Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วิศวกรเค้นประสิทธิภาพ
•
ติดตาม
21 ต.ค. 2023 เวลา 02:52 • ธุรกิจ
แนวคิด "Zero Breakdown"
เป็นหนึ่งในแนวคิดที่มุ่งหาความยั่งยืนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานหรือการผลิต โดยเน้นที่จะลดหรือหยุดการเกิดความขัดข้องหรือการเสียหายของเครื่องจักรและอุปกรณ์ในกระบวนการการผลิตหรือการให้บริการไปยังเลขศูนย์ (Zero) ซึ่งหมายความว่าไม่มีความขัดข้องเกิดขึ้นเลย แนวคิดนี้เน้นความปลอดภัยในการทำงานและการเพิ่มผลผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพด้วยความเสถียรและต่อเนื่อง
.
รักษาเครื่องจักรสภาพให้สภาพดี และทำความสะอาดเครื่องจักรเป็นหัวใจของการบำรุงรักษาและการดูแลเครื่องจักร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของเครื่องจักร การรักษาเครื่องจักรในสภาพที่ดีถือเป็นหัวใจของหลายอุตสาหกรรม
โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมผลิตที่ต้องพบกับเครื่องจักรในการผลิตหรือการบริการอยู่เสมอ หัวใจของการรักษาสภาพเครื่องจักรคือแนวคิด "Basis Condition" หรือสภาพพื้นฐานของเครื่องจักร ซึ่งเน้นที่การทำความสะอาด การเปลี่ยนน้ำมัน และการรักษาสภาพที่เป็นขั้นแน่นอันสำคัญ ภายในบทความนี้เราจะสำรวจแนวคิด "Basis Condition" และขั้นตอนที่สำคัญในการรักษาเครื่องจักรให้อยู่ในสภาพดีและป้องกันความขัดข้อง
https://leantpm.co/2021/09/06/ทำไมต้องทำ-am-เป็นคำถามยอ/
.
การเดินเครื่องจักรในสภาวะที่ปกติ (Normal Condition) เป็นสิ่งสำคัญที่มีผลสำคัญต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของกระบวนการหรืออุปกรณ์ การรักษาสภาวะปกติช่วยให้เราคงความสมดุลและความสมบูรณ์ในการทำงาน ในบทความนี้เราจะสนใจเรื่องวิธีการเดินเครื่องจักรในสภาวะปกติและความสำคัญของมัน.
ความสำคัญของการเดินเครื่องจักรในสภาวะปกติ
1.ประสิทธิภาพ: เครื่องจักรที่ทำงานในสภาวะปกติมักมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ส่งผลให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพสูง.
2.คุณภาพ: การรักษาสภาวะปกติช่วยในการควบคุมและรักษาคุณภาพของผลผลิตหรือบริการ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและมีความพึงพอใจ.
3.ความปลอดภัย: การใช้งานเครื่องจักรในสภาวะปกติช่วยในการลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความปลอดภัย.
4.ประหยัดเวลาและทรัพยากร: การรักษาสภาวะปกติช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากร โดยไม่ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาหรือซ่อมแซม.
วิธีการเดินเครื่องจักรในสภาวะปกติ
1.การเคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง: เริ่มต้นด้วยการเคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง มั่นใจว่าคุณมีความรู้และความเข้าใจในการทำงานที่ต้องดำเนิน ระวังต่อสิ่งรอบข้างและปฏิบัติตามมาตรฐานของการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย.
2.การรักษาความสมดุล: รักษาความสมดุลระหว่างการทำงาน การพักผ่อน และการดูแลสุขภาพของคุณเอง เพื่อให้คุณสามารถรักษาสภาวะปกติ.
3.การตรวจสอบและการประเมิน: ส่งเสริมการตรวจสอบและประเมินผลการทำงานอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบว่าคุณยังคงอยู่ในสภาวะปกติและอำนวยความสะดวกในการแก้ไขปัญหาหากมีความผิดปกติ.
4.การรับฟังและการเรียนรู้: รับฟังความคิดเห็นและคำแนะนำ และเรียนรู้เรื่องการปรับปรุงและการพัฒนาผลงาน.
การเดินเครื่องจักรในสภาวะปกติเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงาน นอกจากนี้ มันยังช่วยในการรักษาความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการทำงาน การรักษาสภาวะปกติช่วยให้เราสามารถจัดการกับความท้าทายและประสบความสำเร็จในการทำงานและชีวิต. การรักษาสภาวะปกติเป็นหัวใจของการรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพในสายงาน
การตรวจจับความผิดปกติของเครื่องจักรด้วยการตรวจสอบด้วยสายตา (Visual Inspection) เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยในการตรวจสอบและระบุความผิดปกติในอุปกรณ์หรือระบบต่าง ๆ โดยใช้การมองด้วยตาเปล่า กระบวนการนี้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการค้นหาปัญหาและตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือสภาวะเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาวะปกติ ในบทความนี้เราจะสนใจการใช้การตรวจสอบด้วยสายตาในการค้นหาความผิดปกติและความสำคัญของกระบวนการนี้.
ความสำคัญของการตรวจสอบด้วยสายตา
1.ความเป็นปกติ: การตรวจสอบด้วยสายตาช่วยในการรักษาสภาวะปกติของผลิตภัณฑ์และกระบวนการ ซึ่งมีความสำคัญในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและป้องกันปัญหาในอนาคต.
2.ความปลอดภัย: การใช้งานอุปกรณ์หรือระบบที่มีความผิดปกติอาจสร้างความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ การตรวจสอบด้วยสายตาช่วยลดความเสี่ยงนี้.
3.ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย: การตรวจสอบด้วยสายตาช่วยลดความต้องการในการซ่อมแซมหรือแก้ไขปัญหาในระยะยาว ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย.
4.คุณภาพ: การตรวจสอบด้วยสายตาช่วยในการควบคุมและรักษาคุณภาพของผลผลิต ซึ่งส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและลูกค้าพึงพอใจ.
กระบวนการการตรวจสอบด้วยสายตา
1.การรับรู้สภาวะปกติ: กระบวนการเริ่มต้นด้วยการรับรู้สภาวะปกติ ในการทำงานหรือในสภาวะประจำวัน เราต้องเข้าใจและระบุสภาวะที่ปกติ.
2.การตรวจสอบอย่างรอบคอบ: การตรวจสอบด้วยสายตาควรเป็นอย่างรอบคอบโดยใช้แสงที่เพียงพอ และอุปกรณ์ช่วยเพื่อเพิ่มความชัดเจน เช่น แว่นขยาย, กล้องขยาย, หรือเครื่องมือที่มาพร้อมกับระบบการตรวจสอบ.
3.การระบุความผิดปกติ: การตรวจสอบด้วยสายตาควรระบุความผิดปกติและบันทึกรายละเอียดของปัญหาที่พบ เช่น รอยขีดข่วน, ตำหนิ, หรือสภาวะที่ไม่ตรงตามคาดหวัง
4.การแจ้งเตือนและการแก้ไข: หากค้นพบความผิดปกติ ควรแจ้งเตือนผู้ที่เกี่ยวข้องและดำเนินการแก้ไขให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันปัญหาจากการขยาย.
การตรวจสอบด้วยสายตาเป็นกระบวนการที่สำคัญในการค้นหาความผิดปกติและรักษาคุณภาพในการผลิตและการให้บริการ นอกจากนี้ มันยังช่วยในการรักษาความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการทำงาน การใช้การตรวจสอบด้วยสายตาอย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้เรารักษาสภาวะปกติและป้องกันความผิดปกติก่อนที่จะเกิดปัญหาในอนาคต.
#วิศวกรเค้นประสิทธิภาพ #hozenkaizen
www.leantpm.co
1 บันทึก
1
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย