14 ต.ค. 2023 เวลา 10:52 • คริปโทเคอร์เรนซี

dogecoin standard ตอนที่ 333 จุดอ่อนที่สำคัญของ physical gold standard

สำหรับผู้เขียนเมื่อก่อนก็มีความชื่นชอบใน physical gold เป็นอันมาก ได้เริ่มเก็บตั้งแต่ราคาประมาณ 15,000 บาท ต่อ 1 บาท จนถึง 29,000-30,000 บาท ผู้เขียนก็ทะยอยขายไปจนเกือบหมด เหลือเอาไว้นิดหน่อย เอาไว้เป็นที่ระลึก ส่วนมากจะเป็นทองคำที่ใช้เหลี่ยมพระ
3
สาเหตุที่ขายก็คือ เพราะได้มารู้จัก dogecoin standard ซึ่งเป็นเหรียญที่มีกระบวนการขุดคล้ายกับทองคำ แต่ดีกว่า 100 เท่า ด้วยหลายเหตุผลที่สำคัญ
2
1.ทองคำไม่สามารถส่งมอบได้
3
เนื่องจากความเป็น physical ของทองคำ ทำให้มีน้ำหนัก หากต้องส่งมอบทีละมาก ๆ ย่อมทำได้ยากและไม่สะดวก ด้วยสาเหตุนี้ ทำให้คนหันมาเทรดทองคำ และสะสมทองคำ ผ่านตลาดฟิวเจอร์หรือกองทุนแทน
2
ปัจจุบันร้านทองคำใหญ่ ๆ ก็สร้างแอฟเอาไว้เทรดทองคำได้ โดยที่กดซื้อขายผ่านแอฟได้เลย และฝากทองคำไว้กับทางร้านทองคำได้ โดยไม่ต้องมีการส่งมอบทองคำแม้แต่บาทเดียว ไม่ต้องไปที่ร้าน
2
ซึ่งสะดวกกับเจ้าของร้านทองคำ คือ ไม่ต้องมาตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือไม่ สะดวกทั้งทางลูกค้า ไม่ต้องถือทองคำเวลาซื้อขาย ไม่ต้องไปที่ร้านทองคำเลย
ระยะยาวร้านทองน่าจะเหลือไม่กี่ร้านและเทรดผ่านแอฟ ทั้งทองคำฟิวเจอร์
จริงๆ แล้วก็ไม่ต้องมีทองคำก็ได้ เทรดกันผ่านตัวเลข
2.ทองคำไม่สามารถตรวจสอบได้ ทั้งปริมาณและคุณภาพ
2
เนื่องจากระบบฟิวเจอร์ทองคำ และการฝากทองคำไว้กับทางร้านขายทองคำ ทำให้เราไม่ทราบปริมาณของทองคำทั้งหมดได้
ร้านทองคำอาจจะขายทองคำ เกินปริมาณที่ตัวเองมี ก็ไม่มีใครรู้ได้ เพราะไม่มีการ audit
1
แม้แต่เหมืองทองคำ เราก็ไม่รู้ว่ามีการขุดมาได้จำนวนตรงกับที่รายงานหรือเปล่า อาจจะส่งแค่รายงานตัวเลข มาให้เราดูเท่านั้น ไม่มีทองคำอยู่จริงก็เป็นไปได้ ตรวจสอบไม่ได้
1
ปริมาณการผลิตทองคำในรอบ 100 ปี ทองคำผลิตได้มากขึ้นเรื่อย ๆ
รายงานที่บอกว่าขุดทองคำได้ปีละ 3,000 ตัน ถ้าพิจารณาดูแล้วก็อาจจะไม่จริง เพราะไม่มีการตรวจสอบ เพราะแค่ออสเตรเลียส่งทองคำไปให้จีน 100 ตันก็ลำบากแล้ว นี่ขุดได้ปีละ 2,000-3,000 ตันมาหลายสิบปี เราจะเชื่อถือได้อย่างไร
2
สมมุติถ้าร้านค้ารับฝากทองคำกับลูกค้าเกิน 100 เท่าของทองคำที่มี ก็สามารถทำได้ ถ้าลูกค้าไม่มีใครถอนทองคำออก จะขายไปเท่าไหร่ก็ได้ นี่คือระบบฟิวเจอร์นี่เอง จะสร้างทองคำมาขายเท่าไหร่ก็ได้ จะเรียกว่าพิมพ์ทองมาขายก็ได้
3
ปัญหาทั้ง 2 ข้อนี้ ด้วยการมาของ dogecoin standard จะสามารถแก้ไขได้ทั้งหมด คือส่งมอบได้และตรวจสอบได้ คือคุณสมบัติของ digital gold standard
2
ในบางความคิด ผู้เขียนยังรู้สึกว่า ระบบ physical gold standard พังไปตั้งแต่ปี 1971 แล้ว หลังจากนั้นปริมาณทองคำ อาจจะกลายเป็นแค่ตัวเลข มาตั้งแต่สมัยนั้นแล้วก็เป็นได้ รายงานแค่ตัวเลขปลอม ๆ ไม่ได้มีการขุดทองคำได้ถึงปีละ 3,000 ตัน จริง ๆ แล้วอาจจะขุดได้แค่ 200-300 ตันต่อปีเท่านั้น เอาไว้ขายในร้านทองคำ
2
เพราะตัวทองคำจริง ๆ นั้นขุดยากและสร้างมลพิษแก่สิ่งแวดล้อมมหาศาล ชาวบ้านประท้วง โอกาสจะขุดได้มาก ๆ ทำได้ยาก นี่ขุดได้เพิ่มทุกปี แทบเป็นไปไม่ได้ ขนาดหุ้นเหมืองทองคำอย่างทุ่งคา ยังเจ็งไปแล้ว ถูก delisted โดนชาวบ้านประท้วงจนขุดไม่ได้
1
ขนาดประเทศไทยเองได้ชื่อว่าดินแดนสุวรรณภูมิ ยังไม่มีหุ้นเหมืองทองคำเหลือเลยสักเหมือง เป็นไปได้ไงงบก็ขาดทุนหนัก ทั้งที่ราคาทองคำเพิ่มขึ้นตลอด
2
มาถึงยุคปัจจุบันจึงสร้างระบบที่เลียนแบบการขุดทองคำอย่าง Pow ขึ้นมาได้ มีทั้ง miner และ exchange แสดงว่านี่อาจจะใช้ส่งเฉพาะแค่ตัวเลขมานานแล้ว เป็นต้นแบบของระบบ digital gold นั่นเอง
3
โดยสรุปผู้เขียนชอบในแนวคิดของ digital gold standard มากกว่า physical gold standard เพราะสามารถส่งมอบได้จริง ตรวจสอบได้ โกงไม่ได้ และสะดวกในการเก็บรักษา
3
นั่นคือเหรียญ dogecoin นั่นเอง เพราะมีอัตราผลิตคงที่ ตลอดไป ส่วนบิทคอยน์ที่ไม่น่าสนใจเพราะการ halving ลดกำลังการผลิตครึ่งหนึ่งทุก 4 ปี ทำให้ระยะยาว การผลิตจะน้อยลง เกิดวิกฤตสภาพคล่อง และ กลายเป็น dead currency ต่อไป
3
dogecoin standard เป็น digital gold standard ก่อให้เกิด CBDC แล้วเข้าสู่ UBi economy ต่อไป ผู้เขียนเชื่อในแนวทางนี้มากกว่า physical gold น่าจะหมดยุคสมัยไปนานแล้ว
3
ข้อสังเกตุคือโครงการ CBDC ทำกันมานานกว่า 6 ปีแต่ยังไม่มีประเทศไหนนำมาใช้เลยสักประเทศเดียว ผู้เขียนคาดว่า น่าจะรอ digital gold standard นี่แหละ
4
ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดี ๆ ต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา