็ตาม แต่ด้วยความดิ้นรนต่าง ๆ ในระหว่างการทำหนังเรื่องแรกของเขาก็นับว่าเต็มไปด้วยความกลัวและความกังวลไม่น้อย
ทั้งงบประมาณที่จำกัด นักแสดงน้อยคน ความคาดหวังจากค่ายผู้อำนวยการสร้าง ตลอดจนคิดไปว่าจะถูกจริตคนดูหรือไม่ ช่วงจุดเริ่มต้นของอาชีพนับว่าเป็นอีกหนึ่งความสยองขวัญสำหรับคนทำหนังเลยทีเดียว แต่ในท้ายที่สุด เมื่อผ่านพ้นความกลัวนั้นไปได้ ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีก
เช่นเดียวกันกับหนังสยองขวัญที่ตลอดการดำเนินเรื่องอาจจะมีฉากน่ากลัว หรือชวนตกใจ แต่ในตอนจบของหนัง มันก็จบไปเสียอย่างนั้น ถ้าจบดีตัวละครเอกก็รอดจากวิกฤต ถ้าจบแบบไม่ดีตัวละครเอกก็ไม่รอด ก็แค่นั้น ไม่ได้น่ากลัวอะไร
เหมือนกับว่าความน่ากลัวตลอดการดำเนินเรื่องมันได้สร้างภูมิคุ้มกันให้กับเรา ทำให้ความน่ากลัวของจุดจบนั้นเทียบไม่ได้เลยกับความน่ากลัวระหว่างทาง
“สำหรับผมแล้ว ความน่ากลัวมันอยู่ระหว่างทาง ไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทาง”
-James Wan
ผู้เขียน : ณัฐรุจา งาตา Content Creator, Bnomics
ภาพประกอบ : บริษัท ก่อการดี จำกัด
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
โฆษณา